“ชายสี่ บะหมี่เกี๊ยว” อยากเข้าตลาดหุ้น มากกว่า กลัวลูกทะเลาะกัน คือ การแบ่งสมบัติแบบมืออาชีพ

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

“ชายสี่ บะหมี่เกี๊ยว” อยากเข้าตลาดหุ้น มากกว่า กลัวลูกทะเลาะกัน คือ การแบ่งสมบัติแบบมืออาชีพ

Date Time: 1 เม.ย. 2567 17:50 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Summary

  • ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น ประกาศกลยุทธ์ใหม่ที่จะเป็นมากกว่าแค่ “แบรนด์ก๋วยเตี๋ยว” ตั้งเป้าลงทุน 50-100 ล้านบาท ขยายธุรกิจชายสี่จาก 4,500 สาขา เป็น 6,000 สาขา และแบรนด์อื่นๆ กว่าร้อยสาขา เดินหน้าเข้าซื้อกิจการไทย-เทศ ก่อสร้างโรงงาน ล่าสุดดึงเสือร้องไห้-บริกซ์ มาไว้ในพอร์ต ร่วมทุนพันธมิตรฟิลิปปินส์เปิดแฟรนไชส์ บินลัดฟ้าสู่ญี่ปุ่น ปั้น “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ในรูปแบบถ้วยคัพ ส่วนแผนเข้าตลาดฯ ยันไม่ใช่ปีนี้

Latest


กว่า 30 ปี ของ “ชายสี่ บะหมี่เกี๊ยว” จากร้านรถเข็นริมทางป้ายสีเหลือง ตัวหนังสือสีแดง และมีรูปชามและเลขสี่ตั้งตระหง่าน เพียงร้านเดียว จนก่อร่างสร้างตัวกลายมาเป็นแบรนด์ร้านบะหมี่ริมทางที่มีสาขาทั่วประเทศกว่า 4,500 สาขา ที่ถือเป็นแบรนด์ขวัญใจของคนหิวโหยยามค่ำคืน ด้วยจุดเด่นรสชาติถูกปาก สะอาดถูกใจ ราคาเข้าถึงได้ และหากินได้ทุกที่ นั่นจึงทำให้ชื่อของชายสี่บะหมี่เกี๊ยวหากใครเห็นเป็นต้องรู้จัก 

จนกระทั่งสามารถสร้างภาพลักษณ์ของ ชายสี่ ใหม่ ภายใต้ชื่อว่า “ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น” พร้อมกับก้าวหน้าอีกขั้นกับการเตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ พร้อมเปิดให้ประชาชนและผู้สนใจ ร่วมเป็นเจ้าของผ่านการเข้าซื้อหุ้น

เข้าตลาดฯ สู่นามสกุลมหาชน เพื่อเหตุผล “ป้องกันลูกไม่ให้ทะเลาะกัน” 

“เราตั้งเป้าเข้าตลาดฯ ขายหุ้น IPO ก็เพื่อป้องกันปัญหาลูกทะเลาะกัน และสร้างความยั่งยืน ก้าวหน้าให้กับบริษัท โดยจะเปลี่ยนตำแหน่งจากเจ้าแห่งเส้น เป็นเจ้าแห่งสตรีทฟู้ด ที่ซื้อง่าย ขายคล่อง เพื่อนามสกุลมหาชนเร็วๆ นี้” “พันธ์รบ กำลา” ผู้ก่อตั้ง “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ในฐานะประธานกรรมการบริหาร ได้กล่าวไว้ในงานแถลงข่าวที่เพิ่งจัดขึ้นสดๆ ร้อนๆ 

โดยปัจจุบัน ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น มีแบรนด์สตรีทฟู้ดในเครือ รวม 7 แบรนด์ ได้แก่ ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ชายสี่พลัส ชายใหญ่ข้าวมันไก่ พันปีบะหมี่เป็ดย่าง อาลีหมี่ฮาลาล ไก่หมุนคุณพัน ลูกชิ้นทอดโอ้มายก๊อด รวมทุกแบรนด์กว่า 4,500 สาขา และยังมีอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทานภายใต้แบรนด์ชายสี่โกลด์ วัตถุดิบส่งตรงจากศูนย์การผลิตและกระจายสินค้าทั้งหมด 7 แห่งทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ รวมถึงรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้ชายสี่เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่รักของคนไทย

ทั้งนี้ที่ผ่านมาชายสี่ มีการเข้าซื้อกิจการธุรกิจร้านอาหาร ก๋วยเตี๋ยวเรือเสือร้องไห้ อยุธยา และ BRIX Dessert Bar ขณะที่ 4 เคล็ดลับมัดใจลูกค้า พันธ์รบ บอกว่า สิ่งนั้น คือ บะหมี่เส้นสด ไม่ใส่สารกันบูด, สูตรน้ำซุปต้นตำรับ, หาทานง่าย ทุกหัวมุมถนน, ราคามิตรภาพ ใครๆ ก็ทานได้ ฉายภาพ “ชายสี่ ดีที่เส้น เด่นที่ซุป” 

