“ดอง ดอง ดองกิ” บุกแฟชั่นไอส์แลนด์ ชู “ยะไตมุระ” แผงลอยต้นตำหรับญี่ปุ่น หาลูกค้าใหม่ย่านรามอินทรา

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

“ดอง ดอง ดองกิ” บุกแฟชั่นไอส์แลนด์ ชู “ยะไตมุระ” แผงลอยต้นตำหรับญี่ปุ่น หาลูกค้าใหม่ย่านรามอินทรา

Date Time: 7 พ.ย. 2566 11:41 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • ดองกิ ร้านค้าอันดับหนึ่งด้านสินค้าประเภทของใช้ และอาหารคุณภาพดี นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวสาขาที่ 8 “ดอง ดอง ดองกิ สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์” บนพื้นที่กว่า 1,350 ตารางเมตร ชูไฮไลต์ หมู่บ้านแผงลอย “ยะไตมุระ” เป็นครั้งแรก ตอกย้ำการเป็น Japan Brand Specialty Store รองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคในย่านรามอินทรา ที่มีประชากรอาศัยอยู่กว่า 1.3 ล้านคน

Latest


บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด ร้านค้าอันดับหนึ่งด้านสินค้าประเภทของใช้ และอาหารคุณภาพดี นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ในเครือบริษัท แพน แปซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิงส์ จำกัด (PPIH) จับมือพันธมิตรรายใหม่ บริษัท สยาม รีเทล ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด เปิดตัว ดอง ดอง ดองกิ สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์

โคตะ ทามากิ ประธานกรรมการ บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ดอง ดอง ดองกิ สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ นับเป็นการเปิดตัวสาขาใหม่ล่าสุดของดองกิ ซึ่งเป็นสาขาที่ 8 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เนื่องจากมองเห็นว่าแฟชั่นไอส์แลนด์เป็นศูนย์การค้าที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกเป็นอย่างมาก 

เนื่องด้วยเดินทางสะดวกด้วยรถยนต์และรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทรา จึงทำให้มีปริมาณผู้ใช้บริการในพื้นที่ศูนย์การค้าเป็นจำนวนมาก และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างหลากหลาย 

ผนวกกับทางดองกิเองมีจุดขายสำคัญ นับตั้งแต่วันที่เปิดสาขาแรกในประเทศไทย ซึ่งดำเนินมาโดยตลอด คือ สินค้าประเภทอาหารพร้อมทาน ซึ่งลูกค้าให้การยอมรับในเรื่องรสชาติที่ถูกปากและมีคุณภาพตามมาตรฐานญี่ปุ่น ดังนั้นในครั้งนี้จึงขยายความเป็นไปได้ และเพิ่มความหลากหลายของสินค้ากลุ่มนี้ให้มากขึ้นในสาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ ด้วยการต่อยอดพื้นที่ส่วนร้านแผงลอยสไตล์ญี่ปุ่น หรือ ‘ยะไตมุระ (หมู่บ้านแผงลอย)’ ขนาด 40 ที่นั่งไว้คอยให้บริการ ตลอดจนช่วยนำเสนอวัฒนธรรมญี่ปุ่นในคอนเซปต์ Japan Specialty Store ผ่านอาหารในสไตล์ญี่ปุ่นต้นตำรับ และสินค้าคุณภาพหลายพันรายการให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการได้อย่างเต็มที่

ด้าน ประเสริฐ ศรีอุฬารพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม รีเทล ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ กล่าวว่า จากศักยภาพของลูกค้าในย่านรามอินทราที่มีจำนวนมาก บวกกับขนาดของพื้นที่ภายในศูนย์การค้าที่มีความกว้างขวาง ตลอดจนเชื่อมต่อกับอีกหนึ่งศูนย์การค้าที่สำคัญอย่างเดอะพรอมานาด ทำให้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญอีกแห่งของย่านรามอินทราที่มีความคึกคัก 

สามารถรองรับความสะดวกสบายและความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกช่วงวัย ดังนั้นการเข้ามาเปิดสาขาของ ดอง ดอง ดองกิ สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ ในครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยสร้างสีสันและดึงดูดลูกค้าให้เข้าใช้บริการภายในศูนย์การค้าได้เพิ่มขึ้น ตลอดจนช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงการจับจ่ายสินค้าญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์และมีคุณภาพ ได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

สำหรับ ดอง ดอง ดองกิ สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ อยู่บริเวณชั้น 3 โซนฝั่ง ISLAND HALL ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ มีพื้นที่ขายประมาณ 1,350 ตารางเมตร ภายในร้านมีการจัดวางสินค้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นที่มีคุณภาพ และสินค้าหลากหลายประเภทที่มีจำหน่ายเฉพาะดองกิเท่านั้น โดยแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ในแนวคิด Japan Brand Specialty Store ที่ส่งต่อความอร่อย ความสบายใจ และดีต่อสุขภาพให้กับผู้บริโภค ซึ่งสาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ ใช้คอนเซปต์ว่า “รสชาติสไตล์ญี่ปุ่นต้นตำรับที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะซื้อรับประทานทันทีหรือซื้อกลับไปทานที่บ้าน” 

ชูไฮไลต์ หมู่บ้านแผงลอยสไตล์ญี่ปุ่นยะไตมุระ

โดดเด่นด้วยโซนใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวที่สาขานี้เป็นที่แรก อย่างหมู่บ้านแผงลอยสไตล์ญี่ปุ่น หรือ “ยะไตมุระ” ขนาด 40 ที่นั่ง เพื่อส่งต่อรสชาติในสไตล์ญี่ปุ่นต้นตำรับสู่ผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด มีสินค้าประเภทอาหารพร้อมทานมากมาย อาทิ “เนื้อวากิวเสียบไม้”, “ราเมนโก” และ “ดองดองสติ๊ก” ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงจากลูกค้าของ ดอง ดอง ดองกิ ในหลายสาขา 

รวมถึงทำการเปิดไลน์อัพเมนูพร้อมทานเป็นครั้งแรก เช่น “สเต๊กแฮมเบิร์กดื่มได้” ที่ใช้เนื้อวากิว 100% นำมาย่างกันสดๆ บนกระทะเหล็กตามออเดอร์ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ และเพลิดเพลินไปกับความชุ่มฉ่ำถึงขีดสุดของเนื้อวากิวที่ละลายในปาก, “เทปันเกี๊ยวซ่า” ทอดพร้อมเสิร์ฟร้อนๆ ตามออเดอร์ ทำให้ได้ทั้งความกรอบนอกฉ่ำใน, “ซอฟต์ครีม” ที่ใช้นมฮอกไกโดเป็นส่วนผสมหลัก ทำให้ได้รสชาติสดชื่น หอมมัน โดยมี 3 รสชาติให้เลือก ได้แก่ นม ชาเขียว และมิกซ์นมกับชาเขียว

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก The 1 พบว่า ในพื้นที่ย่านรามอินทราปัจจุบันมีประชากรที่อาศัยในย่านนี้ประมาณ 1.3 ล้านคน โดยมีความหนาแน่นของประชากรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.5% ต่อปี

รวมทั้งในพื้นที่นี้มีการขยายตัวของโครงการหมู่บ้านจัดสรร คอนโดฯ และอพาร์ตเมนต์จำนวนมาก ส่งผลให้ย่านรามอินทรามีผู้บริโภคกลุ่มมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น และนั่นเองอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ “ดองกิ” เห็นโอกาสที่จะช่วงชิงกำลังซื้อของผู้บริโภคในทำเลนี้ก็เป็นได้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์