เพาเวอร์มอลล์ปลุกกำลังซื้อไตรมาส 4

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เพาเวอร์มอลล์ปลุกกำลังซื้อไตรมาส 4

Date Time: 30 ก.ย. 2566 05:10 น.

Summary

  • ในช่วงที่ผ่านมาตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าก้าวสู่ “ดิจิทัล ทรานสฟอร์ม” ธุรกิจร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีหน้าร้านหรือออฟไลน์ต่างได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงนิยมช็อปปิ้งทางช่องทางออนไลน์มากขึ้น มีความสะดวกสบายไม่ต้องเดินทาง สินค้าส่งตรงถึงบ้านและยังสามารถเทียบแหล่งซื้อในราคาถูกกว่าได้

Latest

รอบรั้วการตลาด : Mega Clinic ทำ all-time high เปิดกลยุทธ์ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย

ในช่วงที่ผ่านมาตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าก้าวสู่ “ดิจิทัล ทรานสฟอร์ม” ธุรกิจร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีหน้าร้านหรือออฟไลน์ต่างได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงนิยมช็อปปิ้งทางช่องทางออนไลน์มากขึ้น มีความสะดวกสบายไม่ต้องเดินทาง สินค้าส่งตรงถึงบ้านและยังสามารถเทียบแหล่งซื้อในราคาถูกกว่าได้

ทำให้โมเดลธุรกิจการตลาดแบบออฟไลน์ของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต้องดิ้นรนปรับตัวกันสักพักใหญ่ๆ ซึ่งมีกรณีศึกษาจากเพาเวอร์ มอลล์ (Power Mall) เครือข่ายค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายใต้เดอะมอลล์กรุ๊ปที่กำลังจัดงานใหญ่ Power Mall Electronica Showcase ที่ผนึกกำลังกับเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำระดับโลกมากกว่า 200 แบรนด์ จัดมหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าไอทีครั้งยิ่งใหญ่ ระหว่างวันนี้ถึง 31 ต.ค.66 Power Mall ทุกสาขา

นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานห้างสรรพสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า Power Mall ยอดขายกลับมามีอัตราเติบโตในระดับกว่า 10% สูงกว่าตลาดทั่วไปที่อยู่ที่ประมาณ 4-5% และยอดขายกลับมาสูงกว่าในช่วงได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แล้ว

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในช่วง 4 ปีก่อนหน้าได้รับผลกระทบจากธุรกิจออนไลน์ จนทางเดอะมอลล์ กรุ๊ปต้องเร่งพัฒนาโมเดลธุรกิจในรูปแบบ Online to Offline (O2O) เป็นการผสมผสานระหว่างจุดเด่นของออนไลน์ และจุดแข็งของออฟไลน์เอาเข้ามาช่วยยกระดับการบริการบนโลกออนไลน์เพื่อเพิ่มยอดขายให้มากยิ่งขึ้น

จุดเด่นของโมเดลดังกล่าวก็คือมีสโตร์ที่ผู้บริโภคสามารถไปเลือกชมสินค้าหรือบริการได้ จะตัดสินใจซื้อที่นั่นก็ได้หากถูกใจ หรือกลับไปนั่งตัดสินใจที่บ้านแล้วค่อยเข้าไปสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา นับว่าสะดวกที่สุดอีกทั้งผู้บริโภคยังคงไว้วางใจกับแบรนด์ของ Power Mall ทั้งความน่าเชื่อถือ การบริการพร้อมโปรโมชันต่างๆ ที่น่าสนใจ

นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า สิ่งที่พิสูจน์ได้ว่ากลยุทธ์ของ Power Mall เดินมาถูกทางและสามารถปรับตัวในยุค “ดิจิทัล ทรานสฟอร์ม” ได้แล้วก็คือผลประกอบการที่มีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ จำนวนทราฟฟิกของผู้บริโภคที่เข้ามาอยู่ในระดับสูง ที่สำคัญบรรดาแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าได้มีการร่วมมือทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง และยังทำราคาในระดับเดียวกับช่องทางออนไลน์แต่มีบริการให้มากกว่า

