เรื่องกินเรื่องใหญ่กับไลน์แมนวงใน

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เรื่องกินเรื่องใหญ่กับไลน์แมนวงใน

Date Time: 14 มี.ค. 2566 06:01 น.

Summary

  • ธุรกิจฟู้ดดีลิเวอรีเป็นหนึ่งในหลายธุรกิจที่ได้รับประโยชน์เต็มๆจากสถานการณ์โรคระบาด ความจำเป็นในการเว้นว่างทางสังคมเพื่อตัดวงจรแพร่ระบาด ทำให้บริการส่งอาหารเติบโตติดสปริงบอร์ด

Latest

รอบรั้วการตลาด : Mega Clinic ทำ all-time high เปิดกลยุทธ์ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย

ธุรกิจฟู้ดดีลิเวอรีเป็นหนึ่งในหลายธุรกิจที่ได้รับประโยชน์เต็มๆจากสถานการณ์โรคระบาด ความจำเป็นในการเว้นว่างทางสังคมเพื่อตัดวงจรแพร่ระบาด ทำให้บริการส่งอาหารเติบโตติดสปริงบอร์ด ระหว่างปี 2563-2564 ช่วงพีกของการระบาด ธุรกิจฟู้ดดีลิเวอรีในภูมิภาคอาเซียนเติบโตกว่า 65% ขณะที่ระหว่างปี 2564-2565 เติบโตเหลือ 14% มูลค่ารวม (Gross merchandise value-GMV) ในปี 2565 อยู่ที่ 16,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 570,000 ล้านบาท เฉพาะประเทศไทยมีมูลค่ารวม 3,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 126,000 ล้านบาท (ข้อมูลจาก Google, Temasek,Bain & Company และ Momentum Works)

เอกลักษณ์ วิริยะโกวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Lifestyle& Solution Service ของไลน์แมนวงใน ผู้ให้บริการฟู้ดดีลิเวอรีอันดับต้นๆ ของประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับคนไทยเรื่องกินอยู่ใน DNA และสำหรับคนยุคใหม่การกินคือไลฟ์สไตล์สะท้อนตัวตน รสนิยมการกินของคนไทยจึงเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา กระแส และเทรนด์จากโซเชียลมีเดียตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ไลน์แมนวงในมียอดการเติบโตรายออเดอร์สูงขึ้น 6% โดยอาหารที่อยู่ในกระแสนิยมคือร้านชาบูหม่าล่าหม้อไฟสไตล์จีน หากจะให้วิเคราะห์สาเหตุ น่าจะมาจากความต้องการประสบการณ์แปลกใหม่ของนักกิน เพราะร้านเหล่านี้มีบริการหลายรูปแบบ เช่น แบบหม้อเดี่ยว แบบสายพาน ช่วยเพิ่มความน่าสนใจ แชร์ต่อบนโลกโซเชียลได้โดยง่าย

“ความนิยมในชาบูหม่าล่าสไตล์จีน ยังทำให้ความนิยมอาหารจีนเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจนในปีนี้ด้วย นอกเหนือจากอาหารต่างประเทศยอดนิยมตลอดกาลอย่างอาหารญี่ปุ่นและเกาหลี”

และอีกเทรนด์ คือร้านอาหารประเภท Brunch ที่เสิร์ฟอาหารเช้าและเที่ยงควบกัน เป็นการเพิ่มมื้อเวลาในการกิน ไม่จำกัดแค่ตามมื้ออาหาร เช้า เที่ยง เย็น กระแสที่มาแรงนี้ทำให้ร้านคาเฟ่ที่เคยเสิร์ฟเฉพาะเครื่องดื่ม หันมาเพิ่มเมนู Brunch เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

อีกพฤติกรรมที่เด่นชัดเห็นมากขึ้นหลังโควิดคือความพิถีพิถันในการเลือกที่มากขึ้น ในช่วงโควิดการสั่งอาหารส่วนใหญ่เน้นที่ความอร่อย สะดวก ถูกปาก รับประทานง่าย แต่เมื่อคุ้นเคยกับการสั่งอาหารแบบดีลิเวอรีมากขึ้น ผู้บริโภคเริ่มต้องการอะไรที่มากกว่า มีการคัดสรรอาหารที่ตกแต่งสวยงาม สร้างประสบการณ์ใหม่ นำไปสู่ความนิยมในร้านอาหารที่เน้นประสบการณ์ เช่น ความนิยมในโอมากาเสะหรือร้านที่ต้องจองล่วงหน้า

“หลังโควิดตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เราเห็นพฤติกรรมผู้บริโภคที่เพิ่มความต้องการรับประทานอาหารที่พิเศษมากขึ้นในทุกมิติ ทั้งรสชาติ ประสบการณ์ หรือแม้กระทั่งเชฟ จากในอดีตร้านอาหารประเภทนี้ได้รับความนิยมในช่วงเทศกาลหรือวันพิเศษเท่านั้น แต่ปัจจุบันการรับประทานอาหารในร้านเหล่านี้กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว โดยลูกค้าคาดหวังการเสิร์ฟหรือการจัดส่งที่สวยงาม ได้คุณภาพไม่แพ้รับประทานที่ร้าน”

