ดร.ดิมอย รอย รองหัวหน้าฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม ตลาดเกิดใหม่ ลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวว่า ปัญหาที่เกี่ยวกับเม็ดสีผิวนั้นไม่ใช่เรื่องผิวเผิน และมีข้อมูลระบุถึงผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตที่ลดลง ลอรีอัลทุ่มเทวิจัยเรื่องเม็ดสีผิวมาเป็นเวลากว่า 30 ปี จนสามารถเข้าใจปัญหาและกลไกการเกิดเม็ดสีส่วนเกินอย่างลึกซึ้งและถ่องแท้ ในทุกความหลากหลายของลักษณะและสีผิว
โดยนวัตกรรมที่ไม่เหมือนใครของเรา ที่มีกลไกการจัดการกับปัญหาความไม่สม่ำเสมอของสีผิว โดยไม่ยับยั้งกระบวนทำงานในการสร้างเม็ดสีผิวตามธรรมชาติ มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับประเทศไทย และภูมิภาค SAPMENA อันประกอบด้วย เอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของสีผิว
ทั้งนี้ เมลาซิลเป็นส่วนประกอบสุดล้ำเพื่อแก้ปัญหาเม็ดสีผิวไม่สม่ำเสมอเฉพาะจุด ทำงานโดยดักจับสารตั้งต้นที่มากผิดที่จะเปลี่ยนไปเป็นเม็ดสีส่วนเกิน (melanin precursor) ที่จะนำไปสู่ปัญหาจุดด่างดำและสีผิวไม่สม่ำเสมอ
สำหรับเมลาซิลเป็นผลงานจากการวิจัยอย่างยาวนานถึง 18 ปี และเป็นนวัตกรรมที่ได้รับสิทธิบัตร ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของเมลาซิล สามารถช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอและดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น จัดการได้แม้กับรอยดำฝังลึก* ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยที่มีส่วนผสมของเมลาซิล ได้แก่ เมลา บี3 (Mela B3) ของลา โรช-โพเซย์ (La Roche Posay) ทั้งเซรั่มเมลาบี3 (MelaB3) และเมลาบี3 เอสพีเอฟ30 (MelaB3 SPF30)
โดยในอนาคตอันใกล้นี้ ลอรีอัล ปารีส (L’Oréal Paris) และวิชี่ (Vichy) เตรียมนำเมลาซิลมาใช้กับผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวใหม่ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ผู้เชี่ยวชาญคิดค้นขึ้นมาโดยใช้ส่วนผสมใหม่นี้ได้มากยิ่งขึ้น
นายแพทย์ภูมิ วิสุทธิ์จินดากรณ์ ผู้เชี่ยวชาญผิวหนัง กล่าวว่า ปัญหาเกี่ยวกับเม็ดสีผิวเฉพาะจุด และปัญหาฝ้า กระ เป็นปัญหาด้านปัญหาผิวพรรณที่มีการสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตสูงมากปัญหาหนึ่งในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนไทยไปพบแพทย์ผิวหนัง โดยความผิดปกติของเม็ดสีผิวมักจะรุนแรงขึ้นเมื่อสัมผัสกับปริมาณรังสียูวีและระดับมลภาวะระดับสูง
ปัจจุบันคนไทยมีความต้องการมีผิวที่สุขภาพดี มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น และมีความสนใจเกี่ยวกับข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์และทางเทคนิคของส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และพัฒนาวิธีการดูแลผิวในหลากหลายขั้นตอนมากขึ้น
ทั้งนี้ เมลานินมีหน้าที่สำคัญในการแสดงโทนสีผิวจึงทำให้สีผิวของมนุษย์มีความหลากหลายแตกต่างกันไป ซึ่งเมื่อผิวถูกแสงแดด ร่างกายจะผลิตเมลานินเพิ่มขึ้นเพื่อปกป้องเซลล์ผิว การผลิตเมลานินที่มากหรือน้อยกว่าปกติเกิดได้จากหลายปัจจัย และอาจก่อให้เกิดปัญหาเม็ดสีผิวเฉพาะจุด
เช่น จุดด่างดำแห่งวัยและรอยดำจากสิว โดยผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ของลอรีอัล กรุ๊ป ที่มีเมลาซิลเป็นส่วนประกอบจะเข้ามาช่วยลดเลือนจุดด่างดำที่เกิดขึ้น รวมถึงรอยดำฝังลึก เป็นปัญหากวนใจ ด้วยประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ได้รับการทดสอบแล้วในทางคลินิกครอบคลุมทุกโทนสีผิว
นายเซบาสเตียน เลอ กาเร็ค กรรมการผู้จัดการ-กรุ๊ปแอตแลนติก เอเชียแปซิฟิก (APAC) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 56 ปี ที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องทำน้ำอุ่นและน้ำร้อนภายใต้แบรนด์ Atlantic โดยมีวางจำหน่ายแล้วมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในทุกๆ ประเทศ ต่างได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งในส่วนของลูกค้าเก่าที่กลับมาซื้อใหม่ หรือลูกค้าใหม่ที่ยังคงเพิ่มขึ้น
โดยปีที่ผ่านมามีรายได้จากการจำหน่ายทั่วโลกอยู่ที่ 3.2 พันล้านยูโร หรือประมาณ 1.2 แสนล้านบาท โดยเฉพาะในทวีปเอเชียที่ปัจจุบันมีวางจำหน่ายใน 7 ประเทศ คือ อินเดีย เวียดนาม อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ศรีลังกา ฟิลิปปินส์ พบว่ามีการขยายตัวของตลาดได้อย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นกว่า 20% ในทุกปี
