อยากเปิด แฟรนไชส์สินค้า 10-20 บาท ใช้เงินเท่าไร ได้อะไรบ้าง?

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

อยากเปิด แฟรนไชส์สินค้า 10-20 บาท ใช้เงินเท่าไร ได้อะไรบ้าง?

Date Time: 14 มิ.ย. 2567 14:58 น.

Video

“The Summer Coffee Company” มากกว่า เครื่องดื่ม คือ ความสุข | Brand Story Exclusive EP.3

Summary

  • ราคาล่อตาล่อใจ “ทุกอย่าง 10 บาท 20 บาท” เชื่อว่าเมื่อหลายคนเดินผ่านร้าน เป็นอันต้องแวะดูแทบทุกครั้งอย่างแน่นอน เพราะด้วยราคาสินค้าที่แสนจะเข้าถึงได้ บวกกับสินค้าคุณภาพก็เหมาะสมกับราคา นั่นทำให้ลูกค้าพอใจที่จะจ่าย ในครั้งนี้ #ThairathMoney จะพาไปรู้จักกับแฟรนไชส์สินค้า ราคา 10 บาท 20 บาท ว่าจะน่าสนใจมากแค่ไหน และหากอยากจะลงทุนต้องใช้เงินเท่าไร?

Latest


“ทุกอย่าง 10 บาท 20 บาท” เชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็น และเป็นลูกค้าประจำที่เข้าไปอุดหนุนซื้อสินค้าจากร้านขายสินค้าทุกอย่าง 10 บาท 20 บาทกันมาบ้างแล้ว เพราะด้วยสีสันของการตกแต่งร้าน บวกกับการมีสินค้าให้เลือกสรรหลากหลายรายการ ตั้งแต่เครื่องเขียน เครื่องใช้ ไปจนถึงเครื่องประดับ และอุปกรณ์ไอที ของตกแต่งบ้าน ในราคาเพียงหลักสิบ ไม่แปลกที่ใครเห็นต่างต้องแวะช็อปเหมือนดั่งโดนต้องมนตร์

ในครั้งนี้ #ThairathMoney จะพาไปรู้จักกับ 4 แฟรนไชน์ร้านสินค้าเบ็ดเตล็ดในราคา 10 บาท 20 บาท จะน่าสนใจมากแค่ไหน และหากอยากจะลงทุนต้องใช้งบเท่าไรกันบ้าง อีกทั้งสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนจะลงทุนกับสินค้าหลักสิบนี้มีอะไรบ้างที่ควรรู้

1. Strawberry Club ทุกอย่าง 10 บาท

เป็นอีกหนึ่งแบรนด์สินค้าเบ็ดเตล็ด ที่จำหน่ายสินค้าราคา 10 บาท ตกแต่งร้านด้วยโทนสีชมพูเพื่อบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของชื่อแบรนด์ โดย Strawberry Club ดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปี ปัจจุบันมีมากกว่า 90 สาขา ซึ่งมีอุปกรณ์ให้ครบพร้อมขาย ส่วนสินค้าภายในร้านก็มีตั้งแต่ เครื่องเขียน เครื่องประดับ ของเล่นเด็ก ของใช้กระจุกกระจิก ของใช้ภายในครัวเรือน งานสวนต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่สั่งตรงจากโรงงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้บริการทั้งขายปลีก ขายส่ง และแฟรนไชส์ โดยราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น ที่ 390,000 บาท มีสัญญาแฟรนไชส์ 3 ปี ประกันรายปี 10,000 บาท ประกันแฟรนไชส์ 50,000 บาท (ได้คืนหลังครบ 3 ปี) ทางบริษัทลงสินค้าและอุปกรณ์ให้ครบถึงหน้าร้าน ปัจจุบันมีหลายสาขา อาทิ เดอะมอลล์งามวงศ์วาน

2. Miki Miki ทุกอย่าง 10 บาท

ร้านแฟรนไชส์ทุกอย่าง 10 บาท ที่ตกแต่งด้วยโทนสีขาวแดง ดูสดใส ส่วนสินค้าภายในร้านก็มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำ อุปกรณ์ไอที ของเล่น กิ๊ฟช็อป ถุงเท้า หรือแม้แต่เครื่องครัว ให้บริการทั้งขายปลีก ขายส่ง และแฟรนไชส์ โดยราคาแฟรนไชส์เริ่มต้นที่ 390,000 บาท มีอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมลงร้าน หรือห้างสรรพสินค้าได้เลย พร้อมทั้งประกอบให้โดยที่ไม่ต้องจัดหา ส่วนสินค้าบริษัทนำเข้าแบบถูกต้องและคัดสรรมาโดยเฉพาะ มีทีมงานจัดเรียงสินค้าให้ตามหมวดหมู่ ทั้งยังเลือกสินค้าได้เองอีกด้วย อาทิ สาขาเซ็นทรัลเวสต์เกต เดอะมอลล์บางกะปิ 

