AWC ปั้น The Empire Residence สร้างประสบการณ์ใหม่ อาคารออฟฟิศระดับโลก

Business & Marketing

Marketing

Content Partnership

Author

Content Partnership

Tag

AWC ปั้น The Empire Residence สร้างประสบการณ์ใหม่ อาคารออฟฟิศระดับโลก

Date Time: 26 ธ.ค. 2566 09:30 น.
Content Partnership

Summary

  • AWC เปิดพื้นที่ใหม่ “The Empire Residence” บนชั้น 53 อาคาร ‘เอ็มไพร์’ เปิดประสบการณ์ “Co-Living Collective: Empower Future” รวมองค์ประกอบของการใช้ชีวิตและการทำงานมาไว้ในที่เดียว ปักธง Workplace Destination ระดับโลก พร้อมเปิดประสบการณ์นวัตกรรมอาคารสำคัญที่หาที่ไหนไม่ได้ในประเทศไทย

พบกับอาคารสำนักงาน ที่จะไม่ได้ให้บริการเฉพาะในช่วงเวลา office hour อีกต่อไป เมื่อ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร พัฒนาและยกระดับประสบการณ์การให้บริการอาคารสำนักงานในรูปแบบใหม่ในประเทศไทย

ผสมผสานการใช้ชีวิตและการทำงานเข้าด้วยกัน (Work-Life Integration) ด้วยการเปิดพื้นที่ใหม่ “The Empire Residence” บนชั้น 53 ของอาคาร ‘เอ็มไพร์’ ใจกลางเมือง บนถนนสาทร ให้เป็น Co-Living Space ขนาดใหญ่ สร้างพื้นที่ที่แบ่งปันประสบการณ์ใหม่ พร้อมรองรับเทรนด์ธุรกิจในโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยเป้าหมายในการส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่ Workplace Destination เป็นจุดหมายปลายทางขององค์กรและพนักงานจากทั่วโลก

วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “The Empire Residence เป็นมิติใหม่ของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในการบูรณาการชีวิตและการทำงานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อส่งมอบประสบการณ์ Co-Living Collective: Empower Future เพิ่มพลังการใช้ชีวิตและการทำงาน เชื่อมต่อประสบการณ์การทำงานและการใช้ชีวิตในหลากหลายไลฟ์สไตล์อย่างครบครัน และเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ประเทศไทยตอบโจทย์ Workplace Destination

ตามแนวคิด ‘Co-Living Collective: Empower Future’ ของอาคาร ‘เอ็มไพร์’ ที่สร้างสรรค์เพื่อรองรับเทรนด์อนาคต ผสมผสานการทำงานและการใช้ชีวิตเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อให้ผู้เช่าสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกร่วมกันภายในอาคาร เพิ่มพื้นที่ทำงานที่สร้างความสุข เชื่อมต่อองค์กร ผู้คน และชุมชน เข้าด้วยกัน สู่การเป็นอีโคซิสเต็มแห่งการเรียนรู้และแบ่งปัน เพื่อการใช้พื้นที่ร่วมกันอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน หรือ Sustainable Living รวมถึงช่วยเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจได้อย่างไร้ขีดจำกัด ตอบโจทย์ความต้องการทั้งในปัจจุบันและอนาคตขององค์กรชั้นนำระดับโลกที่กำลังมองหาออฟฟิศยุคใหม่ในย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ”

ตอบโจทย์ชีวิตและการทำงานผ่าน Live-Play-Share-Work

เปิดบ้าน “The Empire Residence” ตั้งอยู่บนชั้น 53 ของอาคาร ‘เอ็มไพร์’ ด้วยพื้นที่แบบ Co-Living กว่า 1,500 ตารางเมตร มีขนาดใหญ่และไม่เหมือนที่ไหนในอุตสาหกรรมอาคารสำนักงานในประเทศไทย

พร้อมด้วยวิวอันงดงามของกรุงเทพฯ จากมุมสูง ที่เปิดโอกาสให้ผู้เช่าทุกรายสามารถเข้าถึงพื้นที่สร้างสรรค์แห่งนี้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ในการบูรณาการชีวิตและการทำงานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัยผ่าน 4 องค์ประกอบของการใช้ชีวิต รวมมาไว้ในที่เดียว

Live - “Ploen Room” พื้นที่อเนกประสงค์สำหรับทุกคนที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกิจกรรมต่างๆ ทั้งการแสดงสินค้า โรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก และห้องซ้อมเต้น รวมถึง “Eatery Bar” พื้นที่รับประทานอาหาร พร้อมห้องครัวส่วนกลาง ที่ทุกคนสามารถมารวมตัวเพื่อแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ร่วมกัน “Drink Bar” เติมเต็มชั่วโมงแห่งความสุขหลังเลิกงานพร้อมชมวิวคุ้งน้ำบางกระเจ้ายามเย็น และ “Live Lounge” พื้นที่เลานจ์สังสรรค์ในบรรยากาศห้องนั่งเล่น เหมาะสำหรับการพักผ่อน

Play - “Karaoke Room” บอกลาความเหนื่อยล้าและผ่อนคลายไปกับเสียงดนตรีที่ห้องคาราโอเกะ รวมถึง “Game Room” พื้นที่แห่งความสนุกสนานและความบันเทิงกับเครื่องเล่นวิดีโอเกม และกิจกรรมสันทนาการที่ทุกคนสามารถเพลิดเพลินไปด้วยกันกับเพื่อนร่วมงาน “Kids’ Room” พื้นที่ความสนุกสำหรับคุณหนูๆ และครอบครัว ที่ผู้ปกครองสามารถให้ลูกๆ มาพักผ่อนนั่งรอหลังเลิกเรียนได้อย่างไร้กังวล “Own Time” ห้องโยคะและฝึกสมาธิสำหรับใช้เวลาอยู่กับตัวเอง และ “Pets’ Room & Pets’ Bedroom” ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยงแสนรัก ไม่ว่าจะเป็น ที่นั่ง อ่างน้ำ เฟอร์นิเจอร์ และพื้นที่วิ่งเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง

Share - “Mini Gym” พื้นที่ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอด้วยลู่วิ่งแบบอินเทอร์แอคทีฟเพื่อคนรักสุขภาพ รวมถึง “Nap Lounge” เลานจ์สำหรับการพักผ่อน ในบรรยากาศที่เงียบสงบและผ่อนคลาย เพื่อการชาร์จพลังในระหว่างวัน และ “Gents’ Room & Girls’ Room” ห้องล็อกเกอร์สำหรับชาย หญิง พร้อมสัมผัสประสบการณ์การอาบน้ำด้วยเทคโนโลยีวารีบำบัดเพื่อเพิ่มความสดชื่น รวมถึงห้องซาวน่า และห้องสตีม

Work - “Sook Room, Sanook Room, Saran Room & Mini Zone” ห้องประชุมหลากหลายขนาดตั้งแต่ห้องส่วนตัวขนาดเล็กไปจนถึงห้องประชุมขนาดใหญ่พร้อมรองรับการจองห้องประชุมล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน “Pikul” รวมถึงพื้นที่ “Team Zone” นำเสนอพื้นที่การทำงานที่ยืดหยุ่นเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือร่วมกันผ่านสายงานที่หลากหลาย รวมถึงการจัดสัมมนา และ “Peace Lounge” พื้นที่ทำงานอันเงียบสงบในสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบาย ผ่อนคลาย เพื่อมุ่งความสนใจให้กับการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

Café Pittore ร้านกาแฟสไตล์อิตาเลียนที่ให้บริการระดับโรงแรมหรู

นอกจากนี้ ยังได้เปิดให้บริการร้าน “Café Pittore” คาเฟ่สไตล์อิตาเลียนที่นำเสนอกลิ่นอายในแบบเอเชีย ตั้งอยู่บริเวณชั้น G อาคารเอ็มไพร์ในรูปแบบล็อบบี้เลานจ์ที่เปิดให้บริการแก่ลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน

เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการนัดประชุมงาน พักผ่อน หรือนั่งทำงานระหว่างวันในบรรยากาศชวนผ่อนคลาย พร้อมนำเสนอบริการอาหารและเครื่องดื่มที่เรียบง่ายด้วยการบริการระดับโรงแรม