อนุชิต สรรพอาษา กรรมการผู้จัดการบริษัท ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ในปี 2565 เป็นปีที่เราสร้างยอดขายได้สูงสุดในประวัติกาล โดยมีรายได้รวม 1,085 ล้านบาท และยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2566 เช่นกัน ล่าสุดในปี 2565-2566 บริษัทฯ ได้เริ่มสู่การทรานส์ฟอร์มธุรกิจ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี การบริหารต้นทุน รวมถึงการปรับโครงสร้างการบริหารงาน โดยให้โอกาสคนรุ่นใหม่เข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากทั้งหมดที่ได้ลงมือทำ สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 1.1 พันล้านบาท และการเติบโตของกำไร ปี 66 ได้มากกว่า 121% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยผลการเติบโตมาจากการบริหารหลังบ้าน มีโปรดักต์ใหม่ ทีมใหม่ และผลิตเองเยอะขึ้น 

ขยายแฟรนไชส์ไปฟิลิปปินส์ รุกขายบะหมี่ถ้วยคัพในญี่ปุ่น

ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ Cabalen Group กลุ่มธุรกิจอาหารยักษ์ใหญ่ของฟิลิปปินส์ สร้างโรงงานผลิตเส้นเรียบร้อย ส่วนแฟรนไชส์คาดว่าจะได้เห็นในสิ้นปี 67 หรือช้าสุดต้นปี 68 และญี่ปุ่นอยู่ระหว่างพูดคุยกับพันธมิตรที่จะไปอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต ในรูปแบบถ้วยคัพ พร้อมทั้งขยาย “ฮับ” สำหรับกระจายสินค้า 2-3 แห่งตามแผนภายในปี 67 ที่หาดใหญ่ โคราช และยโสธร 

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ด้วย 4 กลยุทธ์หลัก คือ ประสิทธิภาพการผลิต, ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี, บริหารต้นทุนอย่างฉลาด, ปรับโครงสร้างการบริหารงาน 

ยันภายใน 3 ปีจะเข้าตลาดฯ คาดเงินระดมทุนนำไปขยายธุรกิจ

ส่วนการยื่น ก.ล.ต. ช่วงไหนนั้น อนุชิต กล่าวว่า ไม่น่าจะใช่ปี 67 แต่คาดว่าน่าจะภายใน 3 ปี ทั้งนี้เงินระดมทุนจะนำมาใช้ในการขยายธุรกิจ สร้างโรงงานใหม่ ซื้อแบรนด์ และขยายไปต่างประเทศมากขึ้นขณะที่รายได้ต่างประเทศคาดว่าในปี 67 จะอยู่ที่ 5-10% นอกจากนี้ภาพรวมปี 67 ตั้งเป้ารายได้โตจากปีที่ผ่านมาไว้ที่ 25% ปิดที่ 1,500 ล้านบาท ส่วนกำไรปีนี้โตกว่าปี 66 ประมาณ 10% โดยส่วนใหญ่รายได้หลัก 90% จะมาจากชายสี่ 

“เรามองว่าจะมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นไม่เกิน 6,000 สาขา (เฉพาะชายสี่) โดยราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 100,000 บาท คืนทุนภายใน 1 ปี ส่วนแบรนด์อื่นๆ ตั้งเป้าหลายร้อยสาขา ทั้งนี้การไปต่างประเทศในส่วนของแฟรนไชส์จะใช้แบรนด์ชายสี่เป็นหลัก 

รวมทั้งยังมีแผนที่จะเดินหน้าหาพันธมิตรมาร่วมประมาณ 5-10 แบรนด์ ผ่านการซื้อกิจการ และเป็นพาร์ตเนอร์ โดยจะต้องเป็นแบรนด์อาหารที่คนนิยม ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ที่ซื้อง่ายขายคล่อง ทั้งนี้ มูลค่าตลาดสตรีทฟู้ดในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 2 แสนล้านบาท

สุดท้ายนี้ อนุชิต มองว่า กำลังซื้อสตรีทฟู้ดไม่ได้กระทบมากนัก เมื่อเทียบแบรนด์ร้านอาหารขนาดใหญ่ โดยราคาหน้าร้านยังคงใกล้เคียงของเดิม 40-50 บาท ส่วนพิเศษอยู่ที่ 60-70 บาท เนื่องจากมีการบริหารต้นทุนหลังบ้านที่ดี ทำให้ยืนราคาเดิมได้ อย่างไรก็ตามในปี 67 ตั้งเป้าที่จะลงทุน 50-100 ล้านบาท โดยจะเป็นการขยายธุรกิจ เข้าซื้อกิจการ ก่อสร้างโรงงาน และอื่นๆ

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing

 
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์