เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้ารับเทรนด์ลักชัวรีแบรนด์ ร่วมอัปเกรดสู่เมืองไลฟ์สไตล์ชายหาดระดับโลก

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้ารับเทรนด์ลักชัวรีแบรนด์ ร่วมอัปเกรดสู่เมืองไลฟ์สไตล์ชายหาดระดับโลก

Date Time: 15 มิ.ย. 2567 05:01 น.

Summary

  • ลักชัวรีแบรนด์เคลื่อนทัพรุกประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการเติบโตในระดับสูงจนพิสูจน์ให้แบรนด์หรูระดับโลกได้เห็นศักยภาพของตลาดไทยจนต้องมีการขยายการลงทุนอย่างมากมาย

Latest

รอบรั้วการตลาด : เดล คาร์เนกี ประเทศไทย แนะองค์กรไทยโฉมใหม่ต้องมีแผน ESG

ลักชัวรีแบรนด์เคลื่อนทัพรุกประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการเติบโตในระดับสูงจนพิสูจน์ให้แบรนด์หรูระดับโลกได้เห็นศักยภาพของตลาดไทยจนต้องมีการขยายการลงทุนอย่างมากมาย

จากข้อมูลของผู้ประกอบการอย่างบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ระบุถึงความสำเร็จของแบรนด์ระดับโลกหลายแบรนด์มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับสามของโลก รองจากสหรัฐฯ และยุโรป

ด้วยกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าเศรษฐีชาวไทยเป็นหลัก ที่กล้าใช้เงินมหาศาลในยุคก่อนโควิด-19 นิยมเดินทางไปช็อปปิ้งในยุโรป แต่เมื่อการเดินทางถูกจำกัดจึงหันมาช็อปออนไลน์กันจนยอดขายในเมืองไทยพุ่งสูงอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

จนถึงปัจจุบันลักชัวรีแบรนด์ได้เข้ามาขยายการลงทุนในพื้นที่กรุงเทพฯแน่นขนัด จนทะลักไปยังเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต เพื่อรองรับทั้งลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยวิสัยทัศน์ของเซ็นทรัลพัฒนาในการบุกเบิกสร้างเมืองใหม่มาอย่างต่อเนื่อง โดยเซ็นทรัล ภูเก็ต อยู่คู่กับคนในจังหวัดและเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตมาตั้งแต่ปี 2004

พร้อมเห็นถึงศักยภาพของเมืองและกำลังซื้อมหาศาล จึงได้เปิดให้บริการเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้าในปี 2018 เพื่อรองรับลักชัวรี ไลฟ์สไตล์เทียบชั้นเมืองชายทะเลระดับโลกอย่าง ริเวียร่า, ซานโตรินี, ไมอามี บีช และฮาวาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าวิสัยทัศน์ที่วางไว้หลายปีก่อนที่จะทำให้เซ็นทรัล ภูเก็ตเป็น The World’s Luxury Magnitude ใจกลางเมืองชายทะเลระดับโลก รวบรวมแบรนด์หรูระดับโลก พร้อมมอบประสบการณ์ช็อปปิ้งระดับเวิลด์คลาสให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก

โดยที่ผ่านมาลักชัวรีแบรนด์ได้เปิดใหม่และเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเป้าหมายที่จะขยายพื้นที่ Luxury Zone เพิ่มขึ้นอีก 4 เท่าภายในปี 2026 จากปัจจุบัน 2,000 ตารางเมตร เป็น 8,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการเปิดตัวของอีกหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ และจะเพิ่มแบรนด์ระดับโลกจาก 14 แบรนด์ เป็น 30 แบรนด์ ซึ่งจะมีบางแบรนด์ที่เข้ามาลงทุนครั้งแรกในไทย แต่เป็นที่ภูเก็ตคือแบรนด์ PRADA จะมาปลายปีนี้

