เซ็นทรัล รีเทล กวาดรายได้ปี 65 แตะ 236,245 ล้าน ยิ้มรับกำไร 7,605 ล้าน

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เซ็นทรัล รีเทล กวาดรายได้ปี 65 แตะ 236,245 ล้าน ยิ้มรับกำไร 7,605 ล้าน

Date Time: 1 มี.ค. 2566 11:25 น.

Video

ล้วงลึกอาณาจักร “PCE” สู่บริษัทมหาชน ปาล์มครบวงจร | On The Rise

Summary

  • เซ็นทรัล รีเทล หรือ CRC กวาดรายได้ปี 65 แตะ 236,245 ล้านบาท โต 21% ส่วนกำไรสุทธิ 7,605 ล้านบาท โต 2,648% พร้อมจ่ายปันผล 0.48 บาทต่อหุ้น

Latest


เซ็นทรัล รีเทล หรือ CRC กวาดรายได้ปี 65 แตะ 236,245 ล้านบาท โต 21% ส่วนกำไรสุทธิ 7,605 ล้านบาท โต 2,648% พร้อมจ่ายปันผล 0.48 บาทต่อหุ้น

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า ผลประกอบการในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ 236,245 ล้านบาท (+21% YoY) EBITDA 30,049 ล้านบาท (+50% YoY) และกำไรสุทธิ 7,605 ล้านบาท (+2,648% YoY)

ส่วนไตรมาสที่ 4/65 มีรายได้รวมอยู่ที่ 65,147 ล้านบาท (+11% YoY) EBITDA 9,497 ล้านบาท (+18% YoY) และกำไรสุทธิ 3,417 ล้านบาท (+39% YoY) ทั้งนี้เซ็นทรัล รีเทล ยังพร้อมเสนอจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น 0.48 บาทต่อหุ้น โดยจะมีการอนุมัติอีกครั้งในการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี หรือ AGM

สำหรับความสำเร็จของเซ็นทรัล รีเทล มาจากความแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจในเครือที่สร้างการเติบโตได้อย่างโดดเด่น ทั้งกลุ่มแฟชั่นที่พลิกโฉมประสบการณ์ใหม่ New Omni Fashion ด้วย Total Solution ครบวงจร และกลับมาโตแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม

ส่วนกลุ่มฮาร์ดไลน์ ไทวัสดุขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 2 อย่างเต็มรูปแบบด้วยจำนวนสาขารวม 70 สาขา ใน 42 จังหวัดทั่วไทย ท็อปส์ เบอร์ 1 ฟู้ดรีเทลเมืองไทยชูคอนเซปต์ใหม่ Every Day Discovery พร้อมเดินหน้าขยายสาขาอีก 15 สาขา รวมถึงศูนย์การค้า โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ที่ยังมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง จนได้ชื่อว่าเป็นเบอร์ 1 ศูนย์การค้า Lifestyle and Experiential Community ที่มีสาขาครอบคลุมจังหวัดมากที่สุดในไทย

นอกจากนี้เซ็นทรัล รีเทล ยังสร้างฐานการเงินที่แข็งแกร่ง บนกลยุทธ์ 3C คือ Cost บริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด, Capex เน้นการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุดใน Strategic Business และ Cash Flow ขยายขีดความสามารถในการจัดการเงินทุนหมุนเวียนให้มีความคล่องตัว และเพิ่มกระแสเงินสดให้มากขึ้น ทำให้ธุรกิจมีความ Fit & Firm และสามารถสร้างผลประกอบการกลับมาเติบโตได้อย่างรวดเร็วเกินคาด

โดยสามารถแบ่งสัดส่วนยอดขายตามกลุ่มธุรกิจในปี 2565 ออกเป็น กลุ่มฟู้ด 40% กลุ่มฮาร์ดไลน์ 34% และกลุ่มแฟชั่น 26% และแบ่งตามประเทศเป็น ประเทศไทย เวียดนาม 24% และอิตาลี 7% นอกจากนี้ยอดขายบนแพลตฟอร์มออมนิแชแนลยังเติบโตขึ้นถึง 15% จากปีก่อน และมีสัดส่วนยอดขายจากแพลตฟอร์มนี้เป็น 18% ของยอดขายทั้งหมด และมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดเซ็นทรัล รีเทล ยังได้สร้างความสำเร็จเชิงกลยุทธ์ (Strategic Success) ด้วยการ Spin-off บมจ.เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) ซึ่งเป็นบริษัทฯ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้สำเร็จ ด้วยมูลค่า Market Cap ณ วันที่ 27 ก.พ. 66 อยู่ที่ 12,075 ล้านบาท ขึ้นแท่นหุ้น Market Cap สูงสุดอันดับ 2 ของตลาด mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หรือ Service

นายญนน์ กล่าวอีกว่า เซ็นทรัล รีเทล พร้อมมุ่งหน้าสู่ The Next Sustainable Growth โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับทุกกลุ่มธุรกิจในแต่ละประเทศ ควบคู่ไปกับการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยเส้นทางธุรกิจต่อจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล มีความมั่นใจที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด

จากปัจจัยบวกหลายด้านในภาคธุรกิจค้าปลีกและบริการ โดยเฉพาะแรงเสริมจากการเปิดประเทศและจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางเพิ่มมากขึ้น ทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี ถือเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล ซึ่งจะเอื้อประโยชน์โดยตรงต่อธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทลของเรา.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์