ไม่อยากรอจนแก่! เทรนด์ FIRE พฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ทำงานให้สุด เก็บเงินอย่างบ้าคลั่ง หวังเกษียณเร็ว

ชีวิตเราใช้ซะ! แน่นอนว่าคำนี้ดูเหมือนจะเป็นวลีฮิตติดหู ที่เหล่าบรรดาคนรุ่นใหม่ หยิบยกนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น โดยวาดฝันที่อยากจะเกษียณในเร็ววันท่ามกลางวัย 30 กว่าๆ นั่นจึงทำให้คนเหล่านี้โหมทำงานเก็บเงินอย่างบ้าคลั่ง เพื่อที่จะได้เกษียณก่อนวัยกว่าคนทั่วไป และไปใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ 

คนไทยส่วนใหญ่ทำงาน 35-49 ชั่วโมง

จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า โครงสร้างกำลังแรงงานของประชากรในเดือนมกราคม 2567 ผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 59.07 ล้านคน เป็นผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานหรือผู้ที่พร้อมจะทำงาน 39.81 ล้านคน ประกอบด้วยผู้มีงานทำ 39.13 ล้านคน ผู้ว่างงาน 0.43 ล้านคน และผู้ที่รอฤดูกาล 0.25 ล้านคน ส่วนผู้ท่ีอยู่นอกกำลังแรงงานหรือผู้ท่ีไม่พร้อมทำงาน 19.26 ล้านคน ได้แก่ แม่บ้าน นักเรียน เด็ก ผู้ชรา ผู้ป่วย/พิการ เป็นต้น

เมื่อพิจารณาถึงชั่วโมงทำงานของผู้มีงานทำต่อสัปดาห์ในเดือนมกราคม 2567 พบว่า ผู้ทำงานต้ังแต่ 35-49 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีจำนวนมากถึง 18.70 ล้านคน หรือคิดเป็น 47.8% ของผู้มีงานทำท้ังหมด และผู้ทำงานน้อยกว่า 35 ชั่วโมงลงไปต่อสัปดาห์ มีจำนวน 15.92 ล้านคน คิดเป็น 40.7% สาหรับผู้ท่ีทำงาน 50 ชั่วโมงข้ึนไปต่อสัปดาห์ มีจำนวน 4.51 ล้านคน คิดเป็น 11.5%

เทรนด์ FIRE มุ่งมั่นมีอิสรภาพทางการเงินเพื่อการเกษียณให้เร็ว

ตรงจุดนี้สะท้อนให้เห็นว่าในประเทศไทยมี “คนวัยทำงาน” จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว และคนไทยเองก็ทำงานหนักไม่แพ้ใคร ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ FIRE (Financial Independence Retire Early) แปลตรงๆ ได้ว่า อิสรภาพทางการเงินเพื่อการเกษียณให้เร็ว ใช้เรียกกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดอยากมีอิสรภาพทางการเงินที่เร็ว โดยการวางแผนเก็บออมเงิน โหมเก็บเงินอย่างหนักกว่าคนทั่วไป เพื่อให้มีเงินเยอะพอที่จะเกษียณได้ตั้งแต่อายุน้อยๆ ไม่ต้องรอจนถึงอายุ 60 ปีอีกต่อไป

ซึ่งคนกลุ่มนี้เริ่มต้นวางแผนเกษียณ เพื่อที่จะ Early Retried หรือหยุดทำงานให้เร็วที่สุด และไปใช้ชีวิตแบบ New Slow Life ในแบบที่ต้องการ ขณะที่ยังแข็งแรงอยู่  โดยตั้งเป้าเกษียณเอาไว้ที่อายุ 30-40 ปี เร่งออมและลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงและเร็วที่สุด

มีชีวิตเป็นของตัวเอง ออกไปใช้ซะ ไม่ต้องกังวลเรื่องรายได้

ทั้งนี้แนวคิดของผู้บริโภคกลุ่ม FIRE หรือการเกษียณอายุของคนรุ่นใหม่ ต้องการมีอิสระทางการเงินและหยุดทำงานก่อนวัยเกษียณ เพราะมองว่าในวัยเกษียณอาจสายไปสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว หรือตามความฝันตัวเองในเรื่องต่างๆ ดังเช่นคำกล่าวที่ว่า “อย่ารอเก็บเงินจนแก่แล้วค่อยไปเที่ยว” 

ดังนั้นจึงมีการวางแผนการเงินตั้งแต่ช่วงเริ่มทำงาน (หรือบางคนอาจทำมาตั้งแต่ก่อนเรียนจบด้วยซ้ำ) เพราะรู้ว่ายิ่งลงทุนเร็วเท่าไร ก็ยิ่งได้รับผลตอบแทนที่สูง และมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าการลงทุนในวันที่อายุเพิ่มขึ้น จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาคือ “นักลงทุนมืออาชีพ” คนหนึ่ง ที่มีความหลากหลายในพอร์ตของตัวเอง รวมถึงการมองหาธุรกิจหรืองานเสริมอื่นๆ เพื่อร่นระยะเวลาในการปลดแอกจาก “ชีวิตพนักงานประจำ” ให้เร็วที่สุด เพราะเห็นภาพอนาคตของตัวเองแล้วว่า สามารถสร้างสินทรัพย์ได้มากกว่านี้เมื่อใช้เวลาทั้งหมดที่มีไปกับการบริหารอนาคตของตัวเอง  

นอกจากนั้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้ แนวคิด FIRE กลับมาเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และได้รับการพูดถึงอีกครั้งทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศ เนื่องจากพฤติกรรมคนรุ่นใหม่อยากใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ มีอิสรภาพทางการเงิน มี Passive Income แบบไม่ต้องทำงานหนัก รวมถึงอยากเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อย จึงทำให้คนรุ่นใหม่สนใจ และอยากจะลองทำตามแนวคิดนี้ 

FIRE ทำได้จริงไหม? ต้องเริ่มอย่างไร?

โดยควรเริ่มตั้งแต่ ควบคุมรายจ่าย เพิ่มรายได้ ปลดหนี้เก่า ไม่ก่อหนี้ใหม่ นำไปลงทุนมากขึ้น ออมเงินให้ได้ 20% ของเงินเดือนตนเอง หรือไม่ต่ำกว่า 10% ของเงินเดือน และสุดท้ายคือกำหนดเวลา “เกษียณ” ของตัวเองซะ เพราะ “ชีวิต” เป็นของเราอยู่ที่ “เรา” จะเลือกว่าจะเป็นยังไง และเดินเส้นทางไหนแค่นั้นเอง 

ดังนั้นแบรนด์จะต้องศึกษาและทำความเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่ม FIRE ให้ถ่องแท้ เพราะคนกลุ่มนี้ทำงานหนัก หาเงินเก่ง ก็ย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง ราคาไม่เกี่ยวขอแค่คุณภาพดี อย่างเช่น การลงทุน, สินค้าที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้ นับเป็นโอกาสของภาคธุรกิจที่จะนำเสนอสินค้าที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มที่อยาก “เกษียณ” ไวและมีกำลังทรัพย์

อ้างอิง FWD, GRID by PEA, Krungsri

ติดตามข้อมูลข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่ 
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney