ปักธง "แพลนต์เบส ฟู้ด" ยึดตลาดโลก

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค.ได้ศึกษาแนวโน้มสถานการณ์การค้าและการส่งออกอาหารจากพืช (แพลนต์เบส ฟู้ด) และโอกาสทางการค้าของไทย พบว่า ปีที่ผ่านมาไทยส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ มูลค่า 2,852 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้ากลุ่มใหญ่สุดที่ส่งออก คือ เครื่องดื่มอื่นๆ เช่น นมถั่วเหลือง นมจากธัญพืช ฯลฯ 1,502 ล้านเหรียญฯ สัดส่วน 52.7% ของการส่งออกสินค้าแพลนต์เบสของไทยไปโลก ตลาดส่งออกสำคัญ คือ เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา จีน ลาว อันดับ 2 คืออาหารปรุงแต่งอื่นๆ เช่น เต้าหู้ ครีมเทียม ฯลฯ 1,347 ล้านเหรียญฯ สัดส่วน 47.2% ตลาดส่งออกสำคัญ คือ สหรัฐฯ จีน เมียนมา ญี่ปุ่น กัมพูชา อันดับ 3 โปรตีนเข้มข้นและสารเทกซ์เจอร์โปรตีน เช่น ผงโปรตีนจากพืช เนื้อจากพืช 2.3 ล้านเหรียญฯ สัดส่วน 0.1% ตลาดส่งออก คือ ฮ่องกง ไต้หวัน จีน สหรัฐฯ และเมียนมา ตามลำดับ

“ไทยมีความเข้มแข็งในการส่งออกสินค้าเครื่องดื่มอื่นๆ โดยไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับ 2 ของโลก รองจากสวิตเซอร์แลนด์ที่ส่งออกได้ 1,953 ล้านเหรียญฯ และไทยส่งออกนมถั่วเหลืองเป็นหลัก แต่มีโอกาสที่ไทยจะพัฒนาสินค้านมจากพืชให้หลากหลาย เช่น เนย ชีส โยเกิร์ต และไอศกรีม”

สำหรับอาหารปรุงแต่งอื่นๆมีสินค้าสำคัญที่ไทยส่งออก เช่น ครีมเทียม ที่ปีที่ผ่านมาส่งออกได้ 323 ล้านเหรียญฯ หากพัฒนาครีมเทียมจากพืชได้ จะตอบโจทย์ตลาดที่มีความต้องการโปรตีนจากพืชมากขึ้น ขณะที่นมมะพร้าวออร์แกนิก การส่งออกของไทยเติบโตต่อเนื่อง จาก 14,000 ล้านเหรียญ และ 700,000 ล้านเหรียญฯในปี 2562 และปี 2563 ตามลำดับ เป็น 5.3 ล้านเหรียญฯ เมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนเต้าหู้มูลค่าส่งออกคงตัวที่ 2-3.5 ล้านเหรียญฯต่อปี

ขณะที่กลุ่มโปรตีนเข้มข้น และสารเทกซ์เจอร์โปรตีน ไทยยังมีมูลค่าการส่งออกน้อย แต่สามารถพัฒนาศักยภาพการส่งออก และเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรไทย โดยเฉพาะกลุ่มผงโปรตีนจากพืชได้อีกมาก.