ตลาดน้ำอัดลมคึกรับเทรนด์สุขภาพ

ตลาดน้ำอัดลมนับว่าถึงจุดพีกในช่วงเทศกาล สงกรานต์ที่ผ่านมา ที่มีการเฉลิมฉลองกันอย่างคึกคักทุกหนแห่งทั่วไทย หลังจากว่างเว้นหลายปีจากผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด–19 ทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้ามาเพื่อร่วมฉลองเทศกาลนี้โดยตรง

ในเทศกาลหน้าร้อน บรรดาแบรนด์น้ำอัดลมต่างๆ เดินหน้าโปรโมตกิจกรรมทางการตลาดอย่างหนักหน่วงเพื่อช่วงชิงยอดขายและเพิ่มส่วนแบ่งตลาด ยิ่งในช่วงซัมเมอร์ปีนี้ที่อากาศร้อนอบอ้าวมากอุณหภูมิหลายๆพื้นที่เกิน 40 องศาเซลเซียส

กลยุทธ์หลักๆของค่ายน้ำอัดลมในช่วงนี้ก็คือ “มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง” ที่เวทีคอนเสิร์ตระดับโลกได้ย้ายมาจัดโชว์ความยิ่งใหญ่ในประเทศไทย เริ่มจากผู้นำตลาด “โคคา-โคล่า” ร่วมผนึกกำลังกับ Rolling Loud (โรลลิ่ง ลาวด์) เทศกาลดนตรีฮิปฮอประดับโลกจากสหรัฐฯมาปรากฏการณ์ทางดนตรีสุดยิ่งใหญ่กับ Rolling Loud Thailand ครั้งแรกในเอเชียที่ประเทศไทย กับศิลปินระดับโลกมากมายที่พัทยา สร้างความชุ่มฉ่ำในช่วงสงกรานต์แบบกระหึ่ม

พร้อมกับชิมลางเปิดตัว Coke Studio จัดทำบูธที่ตกแต่งด้วยหูฟังขนาดยักษ์สุดไอคอนิกให้แฟนๆได้ถ่ายรูปเก็บโมเมนต์ประทับใจและแดนซ์สุดเหวี่ยงไปกับเสียงเพลง โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทยกำลังจะเปิดตัว Coke Studio ซีซันแรกอย่างเป็นทางการในเดือน มิ.ย.ปีนี้ เป็นการสร้างวัฒนธรรมทางดนตรีที่เชื่อมโยงแฟนเพลงเจเนอเรชันต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน โดย Coke Studio จะสื่อสารกับกลุ่ม “เจนแซด” ที่หลงใหลในดนตรีจากทั่วโลก ตลอดจนเชื่อมโยงความเป็นตัวตนที่แท้จริงของทุกคน ผ่านการร่วมมือกับเหล่าศิลปินที่มีเอกลักษณ์และความเป็นตัวเองอย่างชัดเจน

สำหรับคู่แข่ง เป๊ปซี่ (Pepsi) ร่วมกับ S2O (Songkran Electronic Dance Music Festival) งานเทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ของไทยที่ส่งออกวัฒนธรรมสงกรานต์ไปสู่สากล ในปีนี้ระเบิดความมันกับงาน Pepsi presents S2O Songkran Music Festival 2023 ที่ย่านพระราม 9 ตลอด 3 วันของการจัดงานชุ่มฉ่ำไปทั่ว สร้างความมันสะใจให้สมการรอคอยหลังว่างเว้นมาหลายปี

ความเข้มข้นของตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมยังคงเดินหน้าปะทะกันเดือด ยิ่งในปีนี้ แบรนด์เอส (Est) ซึ่งเป็นแบรนด์ไทยประกาศจะกลับมายกระดับแบรนด์ “Est Cola” ให้ยิ่งใหญ่ในรอบ 10 ปี หลังจากปรับสูตรและปรับโฉมใหม่พร้อมแคมเปญการตลาดแบบจัดหนัก “Born to be Awesome เกิดมาซ่า...กล้าเป็นตัวเอง” ดึงไอคอนตัวแทนชาวเอเชีย นำทีมโดย “ชาอึนอู” รวมถึงศิลปินไทยยอดนิยม “โบกี้ไลอ้อน” “Yes Indeed” และ “3 สาวนักวอลเลย์บอลนิวเจน” รับหน้าที่พรีเซนเตอร์กลุ่มใหม่ พร้อมกับตั้งเป้ายกระดับเป็นเครื่องดื่มคนเอเชียรุ่นใหม่

ตลาดน้ำอัดลมในอดีตที่ผ่านมา มีเพียงสองค่ายยักษ์ก็คือเป๊ปซี่และโค้กหรือโคคา-โคล่า ซึ่งตลาดไทยเป็นเพียงสองตลาดในโลกที่ค่ายเป๊ปซี่เป็นเจ้าตลาดเหนือค่ายโคคา-โคล่า แต่จุดเปลี่ยนที่สำคัญก็คือค่ายเสริมสุขซึ่งเป็นผู้ผลิตให้เป๊ปซี่ได้หมดสัญญาลง เป๊ปซี่ต้องการเข้าทำดำเนินการเอง จึงต้องแยกทางกัน ค่ายเสริมสุขต้องออกแบรนด์ “Est” เอง ขณะที่เป๊ปซี่ต้องเริ่มนับหนึ่งในกระบวนการผลิตใหม่ ทำให้โคคา-โคล่า ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดแทน

ในปีที่ผ่านมา ตลาดน้ำอัดลม 57,000 ล้านบาท เติบโต 2% โดยค่ายโคคา–โคล่า มีส่วนแบ่งสูงสุดที่ 51% ตามด้วยเป๊ปซี่ 37% เอส 8% และบิ๊ก 3% และตลาดเริ่มหันไปพูดเรื่องสุขภาพส่วนผสมน้ำตาลลง รวมไปถึงการโปรโมตสูตรไม่มีน้ำตาลซึ่งเป็นสัดส่วนถึง 36% ในตลาดและเติบโตในระดับสูงถึง 10%

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในปีนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าจะเติบโตที่ระดับ 4-6% ลดลงจากปีก่อนหน้าที่เติบโตสูงถึง 7.4% เป็นการเพิ่มขึ้นจากการทำกิจกรรมนอกบ้านและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและมาจากโฆษณาและการทำตลาดของเจ้าของแบรนด์

ขณะที่ทิศทางของตลาด เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์จะมุ่งสู่การเน้นสุขภาพ แต่ความถี่การบริโภคที่เป็นสินค้าประจำวันอาจไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก และ Life-cycle หรือวงจรชีวิตของสินค้าแต่ละประเภทสั้นลงและความภักดีต่อแบรนด์ลดลง ขณะที่ผู้เล่นจำนวนมากยังทยอยเข้าสู่ตลาด สะท้อนถึงภาพการแข่งขันของธุรกิจที่จะยังคงรุนแรง

ดังนั้น ความท้าทายของผู้ประกอบการทั้งหลายจึงขึ้นอยู่กับความสามารถในการเพิ่มความถี่หรือเพิ่มมูลค่าการดื่มต่อครั้งของผู้บริโภคเพื่อทำยอดขายและไปเพิ่มส่วนแบ่งของคู่แข่งในตลาดนั่นเอง!!

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th