กองทัพลักชัวรีแบรนด์เนมบุกตลาดไทย

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

กองทัพลักชัวรีแบรนด์เนมบุกตลาดไทย

Date Time: 20 เม.ย. 2567 05:45 น.

Summary

  • สงกรานต์ในปีนี้ นับเป็นอีกเทศกาลหนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการจัดอีเวนต์ใหญ่เฉลิมฉลองปีใหม่ทั่วประเทศไทย ด้วยการผนึกร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนที่ปักหมุดให้เป็นอีเวนต์ระดับโลก เป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้คนทั่วโลกและคนไทยอยากเข้าร่วมกิจกรรม

Latest

เศรษฐกิจคอนเทนต์อาเซียนโตพุ่ง 4.85 แสนล้าน สวนทางรายได้ “ครีเอเตอร์” ไม่ได้เยอะอย่างที่ฝัน

สงกรานต์ในปีนี้ นับเป็นอีกเทศกาลหนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการจัดอีเวนต์ใหญ่เฉลิมฉลองปีใหม่ทั่วประเทศไทย ด้วยการผนึกร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนที่ปักหมุดให้เป็นอีเวนต์ระดับโลก เป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้คนทั่วโลกและคนไทยอยากเข้าร่วมกิจกรรม

ปัจจัยหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญ ช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของโลกก็คือศูนย์การค้าของไทย ที่เหล่าผู้ประกอบการได้ลงทุนพัฒนาต่อยอดจนต้องยอมรับว่าในปัจจุบันยกระดับไปสู่ระดับเวิลด์คลาส ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ประสบการณ์ที่หลากหลาย และบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์

ไม่เพียงเท่านั้น ในยุคนี้ ศูนย์การค้าไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางของลักชัวรีแบรนด์เนมระดับโลกที่ยกทัพเข้ามาเปิดตลาดไทยกันอย่างคึกคัก ที่เข้ามาเปิดตลาดแล้วก็ได้ยกระดับการลงทุนขึ้นไปอีก รวมถึงขยายตลาดไปในต่างจังหวัด แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ขณะที่อีกแบรนด์เข้ามาเปิดตลาดในไทยเป็นแห่งแรกในภูมิภาค

ปัจจัยที่ขับเคลื่อนประเทศไทยกลายเป็นตลาดสำคัญแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย สรุปได้จาก 3 ประเด็นหลัก

ประกอบด้วย ตลาดผู้บริโภคสินค้าลักชัวรีแบรนด์เนมในประเทศไทยมีกำลังซื้อสูงมาก แต่ผู้ประกอบการมองไม่เห็น เพราะในช่วงที่ผ่านมาคนไทยส่วนใหญ่มักจะช็อปปิ้งในต่างประเทศในระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรป ซึ่งคนไทยชอบเป็นพิเศษ เพราะหาแบบพิเศษ คอลเลกชันที่หาได้ยาก พร้อมให้ข้อเสนอพิเศษจากโปรโมชัน การขอคืนภาษี

เมื่อการเดินทางถูกจำกัดลงจากโควิด-19 คนไทยจึงแห่กระหน่ำช็อปออนไลน์จนผู้ประกอบการคิดไม่ถึงว่าจะมีกำลังซื้อมาก ทั้งๆที่ช่วงโควิดกระทบกับภาวะเศรษฐกิจไปทั่วโลก หลังจากการแพร่ระบาด ผู้ประกอบการศูนย์การค้าได้เร่งปรับขยายพื้นที่ รองรับคลื่นการลงทุนของลักชัวรีแบรนด์เนมส่งตรงจากบริษัทแม่เข้าไทย

ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยได้เร่งโหมพลิกฟื้นตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศ ด้วยการสรรหามาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว จนในปีที่ผ่านมา กรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากที่สุดในโลก ยิ่งตอบโจทย์ลักชัวรีแบรนด์ เพราะนักท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายหลัก เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง มีไลฟ์สไตล์ รสนิยม จึงต้องการใช้ภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวมาเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูหรูหรา น่าเชื่อถือ และมีระดับพร้อมกับขยายตลาดเพิ่มยอดขาย

