นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัท ในไตรมาส 2/2566 มีรายได้รวม 5,508 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้นจากช่วงเดียวกัน ของปีก่อน 5% โดยได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในประเทศ ช่วยหนุนให้ยอดขายในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมทั้งเมืองท่องเที่ยวหัวเมืองใหญ่ สามารถเติบโตได้อย่างน่าพอใจ ทำให้รายได้ รวมในงวด 6 เดือนแรก เพิ่มขึ้นเป็น 11,212 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% ส่งผลให้บริษัท มีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/66 รวมกว่า 741 ล้านบาท เติบโต 103% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทำสถิติกำไรสุทธิรายไตรมาสที่สูงสุด ของบริษัท ตั้งแต่ก่อตั้ง ทั้งยังหนุนให้กำไรสุทธิสำหรับ 6 เดือนแรกสูงถึง 1,373 ล้านบาท เติบโตกว่า 77% จากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง รวมถึงความสามารถในการบริหารจัดการด้านต้นทุนและค่าใช้จ่าย และที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.33 บาท
ในขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานในต่างประเทศชะลอตัวลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน อันเป็นผลพวงจากภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและเศรษฐกิจโดยรวม รวมทั้ง การเกิดวิกฤติหนี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศเวียดนาม อย่างไรก็ตาม คาดว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนามจะเริ่มฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังการดำเนินธุรกิจในประเทศ ยังมีความท้าทายจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและการชะลอตัวลงของการเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีมุมมองเชิงบวก ต่อโอกาสการเติบโตของยอดขายของบริษัทจากความต้องการใช้สีและเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง เพื่อรีโนเวท ตลอดจนยอดขาย “ทีโอเอ แผ่นยิปซัมบอร์ด” ที่ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ในลำดับต้นของประเทศ.