"ไลน์แมน" ล็อกเป้าเข้าตลาดหุ้น เติบโตสวนตลาดทำเส้นทางชัดเจนขึ้น

ไลน์แมนวงในเผยมูลค่าธุรกิจเติบโต 33% ในช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา สวนทางมูลค่าตลาดรวมปีนี้ที่คาดว่าจะติดลบ 0.8-6.5% ทำให้เชื่อมั่นว่าเส้นทางสู่การกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯเริ่มมั่นคงชัดเจนขึ้น ประเมินการแข่งขันที่รุนแรงก่อนหน้านี้ จะทำให้คู่แข่งทยอยถอดใจและเหลือผู้เล่นหลัก 3 รายจาก 5 รายในปัจจุบัน “ยอด” ส่ายหน้าไม่พูดเรื่องซื้อฟู้ดแพนด้า

นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไลน์แมน วงใน (LINE MAN Wongnai) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจฟู้ดดีลิเวอรีของไลน์แมนระหว่างเดือนม.ค. 2565 จนถึง เม.ย. 2566 หรือ 16 เดือนที่ผ่านมา มีมูลค่าธุรกรรมรวม (GMV) เติบโตขึ้น 33% สวนทางกับตลาดฟู้ดดีลิเวอรีในปีนี้ ที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าประมาณ 81,000-86,000 ล้านบาท ลดลงระหว่าง 0.8 -6.5% โดยการเติบโตที่สวนทางกับตลาดรวมดังกล่าว ทำให้เส้นทางสู่การกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของไลน์แมนวงในมีความมั่นคงชัดเจนขึ้น “การเติบโตสวนตลาด ทำให้มั่นใจว่าเราจะสามารถหยุดตัวเลขขาดทุนและทำกำไรได้ในระยะเวลาอันใกล้ 1-2 ปี จากนั้นแผนเข้าตลาดหุ้นจะมั่นคงและแน่นอนมากขึ้น โดยขณะนี้ธุรกิจของไลน์แมนวงใน เช่น ไลน์แมนแมสเซนเจอร์ ไลน์แมนมาร์ท ไลน์แมนแท็กซี่ ทำกำไรหมดแล้ว ยกเว้นฟู้ดดีลิเวอรี”

นายยอด ยังกล่าวถึงการแข่งขันในตลาดฟู้ดดีลิเวอรีที่แข่งขันกันรุนแรงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดว่า ทำให้มีผู้เล่นเข้ามาแข่งชิงส่วนแบ่งมากขึ้น แต่ในที่สุดก็ต้องทยอยถอยฉากจนปัจจุบันมีจำนวนผู้ประกอบการหลักเหลือ 5 ราย ได้แก่ ไลน์แมนวงใน แกร็บ โรบินฮู้ด ฟู้ดแพนด้าและช็อปปี้ฟู้ด อย่างไร ก็ตามหากจะให้ประเมินคาดว่าในที่สุดแล้วจะเหลือจำนวนผู้เล่นแค่ 3 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่เหมาะสม ส่วนข้อถามถึงข่าวการเข้าซื้อกิจการฟู้ดแพนด้าของไลน์แมนวงในนั้น นายยอดปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ หากพิจารณาตามพื้นที่ ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2565 - เม.ย. 2566 ไลน์แมนวงในมีจำนวนออเดอร์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเติบโต 25% จำนวนผู้ใช้งานเติบโตขึ้น 27% ในขณะที่พื้นที่ต่างจังหวัดมีออเดอร์เติบโต 17% และจำนวนผู้ใช้งานเติบโตขึ้น 10% จึงเตรียมแผนทุ่มงบการตลาดเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานและเพิ่มตัวเลือกร้านอาหารทั่วประเทศให้มากขึ้น จากปัจจุบันมีร้านอาหารอยู่บนแพลตฟอร์มจำนวน 500,000 ร้าน รวมทั้งการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เช่น ฟีเจอร์สั่งอาหารเป็นกลุ่ม เพิ่มความสะดวกแก่ผู้ใช้งานให้สามารถสั่งอาหารพร้อมกันกับเพื่อนหรือครอบครัวได้ในออเดอร์เดียว รวมถึงฟีเจอร์ LINE MAN Only รวบรวมร้านที่สั่งได้เฉพาะบนไลน์แมน เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

ส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่ฟู้ดดีลิเวอรี (Non-food) ได้แก่ บริการส่งสินค้าแมสเซนเจอร์ และแท็กซี่นั้น มียอดใช้งานเติบโต 2 เท่า ขณะที่บริการสั่งของสดและของใช้ด่วนผ่านไลน์แมนมาร์ท มียอดออเดอร์เติบโต 1.6 เท่า ด้านธุรกิจ Merchant Solutions ที่เน้นให้บริการระบบจัดการร้านอาหาร (Wongnai POS) นั้น ปัจจุบันไลน์แมนวงในคือเจ้าตลาด POS (Point of Sale) มีผู้ประกอบการร้านอาหารใช้งานมากกว่า 50,000 ร้าน

นายยอด ยังกล่าวถึงภาพรวมธุรกิจฟู้ดดีลิเวอรีทั่วประเทศ ซึ่งไลน์แมนวงในให้บริการครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศแล้วนั้น มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยปีนี้ได้ทุ่มงบการตลาดในต่างจังหวัดเพิ่ม 2 เท่า และภาคใต้เป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง มีมูลค่าธุรกรรมรวม (GMV) โต 38% จังหวัดที่มีอัตราเติบโตสูงสุดในภาค ได้แก่ ตรังและกระบี่ โดยเฉพาะตรังเป็นจังหวัดดาวรุ่งพุ่งแรงอันดับหนึ่งของภาคใต้ ยอดออเดอร์ดีลิเวอรีบนไลน์แมน (พ.ย. 2565-เม.ย. 2566) โตเพิ่ม 64% มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่ม 73%.