ส่วนปัจจัยสุดท้าย ลักชัวรีแบรนด์เนมที่เน้นการรุกตลาดในประเทศจีน ซึ่งถือว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่าตลาดสูงถึง 3 ล้านล้านหยวนหรือราว 15 ล้านล้านบาท แม้ปีที่ผ่านมาภาพรวมตลาดจะเติบโตขึ้น 6% แต่ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศจีนส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อภายในประเทศ บางแบรนด์ได้รับผลกระทบ ยอดขายตกลงมาก เช่น แบรนด์ GUCCI ที่ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุดจนหุ้นของบริษัทแม่ในฝรั่งเศสดิ่งตาม

กรณีดังกล่าวทำให้หลายๆแบรนด์ได้มองหาตลาดในประเทศอื่นๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงที่จะผูกกับตลาดในประเทศจีน จึงมองการขยายการลงทุนไปยังภูมิภาคอื่นๆ คือในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ แน่นอนรวมถึงประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงและมีการเติบโตที่ดี

แม้จะไม่มีตัวเลขออกมาชัดเจน แต่หากตัวเลขมูลค่าตลาดที่จัดทำโดยยูโรมอนิเตอร์ ระบุตลาดลักชัวรีแบรนด์เนมของสิงคโปร์ปีที่ผ่านมาเติบโตถึง 11% มูลค่าตลาดรวม 12,400 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 3.35 แสนล้านบาท มาเลเซียเติบโต 15% มูลค่าตลาด 31,000 ล้านริงกิต หรือประมาณ 2.38 แสนล้านบาท อินโดนีเซียเติบโต 11% มูลค่าตลาด 36.3 ล้านล้านรูเปียห์อินโดนีเซียหรือราว 82,400 ล้านบาท

ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการศูนย์การค้าในไทยได้รองรับตลาดที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด อาทิ กลุ่มสยามพิวรรธน์ ได้ขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นในสยามพารากอน เปิด Luxe Hall ให้แบรนด์ดังระดับโลกร่วมเปิดแฟล็กชิปสโตร์หรือบูติกช็อปแห่งใหม่มากมายตลอดในปีที่ผ่านมา

ส่วนเดอะมอลล์กรุ๊ป โดยเอ็มดิสทริคหลังเปิดตัวครบอย่างสมบูรณ์แล้ว มีลักชัวรีแบรนด์เนมได้อัปเกรดสโตร์ จากแฟล็กชิปสโตร์เป็นอัลตร้า แฟล็กชิปสโตร์ขยายพื้นที่ร้านค้าให้ใหญ่ขึ้น กลายเป็น DUPLEX และ TRIPLEX SHOP ครบครันด้วยสินค้าทุกประเภท อาทิ แบรนด์ CHANEL, DIOR, GUCCI, BALENCIAGA, YVES SAINT LAURENT เป็นต้น พร้อมกับแบรนด์ที่มาเปิดเป็นแห่งแรกในภูมิภาค เช่น ami, Golden Goose และอีกมากมาย

เกษรอัมรินทร์ ทาง LOUIS VUITTON เปิด “LV The Place” ครั้งแรกในไทยที่เปิดในคอนเซปต์ที่รวมทั้งนิทรรศการ คาเฟ่ ร้านค้า และร้านอาหาร รวมไว้ที่เดียวกัน

กลุ่มเซ็นทรัล นอกเหนือจากเซ็นทรัลเวิลด์ที่เป็นจุดหมายปลายทางของแบรนด์ดังแล้ว ได้นำ 3 แบรนด์ดัง CHRISTIAN LOUBOUTIN เปิดป๊อปอัปสโตร์, GUCCI ขยายพื้นที่ และ LOUIS VUITTON เปิดป๊อปอัปสโตร์ที่เซ็นทรัล ภูเก็ต ปักหมุดลักชัวรีแบรนด์เนมรองจากกรุงเทพฯ

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล ทำให้ผู้บริโภคช็อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น แต่ตลาดลักชัวรีแบรนด์เนมในไทย โดยผู้บริโภคจำนวนมากยังคงชอบที่จะมองเห็น สัมผัสผลิตภัณฑ์โดยตรงก่อนตัดสินใจซื้อ.

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “ตลาดนัดหัวเขียว” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