การปิดตัวลงของห้างสรรพสินค้าอย่าง พรอมเมนาดา และกาดสวนแก้ว ส่งผลให้เชียงใหม่เหลือศูนย์การค้าขนาดใหญ่เพียงแค่ 3 แห่ง เท่านั้น นั่นจึงทำให้ “ผู้เล่น” ที่เหลือในตลาดต่างงัดกลยุทธ์หมัดเด็ด เพื่อมาสกัดคู่แข่ง และช่วงชิงกำลังซื้อของผู้บริโภค หนึ่งในนั้นคือ “เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต” ภายใต้การบริหารของกลุ่มเซ็นทรัล ที่เปิดมานานกว่า 27 ปี ที่จวนต้องถึงเวลา “รีโนเวท”
อิศเรศ จิราธิวัฒน์ Head of Fashion and Luxury Partner Management บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา เปิดเผยว่า เบื้องต้นเซ็นทรัลได้เตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 2,000 ล้านบาท สำหรับการเปลี่ยนโฉม ‘เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต’ ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2539 เพื่อเป้าหมายสู่การเป็น ‘Major Renovation’ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 4 ปี 2568
“แผนดำเนินการจะทยอยปรับเป็นเฟสๆ โดยจะเปิดทำการตามปกติ แต่จะปิดเป็นส่วนๆ จากปกติเราต้องมีการรีโนเวทเล็กๆ น้อยๆ ทุก 7-10 ปี โดยภาพลักษณ์ใหม่ในครั้งนี้จะมีความเป็นโมเดิร์นล้านนาที่ยังคงมีความโลคอลกลิ่นไอของพื้นที่นั้นๆ ซึ่งจะทำให้เซ็นทรัลฯ ภายใต้โฉมใหม่คือ คอมมูนิตี้ที่ตอบโจทย์คนพื้นที่อย่างแท้จริง”
ทั้งนี้อีกหนึ่งจุดสำคัญ ที่เรียกได้ว่าเป็น “พระเอก” ของเรื่องก็คือ การนำอินเตอร์แบรนด์และลักชัวรี่แบรนด์กว่า 50% มาไว้ในนี้ ซึ่งชาวเมืองเชียงใหม่จะได้ไม่ต้องไปช็อปปิ้งที่กรุงเทพฯ อีกต่อไป เพราะจะมีการนำแบรนด์ที่เคยผ่านหน้าคร่าตาในกรุงเทพฯ มาปักหลักไว้ที่เชียงใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน, อย่างล่าสุด MUJI (มูจิ) แบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกสัญชาติญี่ปุ่น ก็ได้มาเปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกในภาคเหนือและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นสาขาที่ 32 ของ MUJI บนพื้นที่กว่า 3,000 ตร.ม. ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต โดยมีสินค้ามากกว่า 3,000 รายการ ที่พกคุณภาพมาตรฐานระดับญี่ปุ่น ในราคาที่จับต้องได้
พร้อมไฮไลต์ MUJI Coffee Corner (มุมกาแฟ) หรือคาเฟ่มูจิ พบกับเครื่องดื่มราคาเบาๆ พร้อมเบเกอรีสไตล์ญี่ปุ่นมากกว่า 20 รายการ และพิเศษกับโซนสินค้าและบริการรูปแบบใหม่ รวมทั้งขนมนำเข้าญี่ปุ่นหลากหลายแบรนด์กว่า 150 รายการ ที่แรกและที่เดียวในไทย
ซึ่งการที่ MUJI เลือกที่จะมาปักหลักที่นี่ เพราะด้วยความที่ อิศเรศ มองว่า เนื่องด้วยเชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงอันดับต้นของประเทศไทย ถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจการพาณิชย์และอุตสาหกรรมของภาคเหนือตอนบนและเขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ยังเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ
การที่แบรนด์ระดับโลกอย่าง MUJI เลือกขยายธุรกิจในไทยที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของจังหวัด และเซ็นทรัลพัฒนา ในฐานะผู้นำศูนย์การค้าไทยที่ความพร้อมในเชิงกลยุทธ์แบบ End-to-End Solution รู้ลึกและเข้าใจตลาดไทยทั่วประเทศ จึงช่วยเสริมแกร่งศักยภาพของแบรนด์ระดับโลกให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ปัจจุบันเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต มีลูกค้าเฉลี่ย 40,000 คนต่อวัน โดยแบ่งเป็นคนไทยประมาณ 90% และชาวต่างชาติที่พำนักและมาท่องเที่ยว 10% มียอดการใช้จ่ายเฉลี่ย 4,000 บาทต่อบิล ต่อครั้ง ทั้งนี้หลังจากรีโนเวทคาดว่าจะทำให้มีทราฟฟิกเพิ่มขึ้นประมาณ 15-20% และคาดว่าจะมียอดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 20-30%
"การที่ CPN ให้ความสำคัญกับภาคเหนือ เนื่องจากกำลังซื้อของคนในพื้นที่เติบโตดีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งรายได้ของคนเติบโตอย่างมาก มี GDP สูงเกือบ 2.5 แสนล้าน รวมทั้งภาครัฐให้ความสำคัญด้านการสนับสนุนอย่างเต็มที่ มีสนามบินเปิด 24 ชั่วโมง จึงทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาไม่ต่ำกว่า 12 ล้านคน และคาดว่าในปี 2566 ภาคเหนือจะนักท่องเที่ยวสูงถึง 10 ล้านคน รวมทั้งยังรายล้อมไปด้วยที่อยู่อาศัย ห้างสรรพสินค้า สถาบันการศึกษาจึงสามารถดึงทราฟฟิกได้ นั่นจึงทำให้เชียงใหม่กลายเป็นทำเลทองที่เหมาะแก่การลงทุนเป็นอย่างมาก"
ปัจจุบันเซ็นทรัลพัฒนา มีศูนย์การค้าเปิดให้บริการในภาคเหนือทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล เชียงใหม่, เชียงใหม่ แอร์พอร์ต, เชียงราย, ลำปาง, พิษณุโลก โดยในปี 2567 จะเปิดให้บริการเซ็นทรัล นครสวรรค์ รวมแล้วเป็น 6 ศูนย์การค้า ใน 5 จังหวัดของภาคเหนือ