อนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด (ซิซซ์เล่อร์) ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ล่าสุดซิซซ์เล่อร์มีโปรเจกต์ใหม่ นั่นคือการเปิดสาขาที่สมุย ที่มีแผนจะเปิดในวันที่ 16 เดือนธันวาคมปีนี้ โดยจะเป็นสาขารูปแบบใหม่ สเต๊กแล็บ (STEAK LAB) โดยจะเป็นครัวเปิดที่เห็นเชฟปรุงสเต๊กที่ชัดเจน และเสิร์ฟอาหารพร้อมค็อกเทล หรือเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ 15 รายการ มีพื้นที่ประมาณ 100 ที่นั่ง ภายใต้ 300 ตารางเมตร เพื่อจับกลุ่มนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ปัจจุบันภาพรวมตลาดร้านอาหารประเภทสเต๊กมีมูลค่า 9,000 ล้านบาท ซึ่งในกลุ่มพรีเมียมเติบโต 4.5% และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยซิซซ์เล่อร์มีส่วนแบ่งตลาด 30% และคาดทั้งปีนี้ยอดขายเติบโต 7-8% จากปีที่ผ่านมา รวมทั้งในปี 2565 มีจำนวนลูกค้าเข้าร้านเติบโตขึ้น 20% โดยเฉพาะฐานลูกค้าช่วงอายุระหว่าง 16-30 ปี
จากการดำเนินงานภายใต้แนวคิด “OVER 30 YEARS OF SIZZLING EXPERIENCES” ซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การส่งมอบความสดใหม่ ความพรีเมียม และคุณภาพเหนือระดับ ผ่านการนำเสนอเมนูอาหารใหม่ๆ และกิจกรรมสุดพิเศษสำหรับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจมีการเติบโตเป็นไปในทิศทางบวกนั่นเอง
ขณะเดียวกัน ซิซซ์เล่อร์ยังรักษาฐานลูกค้าได้อย่างเหนียวแน่นด้วยการมอบสิทธิพิเศษผ่าน Loyalty Program E-Member ที่มีฐานสมาชิกปัจจุบันมากกว่า 5 แสนคน และปี 2567 อาจจะถึง 1 ล้านคน โดยลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 90% เข้ามาใช้บริการในรูปแบบไดน์อิน (Dine-in) รวมทั้งซิซซ์เล่อร์ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบและตกแต่งบรรยากาศร้านให้สอดรับกับช่วงเวลาพิเศษในเทศกาลต่างๆ ตลอดปี เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ใหม่
ซึ่งนอกจากจะเพิ่มการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์และลูกค้าให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยกระตุ้นยอดขายไดน์อินให้เพิ่มขึ้น โดยจากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ซิซซ์เล่อร์มีแผนเตรียมต่อยอดกิจกรรมทางการตลาดเข้ามาเพิ่มสีสัน และเติมเต็มความสุขให้ผู้บริโภคอีกแน่นอน
สำหรับการขยายสาขาปี 2566 ได้มีการเปิดสาขาไปแล้ว 1 สาขาที่รามอินทรา ในเดือน พ.ย.นี้ เปิด 2 สาขา เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ และสมุย เป็น 63 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ ส่วนแผนขยายสาขาปีหน้าเปิดเพิ่ม 3 สาขา และมีแผนจะปรับปรุงร้านอีก 5 สาขา นอกจากนี้ในปี 2567 ขณะที่ประเภทลูกค้า 80% เป็นลูกค้าทั่วไป ส่วน 20% เป็นนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ในปีหน้ายังคงเน้นกลยุทธ์เดิม รวมทั้งตัวชูโรงยังคงเป็น “สลัดบาร์” ที่ถือเป็นพระเอก แต่เพิ่มเติมด้วยการเป็นผู้นำอาหารตะวันตกระดับพรีเมียม ที่ให้ประสบการณ์ที่ดีในการรับประทานในร้าน ผ่านเมนูอาหารใหม่ๆ และเพิ่มสิทธิประโยชน์ของเมมเบอร์และลูกค้าทั่วไป ในขณะที่ภาพรวมต้นทุนที่เพิ่มขึ้น บริษัทไม่ได้ปรับราคาขึ้นตั้งแต่ปีนี้ และจะตรึงราคาเดิมไปถึงปี 67