เซ็นทรัลพัฒนา กางแผนลงทุน 5 ปี ระหว่าง 2566-2570 รวมมูลค่า 135,000 ล้านบาท พร้อมยกระดับกรุงเทพฯ เทียบชั้นมาตรฐานมหานครระดับโลก
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 66 นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราได้สร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจศูนย์การค้า รวมถึงธุรกิจคอมมูนิตี้ มอลล์, ที่อยู่อาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรมทั่วประเทศ
พร้อมทั้งพัฒนาให้ทุกส่วนเชื่อมโยงถึงกันแบบ Seamless Synergy รวมถึงการเชื่อมต่อไปสู่พันธมิตรธุรกิจ ผู้คน ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราจึงต้องการสร้างวิวัฒนาการ ให้เกิดขึ้นด้วยการเดินหน้าสู่โมเดลธุรกิจแห่งอนาคตเป็น The Ecosystem for All โดยมีธุรกิจ Retail เป็นแกนหลัก ด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญ
1. The 360-Degree Centre of Life : เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์ครบทุกองศาทั้ง Offline & Online ทั้ง shop eat work play stay live ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง 365 วัน ทุกที่ทั่วประเทศ
โดยภายใน 5 ปี ทราฟฟิคในโครงการของเราจะเพิ่มขึ้นจาก 1.2 ล้านคนเป็น 1.8 ล้านคนต่อวัน หรือคิดเป็นการมาใช้บริการ 657 ล้านครั้งต่อปี สำหรับปี 2566 นี้จะมีมิกซ์ยูสที่ครบทุกองค์ประกอบเพิ่มขึ้น ได้แก่ เซ็นทรัล อุบลราชธานี, เซ็นทรัล อยุธยา และเซ็นทรัล ระยอง
โดยในแผนลงทุน 5 ปี (ปี 2566-2570) ลงทุนทุกธุรกิจรวมกว่า 135,000 ล้านบาท เฉลี่ยปีละ 25,000-30,000 ล้านบาท โดยมีทั้งหมดมากกว่า 200 โครงการ ครอบคุลม 30 เมืองในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ประกอบด้วย
- ศูนย์การค้า 50 แห่ง
- คอมมูนิตี้ มอลล์ 17 แห่ง
- ที่อยู่อาศัย 90 แห่ง
- โรงแรม 37 แห่ง
- อาคารสำนักงาน 13 แห่ง
- พื้นที่ใหม่ๆ Flex Offices อีก 4 แห่ง
ทั้งนี้ จะทำให้จำนวนโครงการมิกซ์ยูสเพิ่มขึ้นจาก 18 โครงการในปี 2566 เป็น 25 โครงการในปี 2570
นอกจากนี้ ยังได้วางแผนระยะยาว 5-10 ปีในการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส Mega Projects รวม 5 โครงการ ซึ่งจะยกมาตรฐานให้กรุงเทพฯ เทียบเท่ามหานครระดับโลก อย่างนิวยอร์ก, โตเกียว หรือโซล โดยโครงการแรก Dusit Central Park จะทยอยเปิดตัวในปี 2567-2568 รวมถึงอีก 4 โครงการใหญ่ที่แต่ละโครงการมีพื้นที่ GFA กว่า 350,000 ตร.ม. และเงินลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท
2. Total B2B2C Solutions : การเชื่อมโยงการทำธุรกิจของพันธมิตรคู่ค้า สู่การใช้ชีวิตของลูกค้าที่ครบวงจร ด้วยการลงทุนด้าน Digital Transformation & Technology Infrastructure ปีละ 300-500 ล้านบาท โดยได้มีการพัฒนา Data-driven Omnichannel ที่มีประโยชน์กับลูกค้า คู่ค้า และสังคม
3. The Place Making for Sustainable Future : ให้ความสำคัญทั้งด้าน คน ด้วยการส่งเสริม Local Wealth โดยใน 5 ปีข้างหน้า บริษัทฯ จะมีพนักงานกว่า 6,500 คน พร้อมผลักดันการจ้างงานใน Ecosystem อีกกว่า 100,000 ตำแหน่ง
รวมถึงการเปิดพื้นที่ค้าขายฟรีให้เกษตรกรและ SMEs ทั่วประเทศคิดเป็นมูลค่า 300 ล้านบาทต่อปี และการสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐและ CSR รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาทต่อปี รวมไปถึงการดูแลสิ่งแวดล้อม เดินหน้าตามโรดแมป NET Zero 2050 อีกด้วย