ปรากฏการณ์ “คนโสด” ที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มีสาเหตุที่คล้ายคลึงกันจากหลายปัจจัย ทั้งจากการขยายตัวของสังคมเมือง ที่ คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ มีแนวโน้มครองตัวเป็นโสดมากขึ้น จากวิถีชีวิตที่วุ่นวาย และเร่งรีบ ทุ่มเทกับเรื่องการทำงานมากขึ้น ทำให้มีเวลาส่วนตัวน้อยลง ปัญหาความไม่พร้อมทางเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนด้านรายได้ ภาระทางการเงิน ดันเทรนด์ “Solo dining” กินข้าวคนเดียว พุ่งติดพฤติกรรมคนโสดยอดฮิต
“คนโสด” กลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่กำลังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก และจากพฤติกรรมการอยู่คนเดียว ไม่มีภาระเท่ากับคนมีครอบครัว ทำให้คนโสดส่วนใหญ่มีแนวโน้ม ใช้ “เงิน” ซื้อความสุข และปรนเปรอตัวเองเป็นหลัก
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้ “Table for one” โมเดลธุรกิจร้านอาหารนั่งกินคนเดียวกำลังมาแรงในหลายประเทศ ซึ่งความเป็นจริงเทรนด์ “Solo dining” มีจุดเริ่มต้นมาระยะหนึ่ง ปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากกระแส ‘ธุรกิจคนโสด’ นั่นเอง และต่อเนื่องมาจนถึงวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด การใช้ชีวิตแบบ Social distancing ยิ่งช่วยกระพือให้กระแสการทานข้าวคนเดียวได้รับความนิยมมากขึ้น
จากข้อมูลพบว่าคนโสดจะใช้จ่ายในเรื่องอาหารการกินมากกว่าคนที่มีคู่ ทำให้กลุ่มคนโสดกลายเป็นลูกค้าช้ันดีของเหล่าบรรดาร้านอาหารต่างๆ และส่งผลให้ผู้ประกอบการในธุรกิจร้านอาหารจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้มากขึ้น ทั้งปรับรูปแบบโต๊ะ และ Layout ภายในร้านอาหาร, ปรับเมนูอาหาร ปริมาณ, ปรับบรรยากาศภายในร้าน และนำเทคโนโลยีสั่งกินง่ายมาใช้ในร้าน
ในเกาหลีใต้ วัฒนธรรม “ฮนบัพ” (Honbap) หรือการทานข้าวคนเดียวไม่ใช่เรื่องที่แปลกอีกต่อไป โดยนับเป็นกระแสนิยมในกลุ่มวัยรุ่นเกาหลีใต้อย่างมาก ปัจจุบัน พบว่าร้านอาหารหลายแห่งในเกาหลีได้มีการปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้น เช่น มีเมนูอาหารสาหรับทานคนเดียว หรือแม้แต่ร้านอาหารในเครือห้างล็อตเต้ก็มีการลดจำนวน โต๊ะอาหารสำหรับลูกค้ากลุ่มใหญ่ และแทนที่ด้วยฉากกั้นเพื่อแบ่งสัดส่วนพื้นที่ สำหรับลูกค้าที่มาทานอาหารคนเดียวมากขึ้น
เช่นเดียวกับในญี่ปุ่น กระแส Ohitorisama ยังได้สร้างแรงกระเพื่อมมายังธุรกิจร้านอาหารเพื่อตอบโจทย์ บริบททางสังคมและทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้เกิดแนวคิดของร้านอาหารสำหรับ นั่งทานคนเดียว เช่น “ฮิโตริ ยากินิกุ” (Hitori Yakiniku) ปิ้งย่างคนเดียว หรือ “ฮิโตริ ชาบู” (Hitori Shabu) กินชาบูคนเดียว
ทั้งนี้จากผลสำรวจของหนังสือพิมพ์ Washington post พบว่าเกือบครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคชาวอเมริกันนิยมทานอาหารคนเดียวราวๆ 1 ใน 3 ของผู้บริโภคในยุโรปทานอาหาร คนเดียวเป็นปกติในชีวิตประจาวัน สะท้อนว่า ผู้คนส่วนใหญ่มีไลฟ์สไตล์และทำกิจกรรมต่างๆ ในลักษณะตัวคนเดียวมากขึ้น และไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาดหรือน่าอายแต่อย่างใด
สาหรับในไทย ก็เริ่มมีโมเดลธุรกิจร้านอาหารในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อเกาะกระแส Solo dining ในลักษณะ “New concept store” เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการคนเดียวมากขึ้น โดยมีอุปกรณ์ต่างๆ บนโต๊ะอาหาร เช่น หม้อต้มชาบูหรือกระทะปิ้งย่างส่วนตัว
ดังนั้น ผู้ประกอบการที่ต้องการคว้าโอกาสจากกระแสคนโสด ปรับเปลี่ยนแนวคิดและโมเดลธุรกิจเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์และตรงใจผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้มากขึ้น
เพราะถึงแม้ว่าเทรนด์คนโสดจะกลายเป็นหนึ่งในวิกฤติด้านโครงสร้างสังคมและประชากรศาสตร์ แต่อีกนัยหนึ่งสังคมตัวคนเดียว และเศรษฐกิจคนโสด (Solo economy) ก็นำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่น่าจับตามองและไม่ควรมองข้าม
อ้างอิง SCB EIC
ติดตามข้อมูลข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney