เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 67 ที่ผ่านมา China Mobile จัดการประชุมความร่วมมือระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำปี 2567 ในหัวข้อการบรรจบกันของข้อมูลและอินเทอร์เน็ต อนาคตอันชาญฉลาด โดยการประชุมดังกล่าวเป็นการหารือเกี่ยวกับวิสัยทัศน์การพัฒนาและร่วมกันกำหนดอนาคตของความร่วมมือกับรัฐบาลประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และพันธมิตร ในการสร้างระบบเศรษฐกิจดิจิทัล โดยมีผู้สนใจทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนผู้ให้บริการชั้นนำจากประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เช่น H.E.Prasert Jantararuangtong รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของไทย, หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย, H.E. Dr. Piti Srisangnam ผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิอาเซียน, เตียว เนียน ชุน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมมาเลเซีย, H.E.Keovisouk Solaphom รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสารสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
รวมไปถึงเกา ถงชิง รองประธานบริหาร บริษัท โมบาย คอมมิเคชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ตลอดจนพันธมิตรองค์กร ICT ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติเข้าร่วมการประชุมมากกว่า 1,200 คน จัด โดยบริษัท China Mobile Migu Company ถ่ายทอดกิจกรรมทั้งหมดทางออนไลน์
นาย เกา ถงชิง รองประธานบริหาร บริษัท โมบาย คอมมิเคชั่นส์ กรุ๊ป จํากัด กล่าวว่า หลังการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 เทคโนโลยีดิจิทัลชาญฉลาด มีการพัฒนาในเชิงลึก ขณะที่การฟื้นตัวและการเติบโตของเศรษฐกิจโลกกำลังนำมาซึ่งโอกาสในการพัฒนาใหม่ๆ เริ่มต้นจากเทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่ที่นำเสนอโดย 5G และ AI ได้กลายเป็นกลไกใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล
ประการที่สอง เศรษฐกิจที่นำเสนอโดยจีนและอาเซียนได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่เพื่อส่งเสริมการพัฒนาของเศรษฐกิจดิจิทัลระดับโลก ประการที่สาม ความร่วมมือพหุภาคีและความร่วมมือหลายสาขาได้กลายเป็นรูปแบบใหม่ของความร่วมมือทางเศรษฐกิจดิจิทัล
เมื่อต้องเผชิญกับโอกาสใหม่ๆ ในยุคดิจิทัล China Mobile ยินดีที่จะทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อสร้างสะพานสำหรับการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่างจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และร่วมกันสร้างแพลตฟอร์มความร่วมมือเพื่อแบ่งปันเศรษฐกิจดิจิทัลระดับภูมิภาค
สิ่งสำคัญประการแรกคือการร่วมกันสร้างทางหลวงดิจิทัลและอัจฉริยะ และร่วมกันปรับปรุงระดับการเชื่อมต่อโครงข่ายของสิ่งอำนวยความสะดวกดิจิทัล ประการที่สองคือการร่วมกันสร้างมูลค่าของเศรษฐกิจอัจฉริยะดิจิทัล และร่วมกันสร้างแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของการบูรณาการดิจิทัลอย่างแท้จริงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประการที่สามคือการร่วมกันส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองของระบบนิเวศอัจฉริยะดิจิทัล และแบ่งปันเงินปันผลจากการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลกอีกด้วย
อย่างไรก็ดีในการประชุมครั้งนี้ ยังได้มีการเปิดตัวโครงการริเริ่มเพื่อร่วมกันสร้างฐานใหม่สำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง China Mobile กับพันธมิตรจากไทย ลาว มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ เพื่อร่วมกันส่งเสริมการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และช่วยเหลือเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์
นอกจากนี้ China Mobile International ยังได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, PT Telekomunikasi Selular ในอินโดนีเซีย, Maxis Berhad และ U Mobile Sdn. Bhd ในมาเลเซีย และ MobiFone Global และ Technology JSC ในเวียดนาม เพื่อสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งใหม่ระหว่างกัน ผลประโยชน์ win-win และการพัฒนาความร่วมมือ ในการประชุมโต๊ะกลมที่จัดขึ้น
โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐจากกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตัวแทนอาวุโสของ Thailand Telecom และ Malaysia Digital Nation Limited ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจาก Deloitte China และ Nanyang Technological University มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หัวข้อที่ทำงานร่วมกันได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและสร้างฉันทามติสำหรับความร่วมมือ
ขณะเดียวกันก็ยังได้จัดเวทีพิเศษข้อมูลช่วยเดินเรือ ความฉลาดช่วยให้องค์กรที่ได้รับทุนสนับสนุนจากจีนไปต่างประเทศเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล โดย นายเจียง เหว่ย รัฐมนตรีที่ปรึกษาสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เข้าร่วมและกล่าวสุนทรพจน์, China Academy of Information and Communications Technology และ Huawei เปิดตัว "Blue Paper Report on the Digital Development of Chinese Enterprises Going Abroad (Asia-Pacific)" พร้อมร่วมมือกับหอการค้าไทยวิสาหกิจจีน สมาคมวิสาหกิจจีน (สิงคโปร์)
หอการค้าทั่วไปรัฐวิสาหกิจจีนมาเลเซีย, สมาคมจีนอินโดนีเซีย, หอการค้าเวียดนาม-จีน, และหอการค้ากัมพูชา-จีน, สมาคมวิสาหกิจจีนในญี่ปุ่น, หอการค้าจีนในเกาหลี, สาขาเมลเบิร์นของหอการค้าจีนทั่วไปในออสเตรเลีย และหอการค้าทั่วไปของฟิลิปปินส์แห่งวิสาหกิจจีนได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ เพื่อช่วยส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลขององค์กรที่ได้รับทุนสนับสนุนจากจีนในต่างประเทศ
ขณะที่ช่วงบ่ายมีการประชุมโต๊ะกลมเพื่อหารือเกี่ยวกับโอกาสในการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลขององค์กรในต่างประเทศของจีน และสร้างพื้นฐานสำหรับการสร้างองค์กรที่มีเทคโนโลยีสูง สนับสนุนทุนจีนให้กับรูปแบบใหม่ของการเปิดกว้างในแนวนอน
ในระหว่างการประชุม China Mobile ได้สร้างพื้นที่นิทรรศการพิเศษและจัดเตรียมรายการนิทรรศการโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลระดับโลกของ China Mobile อย่างระมัดระวัง ซึ่งรวมถึงการโทรใหม่ 5G+ เสียงเรียกเข้าวิดีโอ 5G+ และรายการนิทรรศการซีรีส์ธุรกิจส่วนตัวของโทรศัพท์มือถือระบบคลาวด์ 5G รวมถึงการให้คำปรึกษาแก่ผู้ให้บริการ เครือข่ายส่วนตัว 5G, 5G+ smart รายการนิทรรศการชุดธุรกิจของผู้ให้บริการสำหรับบ้านและการหักบัญชีและการตั้งถิ่นฐานแบบโรมมิ่ง ได้แก่ 5G+ smart park, 5G+ smart port, โรงอาหารอัจฉริยะ 5G+ และรายการนิทรรศการชุดธุรกิจองค์กรสำนักงานอัจฉริยะ 5G+ และรายการนิทรรศการแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ 5G+ Jiutian ซึ่งจัดแสดงอย่างครอบคลุมของ China Mobile ความสามารถหลักในความสามารถ การใช้งานในอุตสาหกรรม ความร่วมมือทางนิเวศวิทยา ฯลฯ
ขณะเดียวกัน China Mobile เดินหน้าขยายการดำเนินงานระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และบนพื้นฐานของการให้บริการผู้ใช้โรมมิ่งบนเครือข่ายขนาดใหญ่ China Mobile ได้พัฒนาธุรกิจส่วนบุคคล ผู้ปฏิบัติงาน และองค์กรในวงกว้าง มีทรัพยากรระบบเคเบิลทั้งทางบกและทางทะเลมากกว่า 90 แห่ง ซึ่งเชื่อมต่อกับ 78 ประเทศ โดยมีแบนด์วิธรวมมากกว่า 390T และจุด PoP ในต่างประเทศ 310 จุด ได้ปรับใช้ทรัพยากรศูนย์ข้อมูลในฮอตสปอต เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ลอนดอน และแฟรงก์เฟิร์ตเพื่อเพิ่มอิทธิพลของ China Mobile โซลูชันต่างๆ เช่น เครือข่ายคลาวด์ประมวลผลอัจฉริยะ สวนอัจฉริยะ
การสื่อสารการเดินทางเพื่อธุรกิจข้ามพรมแดน และอินเทอร์เน็ตยานยนต์ครบวงจร ให้การสนับสนุนอย่างครอบคลุมแก่บริษัทที่ได้รับทุนสนับสนุนจากจีนในการเดินทางไปต่างประเทศ ในปี 2566 รายได้จากการดำเนินงานของบริษัทจะเกินหนึ่งล้านล้านหยวน และผลกำไรของบริษัทจะแตะระดับสูงสุดใหม่ บริษัทได้กลายเป็น สามผู้นำระดับโลก ในด้านขนาดเครือข่าย ขนาดลูกค้า และขนาดรายได้ และเป็นสี่ผู้นำระดับโลก ในด้านนวัตกรรม ความสามารถ มูลค่าแบรนด์ มูลค่าตลาดของบริษัท และระดับความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่ดำเนินกิจการโทรคมนาคม
หลังเสร็จสิ้นการประชุม China Mobile ได้รับการยกย่องและเชื่อมั่นว่าจะสามารถรวบรวมพลังทางนิเวศวิทยาของภูมิภาคมาร่วมมือกัน ส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาค
นางสาวจตุรพร ธนาพรสังสุทธิ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายการตลาด ประเทศไทยและอินโดไชน่า บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แบรนด์รังนกแท้ ขอเป็นสื่อกลางในการบอกรักและบอกเล่าเรื่องราวความเก่งของแม่ทุกคนทั่วประเทศ ด้วยแคมเปญ ยิ่งโต ยิ่งเข้าใจ ความรักของแม่ เชิญชวนให้ลูกๆ ทุกคนแสดงออกถึงการชื่นชมความเก่ง และเข้าใจความรักของแม่ที่แสนพิเศษไม่เหมือนใคร ด้วยแบรนด์รังนกแท้ โดยได้ 3 สาว 3 เจเนอเรชันคนดัง คุณแม่ออฟ-วัจฉสา ภักดิ์สุขเจริญ, แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ, น้องปีใหม่-เอวาริณ เตชะณรงค์ มาถ่ายทอดเรื่องราวความรักความผูกพันระหว่างแม่ลูก รวมทั้งความเก่ง ความทุ่มเทของแม่ ผ่านภาพยนตร์โฆษณา
สำหรับแคมเปญพิเศษต้อนรับวันแม่ในปีนี้ แบรนด์รังนกแท้เดินกลยุทธ์ Emotional Marketing ดึงอินไซต์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย สื่อสารโพสิชันนิ่งการเป็นของขวัญล้ำค่าที่ช่วยดูแลสุขภาพของแม่อันเป็นที่รัก ช่วงชิงยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมจัดโปรโมชันพิเศษสุดทุกช่องทางการจัดจำหน่ายครีเอตของพรีเมียมสุดเอ็กซ์คลูซีฟจำนวนจำกัดที่ออกแบบโดยน้องปีใหม่ ที่ทำให้การบอกรักแม่ในปีนี้น่าประทับใจยิ่งขึ้น ระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม ถึง 31 สิงหาคม 2567