ขณะเดียวกันทาง Power mall ได้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยการปรับปรุงและขยายพื้นที่ยกระดับเป็น Power Mall Mega Store ที่เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ สาขาบางกะปิ ซึ่งจะเปิดให้บริการได้เดือน ต.ค.ที่จะถึงนี้ และเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ สาขาบางแค จะเปิดให้บริการเดือน ธ.ค.นี้ รวมพื้นที่เป็น 11,000 ตารางเมตร ลงทุนสาขาละ 700 ล้านบาท โดยสินค้าจะเพิ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าไซส์ใหญ่ให้มากขึ้น สินค้านวัตกรรม และแบรนด์ดังๆที่เคยมีจำหน่ายแต่สาขาใจกลางกรุงจะมีให้เลือกหลากหลาย

ด้านนายรัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส กลุ่มบริหารสินค้า Specialty บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ไอทีและสมาร์ทโฟน มูลค่า 2.3 แสนล้านบาทในปีนี้คาดจะเติบโต 4-5% และปีหน้าคาดว่าจะมีอนาคตสดใสจากการคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศจะเดินทางเข้ามามากขึ้น

รวมทั้งนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะเห็นผลได้ชัดเจนช่วยให้เพิ่มกำลังซื้อให้คนไทยเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้ประกอบการเจ้าของแบรนด์เองก็ได้นำนวัตกรรมล่าสุดและไลน์อัปสินค้าครบครันตอบรับกระแสการใช้ชีวิตในยุคนี้ ผู้บริโภคเองก็มีความเข้าใจในเทคโนโลยีมากขึ้นและต้องการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามาช่วยอำนวยความสะดวกสบายและตอบสนองไลฟ์สไตล์ ส่งผลให้ตลาดมีความคึกคักอย่างชัดเจน

สำหรับงาน Power Mall Electronica Showcase ที่กำลังจัดขึ้นบรรดาแบรนด์ชั้นนำระดับโลกได้ขนทัพจัดเต็มนวัตกรรมสินค้าใหม่มาเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้คอนเซปต์ “Power Mall First” ชูนวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ ทั้งฟังก์ชันปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI, สินค้าที่ช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันมีสุขภาพที่ดีและมีความสุขอย่างยั่งยืนรับเทรนด์มาแรง

ผู้ประกอบการแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ามากกว่า 200 แบรนด์ ทั้งกลุ่มสินค้าโมบาย ไอที & เกม, แก็ดเจ็ต, ทีวี และออดิโอ, เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และสินค้าสุขภาพและไลฟ์สไตล์ อีกทั้งยังพบกับไฮไลต์ความล้ำสมัยของนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าไอที ที่มาร่วมสร้างประสบการณ์เหนือระดับของการช็อปปิ้ง ผ่านรูปแบบ 5 ประสาทสัมผัส ทั้งการมองเห็น, การสัมผัส, การฟัง, การลิ้มรส และการรับกลิ่น

นอกจากนี้ยังมอบความคุ้มค่าสินค้าลดสูงสุด 60%, รับฟรีคูปองส่วนลดเงินสดสูงสุด 15,000 บาท, ผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน, สมาชิก M Card ลดเพิ่มสูงสุด 15%, สมาชิกบัตรเครดิตที่ร่วมรายการรับคะแนนสะสมรวมสูงสุด 20,000 คะแนน หรือบัตรกำนัลห้างสูงสุด 20,000 บาท ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ครบทุกมิติคาดว่าจะช่วยให้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 15%

สำหรับสินค้าสุดฮิตในกลุ่มโมบายไอทีและแก็ดเจ็ต ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมก็คือ iPhone 15 ซีรีส์ ที่มีครบ ครอบคลุมทุกรุ่น ทุกสี ทุกความจุ สมาร์ทโฟน SAMSUNG GALAXY Z FLIP 5/Z FOLD 5 มาพร้อมกับการพับแบบใหม่, OPPO Find N2 Flip กับหน้าจอด้านนอกขนาดใหญ่ถึง 3.26 นิ้ว ใช้งานได้หลากหลาย

มาครบครันกับเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตให้สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพสูงสุด.

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “ตลาดนัดหัวเขียว” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