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของไลน์แมนวงใน ยังวิเคราะห์เทรนด์ผู้บริโภคจากการจัดอันดับร้านอาหารยอดนิยม LINE MAN Wongnai Users’ Choice 2023 ซึ่งในปีนี้มีร้านค้าได้รับรางวัลทั้งสิ้น 555 ร้านในจำนวนดังกล่าวเป็นร้านที่ได้รับรางวัลปีนี้เป็นปีแรก 198 ร้าน คิดเป็น 35%ส่วนอีก 65% ที่เหลือหรือ 357 ร้านค้า เป็นร้านที่เคยได้รับรางวัลมาแล้ว

ในบรรดา 198 ร้านค้ายอดนิยมใหม่ 3 ประเภทแรก ได้แก่ 1.ร้านคาเฟ่ อาหารเช้าและ Brunch สะท้อนให้เห็นเทรนด์การกินอาหารของคนไทยที่กินได้ทั้งวัน ไม่ได้จำกัดเฉพาะเป็นมื้อหลักแบบเดิมอีกต่อไป แต่กินเป็นมื้อว่าง หรือมื้อคั่นระหว่างรอกินมื้อหลัก 2.ร้านชาและกาแฟ ซึ่งยังคงเป็นเมนูเครื่องดื่มยอดนิยมตลอดกาล โดยมีการเติบโตที่ชัดเจนของร้านกาแฟและชาที่เป็น specialty ขณะที่ชานมไข่มุกในปีนี้ ได้รับความนิยมลดลง 3.ร้านFine Dining หรือร้านที่เสิร์ฟอาหารเรียงลำดับตามคอร์ส สืบเนื่องจากการกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบของร้านอาหารในปี 2564 ทำให้คนโหยหาการใช้ชีวิตและหวังสร้างประสบการณ์กับมื้ออาหารที่ใช้เวลาในการเสิร์ฟอย่างเต็มที่ ร้านประเภทนี้จึงเติบโตขึ้นมาก โดยเฉพาะร้านที่มีการเล่าเรื่องหรือ story telling ตั้งแต่ที่มาของวัตถุดิบ ขั้นตอนการปรุง แรงบันดาลใจ
หลังมื้ออาหารของเชฟ เป็นต้น

ทำเนียบร้านค้า 555 ร้านที่ได้รับรางวัล LINE MAN Wongnai Users’ Choice 2023 ปีนี้ ยังสะท้อนความนิยมสูงสุดในร้านอาหาร 5 ประเภท ประกอบด้วย1.ร้านอาหารไทย ติดอยู่ในอันดับจำนวน 80 ร้าน 2.ร้านกาแฟ/ชา จำนวน 71 ร้าน 3.ร้านคาเฟ่ 45 ร้าน 4.ร้านก๋วยเตี๋ยว 41 ร้าน และร้านอาหารทะเล 41 ร้าน

อย่างไรก็ตาม ทำเนียบ LINE MAN Wongnai Users’ Choice จะถูกปรับเปลี่ยนทุกปี เพราะมีเกณฑ์การคัดเลือกตั้งแต่จากการรีวิว เรตติ้งและยอดออเดอร์ของผู้ใช้แอปไลน์แมนและวงในรวมกันกว่า 25 ล้านคน ต้องมีค่าเฉลี่ยที่ 4.0 ขึ้นไป ต้องมีเรตติ้งเฉลี่ยสูงขึ้นจากปีก่อนหน้า มีอาหารหลากหลายชนิดและราคา จากนั้นจะถูกกรองโดยทีมบรรณาธิการอีกครั้ง โดยร้านค้าที่ได้รางวัลในปีนี้จำนวน555 ร้าน คิดเป็น 0.04%ของร้านค้าทั่วประเทศที่ได้อยู่ในระบบคัดเลือกจำนวน 1.3 ล้านร้านอาหาร

“ในความเป็นจริง จึงมีร้านค้าหมุนเวียนเข้าออกจากทำเนียบสลับสับเปลี่ยนกันทุกปี ในปีนี้หลายร้านอาจหลุดไปเพราะปีที่ผ่านมาแทบจะเปิดให้บริการไม่ได้ ขณะที่ร้านอาหารที่อยู่ในอันดับติดต่อกันยาวนานที่สุด 7 ปี คือร้านอาหารญี่ปุ่น Isao ในซอยสุขุมวิท31”

นอกจากกาแฟ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของไทยแล้ว อาหารยอดนิยมตลอดกาลสำหรับคนไทยคือส้มตำ ส้มตำทำให้อาหารอีสานกลายเป็นจานนิยมยกแผง สั่งกินกันตั้งแต่ช่วงกลางวัน 11.00-13.00 น. เมนูยอดฮิต เช่น ส้มตำปูปลาร้า ส้มตำป่า/ส้มตำไทยและลาบหมู ต่อเนื่องจนถึงช่วงเย็น 16.00-20.00 น. ส้มตำก็ยังยืนหนึ่งโดดเด่นในฐานะอาหารจานอีสาน ตั้งแต่ ส้มตำปูปลาร้า, ลาบหมู, ส้มตำป่า/ส้มตำไทย, คอหมูย่าง และน้ำตกหมู

ส่วนเมื่อถามถึงเคล็ดลับสำหรับร้านค้า ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของไลน์แมนวงใน แนะนำให้ศึกษาตลาดให้ดี คู่แข่งและทำเลมีความสำคัญ ต้องพยายามสร้างความแตกต่าง แต่สำคัญที่สุดคือคุณภาพและความอร่อย หากอร่อยและมีคุณภาพแล้ว ราคาแพงก็ยังมีคนซื้อ.

ศุภิกา ยิ้มละมัย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