เฟรเซอร์ส คาดตลาดบ้านหรูเติบโตแรง ปล่อย 4 กลยุทธ์ดันยอดขายทะลุ 1.3 หมื่นล้าน

Frasers คาดตลาดอสังหาฯ ปี 66 ฟื้นตัว เผย 4 กลยุทธ์ไม้ตายเสริมความแข็งแกร่งตลาดบ้านเดี่ยว เตรียมบุกตลาดคอนโด Low rise พร้อมรัน 11 โครงการใหม่ หวังทำเป้าสิ้นปี 1.3 หมื่นล้านบาท

นายแสนผิน สุขี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า มุมมองต่อเศรษฐกิจไทยว่ามีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2566 โดยมีปัจจัยหลักมาจากนโยบายเปิดประเทศ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่จะทำให้เกิดการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานตามหัวเมืองหลักในแต่ละจังหวัดเพื่อรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยว รวมถึงการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง นโยบายที่ชัดเจนจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้คนรากหญ้ากลับมามีกำลังซื้ออีกครั้ง

ซึ่งส่งผลให้ Frasers คาดการณ์ถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ว่า ความต้องการบ้านเดี่ยวโดยเฉพาะบ้านหรูจะสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อตามหัวเมืองหลักในต่างจังหวัด ซึ่งในปี 2565 บ้านเดี่ยวมีไม่พอต่อความต้องการทำให้ราคาเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้น 3% ที่ระดับ 10.55 ล้านบาท และเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้กำไรเติบโต 63% แม้รายได้จะเพิ่มขึ้นแค่ 2% หรือ 11,392 ล้านบาท สวนทางกับสภาพเศรษฐกิจและตลาดที่ซบเซาในปีที่แล้ว

อีกทั้งคอนโดมิเนียม Low rise จะได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะคนกลับมาใช้ชีวิตและทำงานนอกบ้านประกอบกับนโยบายเปิดประเทศทำให้คนรากหญ้าเริ่มกลับมามีรายได้ ซึ่งส่งผลต่อแนวโน้มการเติบโตของคอนโด จะเห็นสัญญาณได้จากปีที่แล้วที่คอนโดมิเนียม Low rise มีสัดส่วนความต้องการมากที่สุด

เป้าหมายในปี 2566 คือการสร้างยอดรอรับรู้รายได้ 1.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปี 2565 ผ่านการเปิดตัว 11 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 17,500 ล้านบาท ขับเคลื่อนด้วย 4 กลยุทธ์เสริมแกร่งบนน่านน้ำเดิมและเติบโตบนสมรภูมิใหม่เพื่อทรานส์ฟอร์มธุรกิจให้แข็งแกร่งทุกด้าน ประกอบด้วย

1.แผนเดินหน้าเปิดโครงการบ้านเดี่ยวในทุกระดับราคา เป้าหมายคือเพิ่มสัดส่วนโครงการบ้านเดียวทุกเซกเมนต์ เน้นบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ที่สะท้อนตัวตนและการใช้งานของลูกค้า เจาะกลุ่มลูกค้าในจังหวัดที่มีการขยายตัวของเมืองและงาน บ้านแฝดที่ฟังก์ชันเทียบเท่าบ้านเดี่ยว ทำเลใกล้เมืองแต่ราคาจับต้องได้

2.จัดบิ๊กแคมเปญกระตุ้นยอดขายตลอดปี 2566 เพื่อสร้างการรับรู้ ให้ลูกค้าจำได้และเพิ่มยอดขาย

3.บุกตลาดคอนโดมิเนียมแบบ Low rise ระดับราคา 3-5 ล้าน โลเกชันในเมืองใกล้รถไฟฟ้า ลงทุนสร้างเองเน้นการเติบโตแบบ organic โดยโครงการแรกจะเปิดตัวช่วงกลางปี และยังอยู่ในระหว่างเจรจาเข้าซื้อโครงการคอนโดอื่นๆ

4.ขยายพอร์ตโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ และซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ด้วยการเพิ่มสัดส่วนการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวราคา 60-120 ล้าน ผ่าน 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ The grand, Alphina และ The royal residence โครงการที่มีราคาแพงที่สุดราคาขายขั้นต่ำ 80 ล้านบาท.