จากเดนิม สู่ไลฟ์สไตล์แบรนด์ “แม็คยีนส์” ปลุกตำนาน Mc3109 ดึงยีนส์รุ่นฮิตกลับมาเล่าใหม่บนไม้แขวน

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

จากเดนิม สู่ไลฟ์สไตล์แบรนด์ “แม็คยีนส์” ปลุกตำนาน Mc3109 ดึงยีนส์รุ่นฮิตกลับมาเล่าใหม่บนไม้แขวน

Date Time: 23 มิ.ย. 2566 18:52 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • แม็คยีนส์ แบรนด์กางเกงยีนส์ระดับตำนานสัญชาติไทย ที่ครองใจผู้ซื้อมากว่า 48 ปี ปลุกกระแส Mc3109 รุ่นฮิตตลอดกาล สู่ 5 เฉดสีบนไม้แขวน พร้อมประกาศแผนขยับขยายแบรนด์รุกปั้นสาขาใหม่ ส่ง Mobile Shop ลงสู่สนาม สร้าง Traffic ต่อผู้ซื้อ หลังผลประกอบการโต!

Latest


หนึ่งไอเท็มที่คนรักการแต่งตัวจะต้องมีติดตู้อย่างแน่นอนก็คือ กางเกงยีนส์ เนื่องจากแมตช์ง่าย ใส่ได้ทุกลุค แล้วตู้เสื้อผ้าบ้านคุณ มีกางเกงยีนส์กี่ตัวกันล่ะ? แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคงจะมีแบรนด์ที่เรากำลังจะเอ่ยชื่อปะปนอยู่เป็นแน่ เพราะ “แม็คยีนส์” ถือได้ว่าเป็นกางเกงยีนส์สัญชาติไทย ที่อยู่คู่กับแฟชั่นคนไทยมาหลายยุคสมัย หากนับก็คงจะราวๆ 48 ปีเห็นจะได้ 

ด้วยความที่ แม็คยีนส์ มี DNA ของแบรนด์คือ เดนิม ซึ่งเป็นตัวแทนความคลาสสิก ที่มากกว่าคำว่าแฟชั่น (Beyond Fashion) ในทุกๆเจเนอเรชันของแฟชั่น เดนิมก็มักจะเป็นส่วนหนึ่งเสมอ และถือเป็นตัวแทนของยุคสมัยที่ไม่เคยตกยุค ซึ่งสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้ที่สวมใส่ได้เป็นอย่างดี และนั่นเองทำให้ แม็คยีนส์ ยังคงติดเทรนด์และครองใจคนไทยมาโดยตลอด แม้ว่าในปัจจุบันจะปรับโฉมใหม่ สู่การเป็น ไลฟ์สไตล์แบรนด์ แล้วก็ตาม

ปลุกตำนาน Mc3109 สู่ 5 เฉดสีบนไม้แขวน

มาครั้งนี้ แม็คยีนส์ ผู้ที่มีกางเกงยีนส์กว่า 58 รุ่น 260 สี ก็ได้เปิดตัว Mc3109 (แม็ค3109) The Original Straight กางเกงยีนส์ทรงขากระบอกเล็ก ในตำนานที่ได้รับกระแสความนิยมชมชอบมาโดยตลอด สู่การหยิบยก ขึ้นมาเล่าใหม่ผ่าน 5 เฉดสี โดยถือเป็นคอลเลกชันเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ยังคงความคลาสสิกของยีนส์ รุ่นยอดนิยม ขายดีที่สุด ซึ่ง 70-80% มาจาก Gen Z และ Y จึงว่าสินค้ายังตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยที่ราคาเท่าเดิม! 

ผ่านกรรมวิธีการออกแบบและการผลิตให้ได้ยีนส์ที่มีคุณภาพดีเยี่ยม และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยแม็ค3109 เป็นยีนส์รุ่นแรกที่นำวัสดุที่ยั่งยืน (Sustainable Material) มาใช้ในการผลิตกระดุมและรีเวท ผ่านเทคโนโลยีและกระบวนการทำสีโลหะด้วยเทคนิคของ YKK แบรนด์ซิปสัญชาติญี่ปุ่น ที่เรียกว่า Acro plating (อะโครเพลทติ้ง) เพื่อกำจัดมลภาวะและสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยของเสียออกสู่ธรรมชาติ ลดการใช้สารเคมี ลดการใช้น้ำ ลดการใช้พลังงานและการใช้ไฟฟ้า 

และเนทูล่อน ซิปเปอร์ (Natulon Zipper) ผ้าเทปซิปที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิล เช่น ขวดพลาสติก หรือเศษผ้าที่ใช้แล้วนำมาบดและทอเป็น ผ้าเทปซิป โดยที่ยังคงรักษาคุณภาพเทียบเท่าคุณภาพเดิม