3. CandyClub ทุกอย่าง 10 บาท

อีกหนึ่งแบรนด์แฟรนไชส์ร้านขายทุกอย่าง 10 บาท มีครบครัน ตั้งแต่ของใช้กระจุกกระจิก, เครื่องครัว, เครื่องเขียน, ภาชนะพลาสติก, อุปกรณ์ทำเบเกอรี่, ของแต่งห้อง, ของเล่นเด็ก, อุปกรณ์จัดแต่งสวน ไปจนถึงอุปกรณ์ไอที โดยเป็นสินค้าที่นำเข้าได้คุณภาพและเหมาะสมกับราคา ปัจจุบันมีการขยายสาขาแฟรนไชส์ไปแล้วในหลายๆ พื้นที่ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ให้บริการทั้งขายปลีก ขายส่ง และแฟรนไชส์ โดยราคาแฟรนไชส์เริ่มต้นที่ 250,000 บาท 

4. นพรัตน์ ทุกอย่าง 20 บาท

แหล่งรวมสินค้าเบ็ดเตล็ด ในราคา 20 บาท มีสินค้าให้เลือก กว่า 10,000 รายการ โดยสินค้าที่ขายเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำของทุกๆ คน เช่น สินค้าพลาสติกต่างๆ จานชาม เมลามีน เซรามิก สินค้าเครื่องครัว สินค้าเครื่องเขียนสำนักงาน สินค้าเครื่องมือช่าง ของเด็กเล่น สินค้าตกแต่งบ้าน สินค้า IT สินค้าแฟชั่น สินค้าเบ็ดเตล็ดอื่นๆ รวมทั้งล่าสุดคือมี สกินแคร์ เครื่องสำอาง ในราคา 20 บาททุกชิ้น ซึ่งภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีเขียวสะอาดตา ขณะที่แพ็กเกจเปิดร้านก็มีหลายแบบให้เลือก เริ่มต้น 190,000 บาท 

และหากใครอยากได้ความ VIP เพียงแค่เปิดบิลกับนพรัตน์ 20 ตั้งแต่ 40,000 บาทขึ้นไป ได้บัตร VIP ฟรีที่สามารถใช้แสดงเป็นส่วนลดต่างๆ ได้ตามเงื่อนไขที่ทางบริษัทกำหนด

ดูอย่างไร ว่าควรลงทุนดีหรือไม่?

โดยทั้งหมดทั้งมวลนั้น ข้อดีของแฟรนไชส์สินค้าราคา 10 บาท 20 บาท นั้นคือ สินค้าขายง่ายในทุกสถานการณ์แม้ว่าเศรษฐกิจจะดี หรือไม่ดี เพราะส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่คนใช้ในชีวิตประจำวันที่ครอบคลุมแทบทุกหมวด อีกทั้งสินค้าไม่มีวันเน่าเสีย ทำให้ความเสี่ยงในการลงทุนกับสินค้าต่ำ และต้นทุนในการเปิดร้านก็ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการ แม้กำไรต่อชิ้นจะไม่มากนัก แต่หากนับจำนวนก็ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว 

ขณะที่ข้อควรพิจารณาคือ ธุรกิจนี้มีการแข่งขันสูง เพราะมีคู่แข่งหลากหลายแบรนด์ จึงต้องอาศัยจุดเด่นของสินค้า การตกแต่งร้าน และทำเลที่ตั้งในการเข้าถึงลูกค้า ถัดมาคือ กำไรต่อชิ้นแม้จะน้อย และต้องสต๊อกสินค้าจำนวนมาก ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแฟรนไชส์นั้นๆ อย่างละเอียด 

เพราะเนื่องจากที่ผ่านมามีข่าวเรื่องการลงทุนกับแฟรนไชส์เจ้าดังแล้วไม่ได้รับสินค้า ดังนั้นต้องรู้ให้ครบก่อนลงทุนเป็นอันดีที่สุด และที่สำคัญคือ วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค ประเมินเงินทุนและความเสี่ยง และเลือกทำเลที่ตั้ง รวมทั้งเลือกแฟรนไชส์ที่เหมาะกับตัวเอง ซึ่งจะทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ แม้ว่าจะมีคู่แข่งเยอะแทบทุกมุมตึกก็ตาม  

อ้างอิง thaifranchisecenter

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์