นาทีนี้หากพูดถึง “เต่าบิน” ตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติ ที่ขายเครื่องดื่มแบบ “ปรุงสด” กว่า 200 ชนิด ภายในตู้เพียงแค่ 1x1 ตารางเมตร คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเคยเกิดปรากฏการณ์ “เต่าบิน” ฟีเวอร์ที่เป็นกระแสไวรัลมาแรงอยู่บนโลกออนไลน์ช่วงหนึ่งกันไปแล้ว นั่นก็เพราะว่าผู้คนต่างหลั่งไหลกันไปต่อคิวซื้อจนแถวหน้าตู้ยาวเหยียด เนื่องจากสงสัยว่า “ใครกันที่นั่งชงอยู่ในตู้”
โดย “ตู้เต่าบิน” เริ่มลงพื้นที่ติดตั้งจริงไปเมื่อต้นปี 2564 และจากนั้นก็มีการขยับขยายกระจายการติดตั้งตู้เป็นจำนวนมาก จนทำให้ปัจจุบันเต่าบินมีมากกว่า 6,567 ตู้ (ข้อมูล ณ วันที่ 24 พ.ย. 66) ที่กระจายเกือบทุกจังหวัดครอบคลุมทั่วประเทศ ในราคาที่เอื้อมถึงได้ ทำให้การเข้าถึงและรับรู้ของผู้บริโภคง่ายขึ้น จึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง
ทั้งนี้ความสำเร็จของตู้เต่าบินไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ เพียงชั่วข้ามคืน แต่มาจากการคิด ออกแบบปรับปรุง พัฒนานวัตกรรม “เต่าบิน” อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี จนกลายมาเป็นคาเฟ่อัตโนมัติที่มี AI เป็น Robotic Barista หรือ “บาริสต้าบอต” คอยชงเครื่องดื่มร้อน-เย็นและปั่นให้เราได้ลิ้มรส แถมยังเลือกหวานน้อย หวานมาก ได้อีกด้วย
และจากความสำเร็จดังกล่าว ก็ทำให้ผลการดำเนินงานของตู้เต่าบินล่าสุด ของปี 2566 ทำยอดขายได้มากกว่า 20 ล้านแก้ว
มาคราวนี้ก็ถือได้ว่า “เต่าบิน” กำลังจะก้าวไปอีกขั้น เพราะ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศเดินหน้าเต็มกำลังผลักดันธุรกิจ New S-Curve ส่งเสริมรายได้ระยะยาว ด้วยการงัดส่งท้ายปี “เต่าบินคาเฟ่” ต้นแบบคาเฟ่อัตโนมัติแบบบริการตัวเอง หรือ “ป๊อปอัพสโตร์” เอาใจเหล่าสาวกน้ำชง ที่ FSMART รับดูแล ประเดิมเสิร์ฟแห่งแรก เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้
โดย “เต่าบินคาเฟ่” (TAO BIN CAFE) คาเฟ่อัตโนมัติบริการด้วยตนเอง จะยังคงวัตถุดิบที่มีคุณภาพในทุกแก้ว ในราคาที่จับต้องได้ โดยจะมีเมนูเครื่องดื่มมากกว่า 300 เมนู พร้อมเพิ่มเมนูไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟที่สามารถเพิ่มท็อปปิ้งได้ตามที่ชอบอีกด้วย รวมทั้งความแตกต่างของตู้เต่าบินแบบเดิม กับคาเฟ่เต่าบิน จะอยู่ที่ การทำเครื่องดื่มที่ไม่ใช่แค่ 1-2 แก้วอีกต่อไป แต่จะเป็นการรองรับคิวได้ 3-6 คน หรือ 3-6 แก้วต่อครั้ง โดยที่บาริสต้าโรบอตจะชงได้เยอะกว่าเดิม พร้อมทั้งมีคิว พื้นที่นั่งรอ ซึ่งจะรองรับคนได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ในส่วนของ “คาเฟ่เต่าบิน” ทาง FSMART จะเป็นผู้บริหารจัดการ โดยประเดิมสาขาต้นแบบสาขาแรก ที่วางระยะเวลาไว้ประมาณ 3-6 เดือน
ก่อนขยายสาขา “เต่าบินคาเฟ่” ให้มากขึ้นในปีต่อๆ ไป ซึ่งในอนาคตมีแผนที่จะเปิด “เต่าบินคาเฟ่” แบบ Stand Alone ที่มีการบริการทั้งอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงพื้นที่บริการลูกค้า โดยมีสถานีบริการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV Station) GINKA อยู่ด้านนอก เพื่อตอบโจทย์การบริการ 24 ชั่วโมง รวมทั้งคาดว่าจำนวนตู้เต่าบินในปีนี้จะมีครบ 10,000 ตู้ และในปี 2567 มีแผนจะเพิ่มอีก 10,000 ตู้
ทั้งหมดนี้ถือเป็นการบริหารจัดการร้านคาเฟ่ที่แก้ไขปัญหาคาเฟ่ปัจจุบัน (pain point) ทั้งเรื่องเมนูที่หลากหลาย แต่สามารถควบคุมรสชาติได้ทุกแก้ว ตลอดจนการบริหารจัดการบุคคล ค่าใช้จ่าย และจัดการทางการเงินได้อย่างเป็นระบบ ช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จได้มากขึ้น สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัท และนำไปสู่การเติบโตแบบยั่งยืนในระยะยาวได้นั่นเอง