สำหรับกระแสความนิยมของเครื่องทำน้ำอุ่นและน้ำร้อนในประเทศไทย แม้จะเป็นประเทศเมืองร้อน แต่พบว่าความนิยมในตลาดนี้กลับมีเพิ่มขึ้น โดยมีมูลค่าทางการตลาดที่สูงมาก และยังคงขาดเจ้าตลาดโดยตรง ทำให้ยังมีช่องทางในการเข้ามาทำตลาดได้
โดยเฉพาะการทำการตลาดกับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบด้านการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง และด้านความปลอดภัย ด้วยระบบ RCD/PRCD ซึ่งเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยที่จะตัดวงจรไฟฟ้าเมื่อมีไฟรั่ว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานสูงสุด และมีระบบควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ตลอดเวลา
โดยจะวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลักของแบรนด์ คือ เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำน้ำร้อน และเครื่องทำน้ำร้อนแบบหม้อต้ม ซึ่งเรามีความพร้อมในด้านกำลังการผลิต เพราะเรามีฐานผลิตที่ประเทศไทย พร้อมด้วยการดูแลหลังการขาย After Sales Service ที่จะดูแลตลอดอายุการใช้งาน ด้วยช่างเทคนิคที่สามารถให้คำปรึกษา ตรวจสอบปัญหา และแก้ไขปัญหาหน้างาน (On site Service)
ส่วนการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยครั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากบริษัทผู้นำด้านสินค้าตกแต่งบ้านและวัสดุก่อสร้างของไทยอย่าง HomePro ที่มีสาขาทั่วประเทศ เพื่อวางจำหน่ายสินค้าและทำการตลาดร่วมกัน ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มเดียวกัน คือ กลุ่มวัยทำงานและครอบครัว ที่เน้นความคุ้มค่า ความปลอดภัย และความคงทนแข็งแรงเป็นหลัก
โดยคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดของเครื่องทำน้ำอุ่นและน้ำร้อนในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 5% ในปีอีก 3 ปีข้างหน้า โดยมีมูลค่าทางการตลาดเฉพาะการค้าปลีกประมาณ 200 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดไทย 3,600 ล้านบาท
นางสาวพรทิวา นิพาริน นายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ กล่าวว่า สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับร่วมกับจีนเปิดตัว แพลตฟอร์มระดับนานาชาติ Gemports ซึ่งเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับสินค้าอัญมณี เพื่อขยายตลาดทั่วโลก และสร้างพลอยสีให้เป็นสินค้าลงทุน พร้อมเพิ่มความเชื่อมั่นแก่ผู้ซื้อ
ทั้งนี้แพลตฟอร์มราคาอ้างอิงพลอยสี Gemports เป็นความร่วมมือระดับประเทศระหว่าง จีน-ไทย 4 องค์กร ได้แก่ สมาคมการค้าอัญมณีและเครื่องประดับแห่งประเทศจีน (Gems & Jewelry Trade Association of China-GAC), ศูนย์วิเคราะห์อัญมณีแห่งชาติจีน (National Gemstone Testing Center of China-NGTC), สมาพันธ์สมาคมอัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่าแห่งประเทศไทย (GJPCT) และสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ (TGJTA) ที่มีเป้าหมายร่วมกัน ในการขยายตลาดพลอยสีทั่วโลก และสร้างพลอยสีให้เป็น Investment Class Asset
สำหรับ Gemports ได้พัฒนามาตั้งแต่ปี 2019 ผ่านกระบวนการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด โดยใช้เทคโนโลยีมาร่วมในการจัดการข้อมูล Gemports จึงเป็นแหล่งอ้างอิงราคาพลอยสี โดยสำรวจราคาจากผู้ผลิต ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ค้าและร้านค้าปลีก ในหลายประเทศ อาทิ จีน ไทย ศรีลังกา ยุโรป อินเดีย แอฟริกาและ อเมริกา ทำให้ได้ราคาที่เป็นกลางและเป็นมาตรฐานในระดับสากล
โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ น้ำหนัก, เฉดสี, วิธีการปรับปรุงคุณภาพ, ความสะอาด, การเจียระไน, แหล่งกำเนิด และน้ำหนัก กำหนดเป็นราคาอ้างอิงเพื่อช่วยให้ผู้บริโภค (end-user) มีราคาอ้างอิงและเพิ่มความมั่นใจในการซื้อขาย
รวมทั้งสร้างความสะดวกให้แก่ผู้ขายในการนำเสนอสินค้าพลอยสีที่มีลักษณะเฉพาะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ตลาดและเป็นการขยายตลาดพลอยสีให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทำให้พลอยสีสามารถพัฒนาเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในการลงทุนที่แท้จริงในอนาคต