อดข้าวไม่ว่า แต่เสื้อผ้าห้ามซ้ำ! ลิปสีนี้มี แต่ก็ไม่ใช่เฉดเดียวกัน นิยามนี้ดูเหมือนจะยังคงใช้ได้กับยุคปัจจุบัน ด้วยเพราะความสวย ความงาม และความลักชัวรี่ยังคงเป็นสิ่งต้องตาต้องใจสำหรับสาวๆ ทำให้ภาพรวมการใช้จ่ายกลุ่มสินค้าลักชัวรี่ ล่าสุดเติบโตสูง 4 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนโควิด
ซึ่งจากข้อมูลของ The 1 Insight ระบุว่า การใช้จ่ายสินค้าบิวตี้มีการเติบโตสูงกว่าสินค้าแฟชั่น 10% ตรงกับทฤษฎี “Lipstick Effect” ที่ใช้อธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในช่วงที่กำลังซื้อภาพรวมลดลง ทว่ายอดการใช้จ่ายสินค้าบิวตี้กลับเติบโตสวนทาง เนื่องจากเป็นสินค้าที่ชุบชูจิตใจได้ไม่แพ้สินค้าแฟชั่นแบรนด์หรู แต่มาในงบประมาณที่เข้าถึงได้สำหรับคนส่วนใหญ่นั่นเอง
โดยสินค้าที่ยอดขายเติบโตสูงสุดในหมวดบิวตี้ ได้แก่ ลิปสติก พาเลตต์แต่งหน้า น้ำหอม ส่วนในหมวดแฟชั่น สินค้าที่มียอดขายเติบโตสูงสุด ได้แก่ กระเป๋าถือ แอคเซสเซอรี รองเท้า
นอกจากนี้ ยังพบว่าคนแต่ละช่วงวัยมีการใช้จ่ายกับสินค้าแต่ละประเภทในสัดส่วนที่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยกลุ่ม Gen Z ใช้จ่ายกับเครื่องสำอาง น้ำหอม และสกินแคร์ สูงสุดตามลำดับ ส่วน Gen Y ใช้จ่ายกับสินค้าแฟชั่น สกินแคร์ และน้ำหอม ตามลำดับ Gen X ใช้จ่ายกับสกินแคร์และสินค้าแฟชั่น เมกอัพ และน้ำหอม สูงสุดตามลำดับ ส่วน Baby Boomers ใช้จ่ายกับสกินแคร์ สินค้าแฟชั่น และเมกอัพ สูงสุดตามลำดับ สอดคล้องกับพฤติกรรมและความสนใจของคนแต่ละช่วงวัยอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ ยังมีจุดที่น่าสนใจที่กลุ่ม Gen Z มีการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าลักชัวรี่ เติบโตสูงสุดจากทุกช่วงวัย เป็นผลให้แบรนด์ระดับโลกที่เล็งเห็นโอกาสเริ่มดำเนินกลยุทธ์ในการดึงดูดกลุ่ม Gen Z มากขึ้น ชัดเจนในช่วง 2-3 ปีให้หลังนี้
อาทิ การใช้ดาราและอินฟลูเอนเซอร์ที่กลุ่ม Gen Z ติดตาม รวมถึง Storytelling ของแบรนด์ต่างๆ ที่เน้นการแสดงตัวตนที่ Authentic และมุมมองต่อ Sustainability ซึ่งแน่นอนว่าแบรนด์ยังไม่สามารถทิ้งกลุ่มลูกค้าอื่นๆ ได้เช่นกัน เนื่องจากกำลังซื้อส่วนใหญ่ยังอยู่ที่ Gen Y, Gen X และ Baby Boomer ตามลำดับ
โดยทั้ง 3 ช่วงวัยนั้นยังถือว่าเป็นลูกค้ากลุ่มสำคัญของแบรนด์ นอกจากจะมีสัดส่วนการใช้จ่ายสูงแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Y พบว่าคนกลุ่มนี้มีความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) สูงกว่ากลุ่ม Gen Z ที่เปิดกว้างมากกว่าและพร้อมเปลี่ยนแบรนด์ที่ชื่นชอบตลอดเวลา
ในส่วนของช่องทางการใช้จ่าย นอกจากช่องทางออนไลน์ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น E-Commerce หรือ Social Commerce ช่องทางหน้าร้านก็ยังคงมีความสำคัญอย่างมาก ไม่เพียงในกลุ่ม Gen X และ Baby Boomer ที่นิยมการใช้จ่ายที่หน้าร้านมากกว่าเท่านั้น
โดยผลสำรวจจาก CRC VoiceShare ในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2567 เผยว่า 50% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ซื้อสินค้าในหมวดแฟชั่นและบิวตี้อย่างน้อย 1 รายการในช่วงเวลา 1 เดือน และนักช็อปสายลักชัวรี่ส่วนใหญ่ยังคงนิยมใช้จ่ายที่หน้าร้าน เนื่องจากสามารถมอบ Customer Experience ที่สะดวกสบายและมอบความรู้สึกพิเศษให้ได้มากกว่า ซึ่งแบรนด์และห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทราบในจุดนี้ดี
เห็นได้ชัดจากการเปิดตัว Luxe Galerie พื้นที่แฟชั่นแห่งใหม่ใจกลางกรุง ณ ห้างเซ็นทรัล ชิดลม ที่นำเสนอแบรนด์ชั้นนำระดับโลกในรูปแบบบูทีค พร้อมไฮไลต์สำคัญอย่าง ‘Shoes Avenue’ ครั้งแรกในประเทศไทย ที่ให้ลูกค้าสามารถลองและเลือกช็อปรองเท้าแบรนด์ลักชัวรี่ได้หลากหลายแบรนด์ ครบทุกสไตล์ในพื้นที่เดียว เป็นการนำเสนอภาพลักษณ์สมัยใหม่ที่ดึงดูดคนทุกช่วงวัยมาสัมผัสประสบการณ์การช็อปที่หน้าร้านได้อย่างดี
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney