เมกาบางนา ทุ่ม 200 ล้าน ยึดตลาดกรุงเทพฯ ตะวันออก ลุยจัดอีเวนต์ เน้นลูกค้ากระเป๋าหนัก

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เมกาบางนา ทุ่ม 200 ล้าน ยึดตลาดกรุงเทพฯ ตะวันออก ลุยจัดอีเวนต์ เน้นลูกค้ากระเป๋าหนัก

Date Time: 5 ก.พ. 2567 15:08 น.

Video

ล้วงลึกอาณาจักร “PCE” สู่บริษัทมหาชน ปาล์มครบวงจร | On The Rise

Summary

  • เปิดศึกใหญ่ย่านกรุงเทพฯ ตะวันออก "เมกาบางนา" ทุ่มงบ 200 ล้าน อัดโปรฯ แคมเปญ อีเวนต์แน่น ขยายฐานลูกค้ากลุ่ม Younger Customers, PET Lover และสังคมสูงวัยเพิ่มมากขึ้น ดันยอดผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่า 10% จากปี 2566 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 53 ล้านคน

Latest


ว่ากันว่า "ย่านกรุงเทพฯ ตะวันออก" จากเดิมที่เคยเป็นเพียงพื้นที่ห่างไกลในความคิดของใครหลายๆ คน แต่ปัจจุบันได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งทำเลทองที่รายล้อมไปด้วยห้างค้าปลีก ค้าส่ง โครงการอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก เนื่องจากใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งหลังมีการเปิดใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ก็ทำให้พื้นที่ทำเลดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างไม่ขาดสาย ทั้งจากกลุ่มนักลงทุน และประชาชนทั่วไปที่ต่างย้ายถิ่นฐานเข้ามาพำนักในพื้นที่แห่งนี้เพิ่มมากขึ้น 

ดังนั้นหากจะเอ่ยถึงชื่อศูนย์การค้าที่ตั้งตระหง่าน และเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของย่านบางนาแห่งนี้ก็คงหนีไม่พ้น “เมกาบางนา” ดำเนินธุรกิจมากว่า 11 ปี และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 12 ที่มีการวาง Tenant Mix หรือการผสมผสานร้านค้าที่มีความหลากหลายได้อย่างลงตัว ทำให้ไม่ว่าจะกี่ปี “เมกาบางนา” ก็ยังคงเป็นศูนย์การค้าเนื้อหอมของโซนกรุงเทพฯ ตะวันออกเสมอมา 

ยึดใจกลางโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก

วรรณวิมล อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าเมกาบางนา เปิดเผยว่า เมกาบางนา ถือเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่รีเทลของศูนย์ฯ ประมาณ 2.4 แสนตารางเมตร รวมร้านค้าทุกหมวดหมู่กว่า 900 ร้าน โดยนับตั้งแต่เปิดให้บริการมาเมื่อปี 2555 จนถึงปัจจุบัน เมกาบางนา มีลูกค้ามาใช้บริการรวมกว่า 550 ล้านคน ในปี 2566 ที่ผ่านมามีผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 1.2 แสนคนต่อวันในวันธรรมดา และมากกว่า 2.2 แสนคนต่อวันในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพิ่มขึ้นจากปี 2564 คิดเป็น 10% 

ซึ่งผู้คนกว่า 81% มายังเมกาบางนาเพื่อรับประทานอาหาร ส่วน 32% มาเพื่อการช็อปปิ้งสินค้าไฟล์สไตล์ และ 23% มาเพื่อซื้อของตกแต่งบ้าน และในกลุ่มนี้ 53% เป็นกลุ่มครอบครัว และ 78% ใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางมาที่เมกาบางนา 

ขณะที่ความสำเร็จที่ใหญ่ที่สุดของปี 2566 ที่ผ่านมาคือ จำนวนของผู้ที่เข้ามาใช้บริการในเมกาบางนาสูงถึง 53 ล้านคน ที่ถือได้ว่ามากกว่าช่วงก่อนโควิด โดยคิดเป็นเดือนละประมาณ 4.4 ล้านคน วันหยุดอยู่ที่ประมาณ 2.2 แสนคน และวันธรรมดาอยู่ที่ประมาณ 1.2 แสนคน ซึ่งคนส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่ในศูนย์ฯ ประมาณ 4-6 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่สัดส่วนร้านค้า แฟชั่น 40% ฟู้ด 30% และอื่นๆ อย่างเช่นไลฟ์สไตล์ เซอร์วิส ดังนั้นในปี 2567 จึงมีการตั้งเป้าโตกว่า 10%

รวมทั้งจากการสำรวจพบว่ามีลูกค้าใหม่ๆ ทั้งจาก Catchment area และลูกค้าที่เป็น Brand Lover ทำให้ในปี 2567 เมกาบางนาตั้งเป้าที่ขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยเน้นไปที่คอมมูนิตี้เฉพาะกลุ่มมากขึ้น ผ่านเพิ่มกิจกรรมรองรับกลุ่ม Younger Customers มากขึ้น อาทิ กลุ่มคนรุ่นใหม่ เด็กมหาวิทยาลัย และคนเริ่มทำงาน รวมทั้งกลุ่ม PET Lover และสังคมสูงวัย ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังการใช้จ่ายค่อนข้างสูง เนื่องจากไม่มีภาระ และมีเม็ดเงินในการใช้จ่าย ตลอดจนผู้บริโภคในตัวเมืองที่มีปริมาณมากขึ้น ทั้งจากอีเวนต์ กิจกรรมในศูนย์ฯ แคมเปญ โปรโมชัน

หนุนเพิ่ม สมาชิกเมกาสไมล์รีวอร์ดส

จึงได้มีการทุ่มงบการตลาดในปี 2567 กว่า 200 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10% พร้อมทั้งยกระดับสมาชิก เมกาสไมล์รีวอร์ดส ที่ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 3.6 แสนคน มียอดใช้จ่ายต่อใบเสร็จอยู่ที่ 4.5 พันบาทขึ้นไป โดยคาดว่าในปี 67 ต้องการที่จะมีสมาชิกเพิ่มประมาณ 10% เนื่องจากเป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง และมีอัตราการใช้งานเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 35% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป โดยแอปฯ เปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี 2562 ทั้งนี้ในปี 67 ตั้งเป้าที่จะมียอดใช้จ่ายต่อบิลเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% 

อย่างไรก็ตามนอกจากแผนงานที่จะมีในปี 2567 อย่างคับคั่งแล้วนั้น เมกาบางนา ยังมีการนำร้านค้าใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีที่ผ่านมามีแฟลกชิพสโตร์มาเปิดจำนวนมาก อาทิ Gentle women, Nike และ New balance ที่มีการปรับโฉมร้านใหม่ ฯลฯ รวมทั้งยังมีร้านอาหาร และร้านที่เป็นไลฟ์สไตล์ เป็นกระแสมาอยู่ที่นี่มากขึ้น

“เราพยายามจะทำให้แบรนด์ของเมกาบางนาทันสมัยตลอดเวลา มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น และเป็นไวรัลมากขึ้น ผ่านแคมเปญตลอดทั้งปี 67 ทั้งที่ศูนย์ฯ และผ่านโซเชียลมีเดียโดยที่เนื้อหาแต่ละแพลตฟอร์มจะไม่เหมือนกัน รวมทั้งมีการเปิดโซเชียลมีเดียสุดฮอตอย่าง TikTok ด้วยเช่นกัน จากปัจจุบันที่มีครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม”

ดังนั้นในปี 67 ได้มีการวางแผนที่จะมีอีเวนต์ถึง 13 งาน โดยหลักซิกเนเจอร์ 5 อีเวนต์ ส่วนที่เหลือเป็นตามเทศกาล โดยในไตรมาส 1 ประมาณ 3  อีเวนต์. 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