รู้จัก “MeSpace” ที่เก็บของส่วนตัว เจาะลูกค้าคอนโดฯ พื้นที่น้อย เร่งขยายครบ 10 สาขาในปีหน้า

บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จํากัด (มหาชน) หรือหุ้น SJWD ประกาศรีแบรนด์ “JWD Store It” ใหม่ในชื่อ “MeSpace” ธุรกิจบริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่านอกบ้าน ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท มีสเปซ เซลฟ์ สโตเรจ จำกัด ปรับแบรนด์ให้ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น รับเทรนด์การเติบโตของธุรกิจพื้นที่เก็บของส่วนตัวให้เช่า พร้อมจับมือ “เซ็นทรัลพัฒนา” หรือ CPN ปูพรมขยายพื้นที่ให้บริการทั่วไทย

ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จํากัด (มหาชน) หรือหุ้น SJWD กล่าวว่า ภาพรวมตลาดธุรกิจพื้นที่เก็บของส่วนตัวให้เช่า เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ส่วนในประเทศไทยนั้น มีการเปิดสาขาของผู้ให้บริการอย่างต่อเนื่อง จากขนาดที่อยู่อาศัยคับแคบลงกว่าอดีต ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความต้องการพื้นที่เก็บของนอกบ้านมากขึ้น

ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบรับเทรนด์การเติบโตของธุรกิจในอนาคต และเพื่อทำให้แบรนด์ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น จึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “MeSpace” โดยต้องการทำให้แบรนด์มีความโดดเด่น เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมาย และเข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ซึ่งปัจจุบันเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม B2C ได้แก่ เจ้าของบ้านและผู้อาศัยในคอนโดที่ต้องการพื้นที่เก็บของมากขึ้น และกลุ่ม B2B ได้แก่ นักธุรกิจ แม่ค้าออนไลน์ หรือเจ้าของบริษัทที่ต้องการเก็บสต๊อกสินค้า ตลอดจนเอกสารสำนักงานต่างๆ

สำหรับเป้าหมายในปี 2567 บริษัทวางแผนเปิดให้บริการ “MeSpace” ได้ครบ 10 สาขา โดยจะเปิดเพิ่มที่โซนรัชดา-พระราม 9 จากปัจจุบันมีทั้งหมด 9 สาขา ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่ให้บริการรวม 2.8 หมื่นตารางเมตร ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานคร พัทยา ภูเก็ต พร้อมปรับปรุงระบบและขยายการให้บริการ เพื่อประสบการณ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาชีวิตคนเมือง เพื่อให้สามารถสร้างยอดขายและทำกำไรให้ได้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจในศักยภาพของ “MeSpace” สู่การเป็นผู้นำตลาดห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่าอันดับหนึ่งในไทย ด้วยส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 12% และเชื่อว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีโอกาสโตได้อีกมาก ทั้งจากกลุ่มลูกค้า B2B และ B2B จากปัจจุบันสามารถทำรายได้ราว 100 ล้านบาทต่อปี 

ส่วนภาพรวมแนวโน้มผลประกอบการของ SJWD คาดว่าในไตรมาส 4/66 จะสามารถทำได้ดีกว่า 3 ไตรมาสแรกที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนธุรกิจคลังสินค้า จากการเติบโตของกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และการเติบโตของคลังสินค้าห้องเย็น และคลังสินค้าอันตราย ประกอบกับการฟื้นตัวของธุรกิจในตลาดต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลประกอบการปี 2567 คาดว่าจะมีแนวโน้มดีกว่าปีนี้เช่นเดียวกัน โดยบริษัทมุ่งเน้นในการบริหารต้นทุนและจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าไฟฟ้า ที่ปัจจุบันอยู่ในระดับสูง

ด้าน ดร.เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีสเปซ เซลฟ์ สโตเรจ จำกัด กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนบุคลิกของแบรนด์ โดยเน้นไลฟ์สไตล์ ให้สามารถเข้ากับบุคลิกรุ่นใหม่มากขึ้น จะสอดรับกับ 5 ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เกิดความต้องการพื้นที่เก็บของนอกบ้านมากขึ้น ได้แก่ การเติบโตของเมือง การทำงานที่บ้าน การสะสมสิ่งของ การย้ายบ้านหรือปรับปรุงบ้าน และการเติบโตของธุรกิจขายของออนไลน์

ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนเปิดสาขารัชดา-พระราม 9 ซึ่งจะเป็นสาขาที่ 10 ภายในต้นปี 2567 จะทำให้บริษัทเป็นผู้ให้บริการที่มีพื้นที่ให้บริการมากที่สุดในประเทศไทย คิดเป็นพื้นที่ให้บริการ 28,000 ตารางเมตร คิดเป็นการเติบโตของพื้นที่ประมาณ 78% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยคาดการณ์ว่ารายได้ปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 70 ล้านบาท และรายได้ปี 2567 จะอยู่ที่ประมาณ 108 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตของรายได้ 53%

ปัจจุบันพื้นที่ให้บริการของ MeSpace คิดเป็นประมาณ 25-30% ของพื้นที่ให้บริการทั้งหมดภายในประเทศ และมีแผนการขยายพื้นที่ให้บริการอย่างต่อเนื่อง ผ่านความร่วมมือกับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และห้างสรรพสินค้าด้วย

ด้าน วุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ Head of Community Mall and International Business Development บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN กล่าวเสริมว่า บริษัทในฐานะผู้ถือหุ้นให้การสนับสนุนด้านการจัดหาพื้นที่ให้บริการใหม่ ผ่าน Mixed Used Property ของ CPN รวมถึงการขยายฐานลูกค้าของ MeSpace ไปยังลูกค้ากลุ่มที่พักอาศัย โดยเชื่อว่าจะช่วยเติมเต็มความต้องการให้กับลูกค้าบ้านและคอนโดในเครือ CPN ที่ต้องการพื้นที่เก็บของ หรือหาพื้นที่ระหว่างการเตรียมย้ายที่อยู่อาศัยใหม่ด้วย

ขณะเดียวกัน บริษัทเล็งเห็นโอกาสจากแนวโน้มความต้องการพื้นที่เก็บของมากขึ้น โดยเชื่อว่าในระยะกลาง-ยาว ธุรกิจพื้นที่เก็บของส่วนตัวให้เช่า จะสามารถเติบโตไปพร้อมกับการขยายศูนย์การค้าด้วย