ส่วนแบรนด์ที่มาปักหมุดแล้ว ได้แก่ BALENCIAGA, BOTTEGA VENETA, BURBERRY, CHRISTIAN LOUBOUTIN, DIOR, GUCCI, HERMÈS, LOUIS VUITTON, OMEGA, PMT THE HOUR GLASS, SAINT LAURENT, VERSACE และ ZEGNA รวมทั้งแบรนด์ที่ขยายสาขาออกนอกกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก เช่น COACH, KATE SPADE, KENZO, MICHAEL KORS, SAMSONITE, LUSH เป็นต้น

จากฐานข้อมูล The1 ชี้ให้เห็นว่าลูกค้าของเซ็นทรัล ภูเก็ต มียอดใช้จ่ายต่อคนสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพัฒนาทั่วประเทศ โดยลูกค้า Wealth Segment ที่เซ็นทรัล ภูเก็ต มีการใช้จ่ายสูงกว่าลูกค้า Wealth ของสาขาอื่นๆ ถึง 45% สะท้อนการเติบโตของตลาดสินค้าลักชัวรีในไทยที่ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดประมาณ 1.6 แสนล้านบาท โดยตลาดในไทยขยายตัวถึง 5.62% จนถึงปี 2028 คาดว่าจะแซงหน้าตลาดสิงคโปร์

สำหรับเซ็นทรัล ฟลอเรสต้า และเซ็นทรัล ภูเก็ต ปัจจุบันมีลูกค้ามาใช้บริการวันละ 80,000 คน โดยจะเป็น เซ็นทรัล ฟลอเรสต้า ซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามสูงถึง 50,000 คน ซึ่งการเพิ่มพื้นที่และเพิ่มลักชัวรีแบรนด์ดังกล่าว คาดว่าจะสามารถดึงลูกค้าเข้ามาได้เพิ่มมากขึ้นไปอีก

พร้อมกับกิจกรรมมอบประสบการณ์ระดับไฮเอนด์ที่ดีไซน์เฉพาะกลุ่มลูกค้า VVIP อาทิ Club ที่มี Luxury Services สำหรับ VVIP ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกระดับ Tycoon & Millionaire กว่า 2,300 คน ที่จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ Butler แห่งแรกในไทย, บริการ Luxe Limo Service และ Excusive Dining ที่ Su Va Na Restaurant เป็นต้น

ขณะเดียวกันได้มีการจัดอีเวนต์ และเทศกาลระดับโลกที่จัดต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก เช่น เทศกาลสงกรานต์, Pride Month, Countdown และยังรวมไปถึง Art exhibition ที่รวบรวมศิลปินแถวหน้าจากทั่วโลก ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเพิ่มสีสันทุกเดือน ให้ภูเก็ตเป็น Art Destination Landmarks ทั้งหมดนี้จะช่วยตอบโจทย์ของภาครัฐที่ต้องการส่งเสริม Sustainable Economy ให้ภูเก็ตเป็น Hub ระดับโลกในหลายด้าน อาทิ Culinary, Medical & Wellness, Sport Tourism, education, Smart city, Marina และ MICE อีกด้วย

ด้านนางสาววิไลพร ปิติมานะอารี ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มงานปฏิบัติการสาขาภูเก็ตบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภูเก็ตนับเป็นจังหวัดที่สร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจเป็นอันดับที่ 2 รองจากกรุงเทพฯ ในปีนี้ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวที่ 450,000 ล้านบาท และคาดมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าภูเก็ตกว่า 12 ล้านคน ซึ่งภูเก็ต ถือเป็น “บ้านหลังที่สอง” ของเศรษฐีชาวไทยและต่างชาติ

ดังนั้น ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต จึงถูกดีไซน์ให้เป็นจุดหมายปลายทางที่มากกว่าการใช้ชีวิตและการช็อปปิ้ง พร้อมเติมเต็มประสบการณ์เหนือระดับในทุกมิติ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้า

ที่จะช่วยเสริมสร้างให้เป็นเมืองชายหาดระดับโลกที่คอยต้อนรับขับสู้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้ครบทุกมิติ.

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ "ตลาดนัดหัวเขียว" เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