เพราะไม่ใช่ ฟาสต์แฟชั่น แม็คยีนส์ จึงขายได้มาตลอด

นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC องค์กรธุรกิจค้าปลีก ประเภทสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ “แม็คยีนส์” เปิดเผยว่า ในแต่ละครั้งการพัฒนาสินค้าใหม่จะใช้ระยะเวลาประมาณ 4-6 เดือน ส่วนข้อมูลที่นำมาพัฒนานั้นมาจากฐานลูกค้าที่เป็นสมาชิกที่มีอยู่ประมาณ 1.2 ล้านคน ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่จะมีการซื้อต่อบิลอยู่ที่ 1,600-1,700 บาท/ครั้ง และโดยเฉลี่ย 3-6 ครั้ง/ปี/คน เพื่อสร้างความเข้าใจก่อนจะออกแคมเปญใหม่ๆ โดยในปีนี้มีการตั้งงบการตลาดไว้ที่ 65 ล้านบาท

และอีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความโดดเด่นให้กับแม็คยีนส์นั่นคือ ได้มีการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ อนันดา เอเวอริงแฮม ที่มีไลฟ์สไตล์ตรงกับ DNA ของแบรนด์ มาถ่ายทอดคอนเซปต์ ‘MY MC MY WAY ชีวิต…เต็มแม็ค’ ภายใต้แนวคิด Body Positivity หรือการเข้าใจในความแตกต่างของรูปร่างและพร้อมสร้างสรรค์ลุคที่ดีที่สุดในแบบของตัวเอง

ขณะที่ในส่วนของผลประกอบการ ยังคงเดินหน้าเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นใจว่าปีบัญชี 2566 (สิ้นสุดมิถุนายน) จะมียอดขายกว่า 3,700 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังงวด 9 เดือนรายได้ 2,832 ล้านบาท กำไร 525 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องและทะลุปี 2565 ยอดขายเพิ่มขึ้นทุกช่องทางการจัดจำหน่าย ทั้งช่องทางร้านค้าปลีกของตนเอง (Free-standing Shop) ที่เป็นช่องทางหลัก มีสัดส่วนประมาณ 65% ห้างสรรพสินค้า (Department Store) สัดส่วน 22% ร้านค้าออนไลน์ (E-Commerce) สัดส่วน 9% และช่องทางอื่นๆ คิดเป็นสัดส่วน 3% พร้อมเดินหน้าขยาย Mc Outlet ต่อเนื่องเพื่อรองรับรองรับกำลังซื้อ  

ทั้งนี้ในส่วนของผลประกอบการปี 2567 ตั้งเป้ายอดขายจะเติบโต 10-14% และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 65% ขณะที่ยอดขายจากสาขาเดิมจะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก

ก้าวต่อไปของ แม็คยีนส์ ที่ต่อไปจะไม่ได้อยู่แค่ในร้าน

ด้านนายประพัฒน์ เสียงจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจและการขาย บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม็คกรุ๊ป มีความมั่นใจในจุดแข็งเรื่องสินค้าและบริการ ด้วยช่องทางจำหน่ายรวมกันกว่า 600 จุด โดยเฉพาะการขยายสาขา Mc Outlet ณ วันที่ 31 มี.ค. 2566 ที่เปิดครบ 100 สาขา ทั่วประเทศได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้ และบริษัทฯ ยังมีเป้าหมายการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้แม็คยีนส์ มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย อาทิ ร้านค้า ในห้างสรรพสินค้า, Mc Outlet รวมถึงช่องทางออนไลน์ Mcshop.com เป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญ ของแม็คยีนส์ที่ให้บริการแก่ลูกค้า

ส่วนในปี 2567 บริษัทได้มีการเตรียมงบลงทุนไว้ 100 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการขยายสาขาใหม่ 40 แห่ง ทั้ง Mc Outlet, ร้านในศูนย์การค้าและสถานีบริการน้ำมัน รวมทั้งรีโนเวทสาขาเดิมเพื่อรองรับกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งในด้านไอที ระบบหลังบ้าน และแผนการตลาดที่จะมีการดึง Influencer กว่า 100 คนมาสร้าง Traffic ให้กับคอลเลกชันที่จะมีให้เห็นตลอดทั้งปีนี้

และที่สำคัญแม็คยีนส์กำลังมีโปรเจกต์ที่จะจับมือกับแบรนด์ไทยที่อยู่ในตลาดมากว่า 50 ปี ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจะมีอะไรมาให้เห็นกันบ้าง รวมทั้งการขยับขยายเส้นทางของแม็คสู่รถ Mobile Shop ทั้ง 6 คัน โดยที่จะแล่นไปใน 4 ภูมิภาค โดยในหนึ่งเดือน 10-12 จุด ซึ่งจะมีสินค้าเสมือนในช็อป และเข้าถึงทุกพื้นที่มากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และ Test โลเกชันใหม่ๆ ทั้งหมดนี้นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญของ แม็คยีนส์ ที่เราจะได้เห็นกันอย่างแน่นอนในปีนี้และปีต่อๆ ไป.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์