ทุ่มลงทุนขยายห้างยุโรป กลุ่มเซ็นทรัลกับการล้มละลายของพันธมิตร

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ทุ่มลงทุนขยายห้างยุโรป กลุ่มเซ็นทรัลกับการล้มละลายของพันธมิตร

Date Time: 5 ส.ค. 2567 06:15 น.

Summary

  • กลุ่มเซ็นทรัลโล่งอก!! ฝ่ามรสุมเข้าครอบครองห้างหรูในเยอรมนีเบ็ดเสร็จ หลังพันธมิตรยื่นล้มละลาย ยังมีภาระจากผลกระทบการล้มละลายของกลุ่มซิกน่า ในโครงการร่วมทุนสร้างห้างหรูในออสเตรีย และห้างในสวิตเซอร์แลนด์ว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร

Latest

รอบรั้วการตลาด : Mega Clinic ทำ all-time high เปิดกลยุทธ์ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเซ็นทรัลได้ประกาศความสำเร็จในการเข้าครอบครองห้างสรรพสินค้าหรู 3 แห่งในเยอรมนีจากกลุ่มคาเดเว โดยไม่เปิดเผยมูลค่าการลงทุนล่าสุด ซึ่งรวมถึงห้างสรรพสินค้าคาเดเวในกรุงเบอร์ลิน, ห้างโอเบอร์โพลลิงเกอร์ในเมืองมิวนิก และห้างอัลสแตร์เฮาส์ในเมืองฮัมบูร์ก การเข้าครอบครองครั้งนี้ทำให้กลุ่มเซ็นทรัลเป็นเจ้าของและผู้ดำเนินการห้างสรรพสินค้าหรูทั้งสามแห่งในเยอรมนีภายใต้ชื่อบริษัทใหม่ KaDeWe GmbH พร้อมกับการครอบครองอาคารที่ตั้งของห้างคาเดเวบนถนนโทเอนซีนสตราสเซอ ซึ่งเป็นถนนช็อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงเบอร์ลิน ทั้งนี้ กลุ่มเซ็นทรัลได้แต่งตั้ง “ทีโม เวเบอร์” เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ KaDeWe GmbH และ “ซีโมน ไฮฟต์” เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อและบริหารสินค้า มีผลทันที โดย ทีโม เวเบอร์ มีประสบการณ์และเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการดำเนินงานของกลุ่มคาเดเว ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า การเข้าครอบครองครั้งนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มเซ็นทรัลในการสนับสนุนและผลักดันธุรกิจในยุโรปให้ดำเนินต่อไปอย่างมั่นคง โดยขอบคุณผู้บริหารและทีมงานคาเดเวทุกคนที่ทุ่มเทความพยายามในการสนับสนุนบริษัทในช่วงเวลายากลำบาก กลุ่มเซ็นทรัลจะมุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับคาเดเว และห้างสรรพสินค้าในยุโรปทุกแห่ง ด้วยความเชี่ยวชาญด้านค้าปลีกและบริการ พร้อมนำศักยภาพของห้างในแต่ละประเทศมาส่งเสริมธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน สำหรับพนักงาน พันธมิตร และลูกค้าทุกคน

“กรณีดังกล่าวสะท้อนถึงอนาคตของห้างกลุ่มคาเดเวในเยอรมนี อย่างชัดเจน หลังกลุ่มเซ็นทรัลได้ร่วมทุนกับกลุ่มซิกน่า (Signa) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ที่สุดในยุโรป ในปี 58 โดยถือหุ้นในสัดส่วน 50.1% และ 49.9% ตามลำดับ เพื่อต่อยอดกลุ่มห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมียมและลักชัวรีไปยังประเทศต่างๆในยุโรป อย่างไรก็ตาม ปัญหาเกิดขึ้นจากการที่กลุ่มซิกน่า ซึ่งเป็นหุ้นส่วนสำคัญได้ประกาศล้มละลายไปเมื่อปลายปี 66 พร้อมหนี้สินมากกว่า 5,000 ล้านยูโร ส่งผลกระทบต่อเจ้าหนี้และผู้ลงทุนอย่างกว้างขวาง รวมถึงกลุ่มคาเดเว ซึ่งประกาศล้มละลายเมื่อ 26 ม.ค.67 จากปัญหาภาระค่าเช่าซึ่งสูงมาก แม้จะมีการปรับปรุงห้างใหม่และมียอดขายสูงก็ตาม นอกจากนี้ ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนได้ส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อ ทำให้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นกว่า 37% เมื่อเทียบกับปี 62 ส่งผลให้บริษัทไม่สามารถทำกำไรได้ ฝ่ายบริหารของกลุ่มคาเดเว ต้องยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลเห็นด้วยกับแนวทางนี้ จนในที่สุดดีลการครอบครองก็ประสบความสำเร็จ”

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้กลุ่มเซ็นทรัลได้เข้าซื้อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ถือครองกรรมสิทธิ์ อาคารและที่ดิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างสรรพค้าคาเดเว โดยได้เปลี่ยนสถานะจากผู้เช่ามาเป็นผู้ให้เช่า ส่งผลให้สถานการณ์คลี่คลายในทางที่ดี อย่างไร ก็ตาม ยังมีอีก 2 โครงการที่กลุ่มเซ็นทรัลร่วมถือหุ้นกับกลุ่มซิกน่า ซึ่งจะต้องเดินหน้าเคลียร์ปัญหาให้ลงตัวต่อไปคือ ห้างในสวิตเซอร์แลนด์ และการลงทุนห้าง และโรงแรมหรูในออสเตรีย

สำหรับกลุ่มเซ็นทรัลปัจจุบันนับว่าเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจห้างหรูในยุโรป โดยมีห้างทั้งหมด 8 แบรนด์ จำนวน 40 สาขา ได้แก่ ห้างเซลฟริดเจส ในอังกฤษ 4 สาขา, บราวน์ โทมัส ในไอร์แลนด์ 6 สาขา, ดี แบนคอร์ฟ ที่เนเธอร์แลนด์ 7 สาขา, อาร์นอตส์ ที่ไอร์แลนด์ 1 สาขา, โกลบุส ที่สวิตเซอร์แลนด์ 9 สาขา, คาเดเว เบอร์ลิน, อัลสแตร์เฮาส์ ที่ฮัมบูร์ก และโอเบอร์โพลลิงเกอร์ ที่เมืองมิวนิก แห่งละ 1 สาขา.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