ตลาดรถยนต์ล่มสลาย ค่ายสันดาป อัดโปรฯ แข่งรถไฟฟ้า กดรถมือสองล้น ราคาร่วง คาดรถยึดอาจพุ่ง 2.5 แสนคัน

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ตลาดรถยนต์ล่มสลาย ค่ายสันดาป อัดโปรฯ แข่งรถไฟฟ้า กดรถมือสองล้น ราคาร่วง คาดรถยึดอาจพุ่ง 2.5 แสนคัน

Date Time: 11 มี.ค. 2567 06:00 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • รถถูกยึดเข้าตลาด ทำซัพพลายล้น สหการประมูลคาดปี 67 อาจสูงถึง 2.5 แสนคัน ส่วนรถมือ 1 อัดโปรแข่ง EV ดุเดือด ดันราคารถมือสองตกฮวบ 20-30% กระบะมากกว่าเก๋ง ด้านไฟแนนซ์เพิ่มเกณฑ์ในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ลดปริมาณวงเงินลง KCAR มองอนาคตรถมือสองมีแนวโน้มทรงตัว แนะจับตาตลาดรถมือหนึ่ง และ EV จากจีน

Latest


คุณสุธี สมาธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมรถมือสอง ถ้าเทียบกับสิ้นปี 66 ที่ผ่านมา (ธ.ค.) กับช่วง ม.ค. 67 ปริมาณรถมือสองเข้าสู่ลานประมูลเพิ่มขึ้น แต่หากเทียบ ม.ค. 67 กับ ก.พ. 67 พบว่าจำนวนลดลง ส่วนแนวโน้มโดยภาพรวมปริมาณรถยึดยังอยู่ในระดับสูง ในมุมมองของสหการประมูล คาดว่า จำนวนรถยึดของปี 2566 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 2.3 แสนคันบวกลบ ส่วนในปี 67 จะอยู่ที่ 2.5 แสนคันบวกลบ 

ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้รถยึดเพิ่มจำนวนมากขึ้น สาเหตุมาจากรอยเก่าตั้งแต่สถานการณ์โควิด จนไล่ตามไทม์ไลน์คือ คนมีกำลังซื้อลดลง รายได้ไม่มี หนี้ครัวเรือนสูงขึ้น แม้สถาบันการเงินช่วยลูกหนี้ด้วยการพักชำระหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ หนี้ NPL ของรถยนต์จึงไม่ค่อยขยับ 

แต่เมื่อโครงการที่ทางภาครัฐ และสถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือสิ้นสุดลง ก็เริ่มเข้าสู่ชีวิตจริงของลูกหนี้ นั่นคือ ปริมาณรถยึดเพิ่มขึ้นมา ประกอบกับหนี้ภาคครัวเรือนสูงขึ้น ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนลดลง ปริมาณ NPL เริ่มขยับขึ้น ด้วยเหตุนี้เองปริมาณรถยนต์จึงเริ่มเข้าสู่ลานประมูลมากขึ้นนั่นเอง 

ทางสถาบันการเงินจึงไม่สามารถใช้เงื่อนไขในการปล่อยสิ้นเชื่อแบบเดิมได้ จึงปรับนโยบายการให้สินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น รวมทั้งปริมาณที่ให้กู้ต่อลูกค้า 1 ราย ปรับลดลงมาเรื่อยๆ ทำให้การปล่อยสินเชื่อของลูกหนี้รายใหม่ยากขึ้น

รถใหม่-EV แข่งขันราคา กดดัน “รถมือสอง” ราคาลงตาม

ส่วนระดับราคารถ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา ช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย. เรียกว่าระดับราคาแทบทรงตัว ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากปริมาณรถที่เข้าสู่ลานประมูลยังไม่เยอะ เพราะยังไม่พ้นช่วงสุดท้ายของการพักชำระหนี้ หรือปรับโครงสร้าง แต่เมื่อหลังจาก มิ.ย. 66 เป็นต้นมาโครงการดึงจุดพีกหมดระยะเวลา ทำให้รถเข้าสู่ลานประมูลเพิ่มขึ้นระดับราคาจึง “ถดถอย” ลง และอีกปัจจัยคือ การเข้ามาในพื้นที่ใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV 

ซึ่งในมุมมองของสหการประมูลรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ได้เป็นปัจจัยทางตรงกับรถยนต์มือสอง แน่นอนว่าอาจจะดึงกำลังซื้อของประชาชนไปบ้าง ดังนั้นเมื่อมีการแข่งขันทางด้านราคาของรถใหม่ และ EV จึงทำให้รถยนต์มือสองในตลาดต่างได้รับผลกระทบ “กดดัน” ให้ราคารถมือสองราคาต้องลงตามไปด้วย โดยรวมในปี 2566 ที่ผ่านมาราคารถมือสองดิ่งลงกว่า 20-30% โดยรถกระบะมือสองจะราคาลดลงมากกว่ารถเก๋ง เหตุผลคือ รถกระบะมีการนำไปทำมาค้าขาย เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี กำลังซื้อหดหาย จึงขายไม่คล่องนั่นเอง ส่วนรถเก๋งกลุ่มที่ใช้ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพอิสระ พนักงานเงินเดือน

คาดตลาดรถมือสองคึกคัก ราคาขยับขึ้น 

ทั้งนี้หากมองต้นปี 2567 (ม.ค.-ก.พ. 67) จะเห็นว่าตลาดรถมือสองคึกคัก ดูดีขึ้น ระดับราคารถมือสองในลานประมูลมีการเริ่มขยับขึ้น ทั้งนี้ถึงแม้ปริมาณรถยึดจะคงอยู่ในระดับที่สูงอยู่ ส่วนหนึ่งเนื่องจากประชาชนรับรู้เงื่อนไขการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินมากขึ้น และมีการปรับตัวทำให้ทิศทางรถยึดดีอยู่ในระดับหนึ่ง 

พิชิต จันทรเสรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงไทย คาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคารถมือสอง ตอนนี้ราคาดิ่งขึ้นมานิดหน่อยจากช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมาในหลายๆ เซกเมนต์ ยกเว้นรถ executive อย่าง Honda Accord, Toyota Camry ยังไม่ค่อยดี ปัจจัยอาจจะเป็นในเรื่องของปลายปีที่ราคาตกลงไปเยอะเนื่องจากว่าคนหันไปสนใจรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และเทศกาลของรถใหม่ดังนั้นดีมานด์จะไปตรงจุดนี้เยอะ ซัพพลายยังมีแต่ดีมานด์หายไปเต็นท์ก็จะไม่ค่อยประมูล ราคาจึงตก

รวมทั้งสถาบันการเงินมีความระมัดระวังสูง เนื่องจากหนี้เสียยังมีอยู่ จึงได้มีการเพิ่มเกณฑ์ในการปล่อยสินเชื่อลูกค้า แต่ผู้ประกอบการก็เริ่มปรับตัวมากขึ้นทั้งการคุยกับลูกค้า ให้ใช้เงินดาวน์มากขึ้น ซื้อรถที่เหมาะสมกับศักยภาพทางการเงินของตัวเองมากขึ้น ทำให้เกณฑ์ผ่านไฟแนนซ์มีทิศทางที่สดใส 

ขณะที่สถานการณ์ทิ้งผ่อนรถ หรือโดนยึดรถยังทรงตัวเพราะหลายไฟแนนซ์เริ่มที่จะอยู่ตัว มีความระมัดระวังมากขึ้น สินเชื่อที่ปล่อยใหม่จึงดีขึ้น ส่วนปัจจัยที่ทำให้ตลาดเริ่มอยู่ตัวคงเป็นเพราะว่า “ยึดมาเยอะ” พอสมควรแล้ว หากมีก็เพียงแต่คนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดที่สภาพคล่องยังไม่ดีนัก

ด้าน KCAR มองว่าทิศทางรถมือสองเดือน มี.ค. 67 จะดีขึ้นจากที่ผ่านมา เดิมถูกดึงไปอยู่พอสมควร โดยเฉพาะถูกรถไฟฟ้า ที่กระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งทางตรงคือบางรุ่นที่เทียบเท่าอย่าง Accord คนก็เปลี่ยนไปซื้อ BYD ATTO ส่วนทางอ้อมคือ เมื่อมีรถไฟฟ้า รถสันดาปใหม่ๆ ก็จัดโปรโมชันมากขึ้น จึงดึงดีมานด์จากรถมือสองไประดับหนึ่ง

รถมือสองเข้าสู่เต็นท์รถส่วนใหญ่อายุใช้งานประมาณ 3-5 ปี

ยกตัวอย่างเช่น Honda Civic ที่เข้าสู่เต็นท์รถมือสองระยะการใช้งานส่วนใหญ่จะอยู่ประมาณ 3-5 ปี ส่วนประเภทรถมือสองที่เข้าสู่เต็นท์รถนั้นจะเป็นในกลุ่มของรถกระบะเป็นหลัก ยี่ห้อหลักๆ ตามสัดส่วนทางการตลาด เนื่องจากประเทศไทยสัดส่วนการจำหน่ายรถกระบะถือว่าสูงพอสมควร

ทั้งนี้ทางฝั่งของผู้บริโภคดีมานด์ยังมีมาเรื่อยๆ เพียงแต่ไฟแนนซ์เพิ่มเกณฑ์ช่วงแรกลูกค้ายังไม่ปรับตัว แต่พอมาช่วงหลังลูกค้ามีความรู้ทางการเงินมากขึ้น ขณะที่รถเช่ายังมีดีมานด์มาเรื่อยๆ แม้ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดีตลาดก็ไม่อิ่มตัว มีการขยายตัวมีลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น

“ในระยะต่อไปมองว่า ตลาดรถมือสองยังทรงๆ หดตัวเล็กน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์รถมือหนึ่ง หากรถยนต์สันดาปมือหนึ่งหลายๆ ค่าย ปรับลดราคาลงและใส่ออปชันมากขึ้นเพื่อสู้กับรถยนต์ไฟฟ้า

“รถมือสอง” อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่หากรถมือหนึ่งไม่มีโปรโมชันอะไรรุนแรง และผู้ผลิตยังไม่มีสัญญาณตั้งเป้าเติบโตเยอะ เพราะรุ่นใหม่เปิดตัวปีนี้คงไม่เยอะ ยกเว้นรถจากจีน อย่าง EV หรือมองประมาณการณ์สูงนักโปรโมชันจะไม่แรงมาก ดังนั้นตลาดรถมือสองอาจจะทรงๆ หลังจากนี้ไป กระนั้นรถยนต์มือสองยังคงเป็นที่ต้องการของตลาด ด้วยค่าครองชีพของไทยไม่สูงนัก “รถยนต์มือสอง” จึงตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี” พิชิต กล่าวทิ้งท้าย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์