เติมเต็มประสบการณ์ด้วย “EA Rooftop at The Empire” จุดหมายปลายทางด้านอาหารและเครื่องดื่มบนรูฟทอปที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่บริเวณชั้น 55-60 ของอาคาร ประกอบด้วย

  • “EA Gallery” ชั้น 55 แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ร้านอาหารและคาเฟ่กับทัศนียภาพที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ ที่ทยอยเปิดร้านคาเฟ่และร้านอาหารตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 และจะเปิดเต็มรูปแบบในไตรมาสแรกปี 2567
  • “EA CHEF'S TABLE” ชั้น 56 ห้องอาหารไทยบนรูฟทอปแห่งแรกและห้องอาหารจีนที่อยู่สูงที่สุดในไทยที่สร้างสรรค์โดยเชฟมิชลินสตาร์ “เชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร” และ “เชฟวิคกี้ เชง”
  • “Nobu Bangkok” ชั้น 57-58 และ “Nobu Bangkok Rooftop Bar” ชั้น 60 ห้องอาหารและบาร์ภายใต้แบรนด์ Nobu ที่สูงและใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงยังเป็นห้องอาหาร Nobu แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้าและพนักงานภายในอาคาร ‘เอ็มไพร์’ ได้อย่างครบวงจร ภายในไตรมาสสามปี 2567

เปิดนิยาม Co-Living Space รับสิทธิประโยชน์ในเครือ AWC

Co-Living Space ที่ไม่เหมือนที่ไหนในอาคารสำนักงานในประเทศไทยกับการสัมผัสประสบการณ์ที่ผู้เช่าจะไม่ได้รับจากที่ไหน ด้วยสิทธิประโยชน์จาก “AWC Infinite Lifestyle” (AWI) และแอปพลิเคชัน “Pikul” ซึ่งเชื่อมโยงผู้เช่าและนักเดินทางเข้ากับเครือข่ายทั้งหมดของกลุ่มโรงแรมและห้องอาหารในเครือ AWC เพื่อให้ทุกคนสามารถเพลิดเพลินไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครันทั้ง “Office-Home-Hotel-Retail” ได้อย่างไร้รอยต่อในสัมผัสเดียว

ไม่ว่าจะเป็น การเข้าอาคาร การจองห้องประชุม และข้อเสนอสุดพิเศษต่างๆ และยังเตรียมเพิ่มบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย อาทิ บริการนำรถไปจอด (Valet Parking) เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ (Drop-off Concierge) บริการ Room Service และแผนกต้อนรับลูกค้า (Guest Reception) เพื่อให้ทุกคนในอาคารสามารถใช้ชีวิตได้อย่างลงตัวและมีความสุข

วัลลภา กล่าวด้วยว่า “การเปิดตัว ‘The Empire Residence’ และพื้นที่ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ มากมายในอาคาร ‘เอ็มไพร์’ ไม่ได้เป็นเพียงการเปิดตัวแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ใหม่ด้านการทำงานและไลฟ์สไตล์แต่เพียงเท่านั้น

แต่ยังแสดงถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของ AWC ทางด้านนวัตกรรมที่ไม่หยุดยั้งในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้อุตสาหกรรมอาคารสำนักงาน เสริมแกร่งอาคาร ‘เอ็มไพร์’ ให้เป็นจุดหมายปลายทางการทำงานอย่าง AWC's Lifestyle Workplace Destination ที่บูรณาการการใช้ชีวิตและการทำงานเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัวในรูปแบบที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน”

‘The Empire Residence’ เป็นไมล์สโตนครั้งสำคัญแห่งการใช้ชีวิตและการทำงานในเมืองที่จะช่วยเสริมสร้างคุณค่าองค์รวมให้กับพนักงาน ลูกค้า ชุมชน สังคม และประเทศชาติ เพื่อช่วยสนับสนุนประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางขององค์กรและพนักงานจากทั่วโลกที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง


Author

Content Partnership

Content Partnership