เมื่อพูดถึงตลาดร้านอาหารบริการด่วน หรือ QSR หลายคนคงจะนึกถึง เบอร์เกอร์ ไก่ทอด พิซซ่า แน่นอนว่าตลาดนี้มีดีกรีไม่ธรรมดา มีอัตราเติบโตสูงกว่าร้านอาหารทั่วไป ด้วยมูลค่าในไทยสูงถึง 4.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ตลาดไก่ทอด 3.1 หมื่นล้านบาท เบอร์เกอร์ 9.8 พันล้านบาท ที่เหลือคือตลาดพิซซ่า
ดังนั้นหากจะกล่าวถึงผู้เล่นหลักๆ ในตลาดนี้ทุกคนก็คงจะรู้จักชื่อเป็นอย่างดี เพราะด้วย Product Focus แต่ละแบรนด์ค่อนข้างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น KFC ที่โด่งดังในเรื่องของไก่ทอด, The Pizza Company เบอร์หนึ่งของตลาดพิซซ่าไทย และแมคโดนัลด์ ผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดเบอร์เกอร์ ที่ล่าสุดทุบสถิติยอดขายนิวไฮ นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาเป็นเวลา 38 ปี โกยรายได้กว่า 7,213 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 31% จากปี 2565 ที่มียอดขายรวม 5,504 ล้านบาท
ด้านกำไรสุทธิก็ไม่แพ้กันถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่อยู่ที่ 315 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 168% จากปีก่อนหน้า ความสำเร็จของเบอร์เกอร์ที่ยังคงเป็น Portfolio หลักของแมคโดนัลด์ที่ครองใจลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ ด้วยสัดส่วนรายได้ที่มากกว่า 50% และการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของไก่ทอดแมคที่สร้างอัตราการเติบโตได้ถึง 40% ส่วนที่เหลือคืออื่นๆ 10%
กิตติวรรณ อนุเวชสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์มาจาก 4 หัวใจหลัก ได้แก่ คน, กลยุทธ์, การสร้าง Brand love และ Customer Centric ที่แม้สถานการณ์ของทุกธุรกิจ QSR จะมีความท้าทายเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่บริษัทฯ ยังคงมั่นใจว่ากลยุทธ์การดำเนินงานแนวรุกที่แข็งแกร่ง ด้วยงบประมาณการลงทุนมูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่ลงทุนไป 400 ล้านบาท ทำให้คาดว่าจะสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตกว่า 15% ภายในปี 67 หลังจากสองเดือนที่ผ่านมากลยุทธ์กิจกรรมที่ส่งลงตลาด ส่อแววคึกคักตั้งแต่ต้นปี
ทั้งนี้ตลาดร้านอาหารบริการด่วน และตลาดเดลิเวอรีปีนี้คาดการณ์ว่ายังคงเติบโต เห็นได้จากการที่ ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น คนไทยออกมาจับจ่ายใช้สอย นโยบายเปิดเสรีของภาครัฐ และมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย ทำให้ตลาดคึกคักตามไปด้วย โดยคาดว่าตลาด QSR จะโต 6-8% ส่วนแมคโนนัลด์เองมองว่าจะเติบโตสูงกว่าตลาด
กิตติวรรณ กล่าวเสริมว่า ยอดการสั่งซื้อต่อบิลอยู่ที่ประมาณ 200 บาท โดยส่วนใหญ่จำนวนลูกค้าแบ่งเป็นไทย 60% และ 40% เป็นนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ตัวเลขของคนที่ใช้ GMAL app (แอปคูปองของแมคโดนัลด์) อยู่ที่ประมาณ 2 แสนคนต่อวัน ส่วนใหญ่จะครอบคลุมทุก Gen แต่ปัจจุบัน Gen Z เป็น Gen ที่น่าสนใจโดยมีตัวเลขเฉลี่ยอยู่ที่ 20%
ทำให้ในปี 2567 แมคโดนัลด์จึงได้จัดทัพรุก ส่ง 5 กลยุทธ์บุกตลาด ตอกย้ำความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่อง
ตอบโจทย์ความคุ้มค่าให้กับลูกค้าในด้านคุณภาพ และราคา อย่างชุด EVM ในราคาเพียง 99 บาท ที่ทำให้สามารถสร้างการเติบโตได้มากกว่า 47% หรือเซตจับคู่ McSavers 1+1 ที่มีอัตราการเติบโตกว่า 12%
ครองใจ Gen Z ด้วยไก่ทอดแมค ปรับสูตรไก่ทอด ดึงต้าห์อู๋ กับออฟโรดนั่งแท่นพรีเซนเตอร์ ซึ่งจากแคมเปญล่าสุดสามารถดันยอดขายไก่ทอดแมคเพิ่มขึ้นกว่า 50%
ย้ำตัวจริงด้านเบอร์เกอร์คุณภาพเยี่ยม ตลอดทั้งปี 2567 ตั้งเป้าที่จะเสิร์ฟความแปลกใหม่ของเบอร์เกอร์ตลอดทั้งปี คาดว่าปีนี้การเติบโตของเบอร์เกอร์จะสูงถึง 20%
ปรับลุค เปลี่ยนบริการ สู่การสั่งอาหารได้อย่างรวดเร็วด้วยตัวเองผ่านเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ (SOK) ที่รองรับการชำระเงินแบบไร้เงินสด รวมทั้ง Table Service ส่งมอบอาหารถึงโต๊ะ โดยตั้งเป้าที่จะมี EotF ทั่วทุกสาขา 100% ภายในปีนี้
สาขาใหม่ ดีไซน์ใหม่ จับอินไซต์ลูกค้าด้วย Sustainability Concept เพิ่มพื้นที่สีเขียวในร้าน ภายใน Q2/67 ตั้งเป้าเปิดสาขาอีก 20 สาขา พยายามทำให้เป็นสแตนด์อโลนเกินครึ่ง เพื่อเปิด 24 ชั่วโมง รวมทั้งรีโนเวตสาขาเดิม 25 สาขา จากปัจจุบันมีสาขารวม 230 สาขาทั่วประเทศ ด้วยการบริหารของพนักงานกว่า 6,000 คน ซึ่งจะทำให้แบรนด์มีชีวิตชีวา โมเดิร์น ทันสมัย มีความสนุกสนานมากขึ้น ทั้งหมดนี้จึงนับเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของแมคโดนัลด์เลยก็ว่าได้
ติดตามข้อมูลข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney