เครือสหพัฒน์ จับมือการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ร่วมพัฒนา EV Charging

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เครือสหพัฒน์ จับมือการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ร่วมพัฒนา EV Charging

Date Time: 28 เม.ย. 2566 17:00 น.

Video

สาเหตุที่ทำให้ Intel อดีตยักษ์ใหญ่ชิปโลก ล้าหลังยุค AI | Digital Frontiers

Summary

  • สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้งลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับ กฟผ. พัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้า หรือ EV Charging Station) วางเป้าหมายนำไปใช้ในพื้นที่ของในเครือฯ

Latest


สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้งลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับ กฟผ. พัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้า หรือ EV Charging Station วางเป้าหมายนำไปใช้ในพื้นที่ของในเครือฯ

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 66 นายวิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI กล่าวว่า เครือสหพัฒน์ โดย บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจ กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. หรือ EGAT โดยมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อพัฒนา สถานีอัดประจุไฟฟ้า หรือ EV Charging Station เพื่อสนับสนุนการพัฒนาในทุกๆ มิติของระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้าครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ ของเครือฯ

ทั้งการพัฒนาและติดตั้งสถานีชาร์จ EV หรือ EleX by EGAT การร่วมพัฒนาแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงเครือข่ายข้อมูล และสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ มีความตั้งใจให้เป็นโครงการต้นแบบให้กับทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมกันยกระดับและขับเคลื่อนระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้มีความปลอดภัย สะดวก คุ้มค่า

นอกจากนี้ ยังเกิดประโยชน์ต่อสังคมสูงสุด อีกทั้งยังตอบรับนโยบายด้านพลังงานของประเทศที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) มุ่งส่งเสริมระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าว บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง ในฐานะผู้พัฒนาสวนอุตสาหกรรมทั้ง 4 แห่งของเครือสหพัฒน์ ได้ดำเนินวิสัยทัศน์เพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืนนี้มาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแนวคิดที่สำคัญของเครือสหพัฒน์ในการดำเนินธุรกิจที่ว่า คนดี สินค้าดี สังคมดี ส่งเสริมการสร้างงานที่มีคุณค่า พัฒนาอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพ สร้างสินค้า และบริการที่ดีสู่ผู้บริโภค

นอกเหนือจากการลงทุนในพลังงานสะอาดแล้ว บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นพัฒนาด้านอื่นๆ ควบคู่ไปด้วยเพื่อตอบสนองความต้องการและการเติบโตที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจ พร้อมนำโมเดลธุรกิจและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้พัฒนาสวนอุตสาหกรรมของเครือสหพัฒน์ สู่การเป็นสวนอุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart Industrial Park) อย่างแท้จริง เพื่อให้บริษัทฯ และพาร์ตเนอร์เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

นายวิชัย กล่าวอีกว่า นับเป็นอีกหนึ่งในความตั้งใจของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจที่ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ซึ่งนอกจากจะเป็นกลยุทธ์ขององค์กรเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน เสริมความแข็งแกร่งให้กับบทบาทของเครือฯ ในการสนับสนุนการพัฒนาพลังงานสะอาดให้กับประเทศไทยแล้ว ความร่วมมือในครั้งนี้ยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Success with Synergy and Sharing มุ่งมั่นสร้างความสำเร็จจากการรวมพลังและการแบ่งปัน

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ กฟผ. ยินดีอย่างยิ่งที่เครือสหพัฒน์ โดยบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) องค์กรชั้นนำในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคที่อยู่คู่ประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับองค์กรภาครัฐอย่าง กฟผ. ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าทั้ง 2 องค์กรสามารถนำความเชี่ยวชาญและจุดแข็งของตนเองมาร่วมกันพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้

ปัจจุบันทั้ง 2 หน่วยงาน ได้ร่วมกันดำเนินการพัฒนาและเปิดให้บริการสถานีชาร์จ EleX by EGAT ที่บริเวณอาคารจอดรถ ชั้น C2 ศูนย์การค้า เจ พาร์ค ศรีราชา นิฮอน มูระ นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันศึกษาแนวทางการต่อยอดสถานีชาร์จในบริเวณพื้นที่ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาของเครือสหพัฒน์ ได้แก่ KingBridge Tower ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานให้เช่า และ KingsQuare Residence ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัย อีกทั้งร่วมกันศึกษาเพื่อต่อยอดธุรกิจด้านยานยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่สวนอุตสาหกรรม (Industrial Park)

ปัจจุบัน กฟผ. พัฒนาระบบนิเวศด้านยานยนต์ไฟฟ้าอย่างครบวงจร ทั้งเป็นผู้ให้บริการสถานีชาร์จ EleX by EGAT พัฒนาแอปพลิเคชัน EleXA สำหรับใช้งานสถานีชาร์จฯ รวมถึงเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับบริหารจัดการสถานีชาร์จ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้สนใจลงทุนติดตั้งสถานีอัดชาร์จด้วยตนเอง

โดยการส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้านอกจากจะช่วยสนับสนุนนโยบายภาครัฐ 30@30 ยังเป็นการผลักดันให้เกิดสังคมคาร์บอนต่ำ และขับเคลื่อนประเทศไทยให้บรรลุ เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065 อีกด้วย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์