“ภูเก็ต” สวรรค์นักช็อป “เซ็นทรัล” เพิ่มลักชัวรี่ กว่า 30 แบรนด์ ดึงนายหัว-ต่างชาติ กำลังซื้อสูง

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

“ภูเก็ต” สวรรค์นักช็อป “เซ็นทรัล” เพิ่มลักชัวรี่ กว่า 30 แบรนด์ ดึงนายหัว-ต่างชาติ กำลังซื้อสูง

Date Time: 13 มิ.ย. 2567 14:39 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Summary

  • เซ็นทรัล ภูเก็ต ตอกย้ำความสำเร็จ 6 ปี เติมเต็มภูเก็ตเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ตอบโจทย์ The World’s Luxury Magnitude ที่ดึงดูดแบรนด์หรูระดับโลก เปิดตัวต่อเนื่อง ขยายพื้นที่โซนลักชัวรี่ จากปัจจุบัน 2,000 ตร.ม. เป็น 8,000 ตร.ม. ในปี 2026 (4 เท่า) เพื่อรองรับการเปิดตัวของอีกหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ

Latest


จะมีที่ไหนบ้างในภาคใต้? ที่จะครบครันได้เท่ากับ “ภูเก็ต” จังหวัดในภาคใต้ตอนบนของประเทศไทย 

“ภูเก็ต” นับเป็นจังหวัดที่สร้างเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเป็นอันดับที่ 2 รองจากกรุงเทพฯ (ข้อมูลอ้างอิงจากสถิติการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปี 2567) ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมา ภูเก็ต สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวของจังหวัดสูงถึง 380,000 ล้านบาท และในปี 2567 มีเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวไว้ที่ 450,000 ล้านบาท และสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าภูเก็ตกว่า 12 ล้านคน 

“ภูเก็ต” สมญานามเมืองที่ไม่เคยหลับใหล

ด้วย Infrastructure ที่พร้อมรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก รวมทั้งแผนขยายสนามบินภูเก็ต เฟส 2 ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2572 พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล, โรงเรียนนานาชาติ, ท่าเรือยอร์ช, สนามกอล์ฟ และ Private Jet อีกทั้งสีสันของเมือง ความงดงามของธรรมชาติที่ตระการตา บรรยากาศธรรมชาติอันแสนผ่อนคลาย ความบันเทิงที่ไม่เคยหลับใหล 

รวมไปถึงศูนย์การค้าอย่าง “เซ็นทรัล ภูเก็ต” ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเกาะภูเก็ต บนถนนสายหลักที่เป็นทำเลยุทธศาสตร์สำคัญพร้อมด้วยศักยภาพในการยกระดับใจกลางเมืองภูเก็ตให้เป็นย่านการค้าที่ยิ่งใหญ่ และเป็นไลฟ์สไตล์ฮับแห่งใหม่ระดับโลก

โดยถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญ เพราะนอกจากจะมี ‘Central Phuket Festival’ แล้วนั้น ยังมี ‘Central Phuket Floresta’ ซึ่งตั้งอยู่ตรงกันข้าม ที่เป็น World-class luxury mall แห่งเดียวใจกลางภูเก็ตด้วยแบรนด์ลักชัวรี่ระดับโลกมากมาย 

ไม่แปลกที่ “ภูเก็ต” จะได้รับสมญานามว่าเป็นสวรรค์บนดิน และกลายมาเป็น “บ้านหลังที่สอง” ของเศรษฐีชาวไทยและต่างชาติ หรือ Asia’s Richest Beach Residential อย่างปฏิเสธไม่ได้

เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า แหล่งรวมแบรนด์ลักชัวรี่ระดับโลก

ด้วยองค์ประกอบนานา ทำให้ “เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า” จึงถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพจาก ‘Quantity to Quality spending’ ซึ่งเป็นนโยบายที่ทั้งภาครัฐ-เอกชนจะร่วมกันทำให้ภูเก็ตไม่มีช่วงโลว์ซีซัน เที่ยวได้-จับจ่ายได้ตลอดทั้งปี 

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เล่าขยายความว่า คนภูเก็ตมีกำลังซื้อสูง เพราะส่วนใหญ่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวกว่า 70% นั่นจึงเป็นเหตุผลให้กลุ่มเซ็นทรัลเบนเข็มหันมาลงทุนในภูเก็ตมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ ประกอบด้วย 4 ศูนย์การค้า, 5 ห้างสรรพสินค้า, 7 โรงแรม, 3 คอนโดมิเนียม รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ในกลุ่ม อาทิ ซูเปอร์สปอร์ต, เพาเวอร์บาย, ไทวัสดุ, บีเอ็นบี โฮม, บีทูเอส, ออฟฟิศเมท, Tops Food Hall, Tops Market, Tops Daily, Tops Vita เป็นต้น 

โดยแรกเริ่ม เซ็นทรัล ภูเก็ต เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2547 ขึ้นแท่นศูนย์การค้าแห่งแรกของภูเก็ต และใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ต่อมาเมื่อได้เห็นศักยภาพของเมืองและกำลังซื้อมหาศาล จึงได้เปิดให้บริการ เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ตามมาในปี 2552 เพื่อรองรับ Luxury Lifestyle เทียบชั้นเมืองชายทะเลระดับโลกอย่าง ริเวียร่า, ซานโตรินี, ไมอามี่บีช และฮาวาย ที่ปัจจุบันเตรียมขยายพื้นที่โซนลักชัวรี่ จากปัจจุบัน 2,000 ตร.ม. เป็น 4,000 ตร.ม. ภายในสิ้นปี และจะขยายเป็น 8,000 ตร.ม. ในปี 2569 (4 เท่า) เพื่อรองรับการเปิดตัวของอีกหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ

คาดว่าภายในปี 2569 จะมีแบรนด์หรูชั้นนำที่เข้ามาเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 30 แบรนด์ จากปัจจุบันมีอยู่ 14 แบรนด์ อาทิ BALENCIAGA, BOTTEGA VENETA, BURBERRY, CHRISTIAN LOUBOUTIN, DIOR, GUCCI, HERMES, LOUIS VUITTON, OMEGA, PMT THE HOUR GLASS, SAINT LAURENT, VERSACE, ZEGNA และ PRADA ที่เตรียมเปิดให้บริการในปีนี้ รวมทั้งในอนาคตจะมีการดึงแบรนด์เครื่องประดับ และการขยายเป็นคาเฟ่ มาไว้ที่นี่ด้วยเช่นกัน 

รวมทั้งยังมีแบรนด์ Lifestyle ระดับโลกที่ขยายสาขาออกนอกกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก เช่น COACH, KATE SPADE, KENZO, MICHAEL KORS, SAMSONITE, LUSH ที่จะมีการย้ายขึ้นไปอยู่ในชั้นสองเพื่อแบ่งหมวดหมู่การช็อปให้สะดวกยิ่งขึ้น 

ลักชัวรี่เดสติเนชั่น ไม่เป็นรองกรุงเทพฯ 

สะท้อนให้เห็นว่าวิสัยทัศน์ที่เซ็นทรัลไว้วางไว้หลายปีก่อน ที่มีจุดหมายจะปั้น เซ็นทรัล ภูเก็ต ให้เป็น The World’s Luxury Magnitude นั้นสอดคล้องกับการพัฒนาของเมือง และตอบรับแผนยุทธศาสตร์ภาครัฐที่ต้องการพัฒนาให้ภูเก็ตเป็น “Top Destination for Global Jetsetter” ดึงดูดกำลังซื้อสูงทั่วโลก 

โดยปัจจุบันศูนย์การค้าเติบโตต่อเนื่อง และมีทราฟิกดีกว่าช่วงก่อนโควิดถึง 30% หรืออยู่ที่ประมาณ 80,000 คนต่อวัน หากแบ่งฝั่งฟลอเรสต้าจะอยู่ที่ 50,000 คนต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ 70% และคนไทย 30% โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูงสุด ยังคงเป็นประเทศรัสเซีย ตะวันออกกลาง จีน เกาหลีใต้ อเมริกา ทั้งซื้อเพื่อลงทุน และสะสมส่วนตัว เนื่องจากมีแบรนด์ลักชัวรี่เกือบครบในประเทศไทย

ขณะที่ วิไลพร ปิติมานะอารี ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มงานปฏิบัติการสาขาภูเก็ต บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เซ็นทรัล ภูเก็ต ยังให้ความสำคัญกับลูกค้า VVIP อาทิ Club ที่มี Luxury Servicesสำหรับ VVIP ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกระดับ Tycoon & Millionaire กว่า 2,300 คน ที่จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ Butler แห่งแรกในไทย, บริการ Luxe Limo Service และ Excusive Dining ที่ Su Va Na Restaurant ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนภูเก็ต 50% นอกนั้นเป็นคนกรุงเทพฯ 30% และอีก 20% เป็นคนต่างชาติ 

สอดคล้องกับฐานข้อมูล The1 ที่ชี้ให้เห็นว่าลูกค้าของ เซ็นทรัล ภูเก็ต มียอดใช้จ่ายต่อคนสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพัฒนาทั่วประเทศ โดยลูกค้า Wealth Segment ที่เซ็นทรัล ภูเก็ต มีการใช้จ่ายสูงกว่าลูกค้า Wealth ของสาขาอื่นๆ ถึง 45% สะท้อนการเติบโตของตลาดสินค้าลักชัวรี่ในไทยที่ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดประมาณ 1.6 แสนล้านบาท โดยตลาดลักชัวรี่ไทยขยายตัวถึง 5.62% จนถึงปี 2571 คาดว่าจะแซงหน้าตลาดสิงคโปร์

และด้วยความคึกคักนี้ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงในแง่ของ “ราคาที่ดิน” ของจังหวัดภูเก็ตด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ บางเทา-เชิงทะเล และโดยรอบลากูน่า กลายเป็นทำเลยอดนิยมที่กำลังซื้อต่างชาติ และกำลังซื้อไทย ให้ความนิยมเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ราคาที่ดินในพื้นที่เกาะภูเก็ตมีการปรับตัวสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด มีราคาเสนอขายอยู่ที่ประมาณไร่ละ 25-40 ล้านบาท ส่วนที่ดินที่ใกล้ทะเล หรือติดชายหาดสำคัญๆ พบว่ามีราคาเสนอขายที่สูงกว่า 100 ล้านบาทต่อไร่ 

นั่นก็เพราะว่า “กำลังซื้อ” ศักยภาพของเมือง และการเข้ามาของยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ “ภูเก็ต” กลายเป็น “ทองคำ” ท่ีใครๆ ต่างก็หมายปองจะเข้ามาแย่งชิงเค้กก้อนนี้ ก็คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า “จังหวัดภูเก็ต” จะมีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง แต่ที่แน่ๆ ความนิยมแบรนด์ลักชัวรี่คงจะไม่ลดน้อยลงอย่างแน่นอน. 

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์