จับตาเอไอเอส ไปต่อ...หรือพอแค่นี้!!

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

จับตาเอไอเอส ไปต่อ...หรือพอแค่นี้!!

Date Time: 25 ต.ค. 2565 06:59 น.

Summary

  • วิถีชีวิตของผู้คนในทุกวันนี้ โลดแล่นอยู่บนโลกออนไลน์เกือบตลอดเวลา ทั้งในเรื่องของการทำงาน ธุรกิจ การศึกษา การสื่อสาร และเพื่อความบันเทิงพักผ่อนหย่อนใจ เครือข่ายสัญญาณ “อินเตอร์เน็ต”

Latest

รอบรั้วการตลาด : Mega Clinic ทำ all-time high เปิดกลยุทธ์ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย

วิถีชีวิตของผู้คนในทุกวันนี้ โลดแล่นอยู่บนโลกออนไลน์เกือบตลอดเวลา ทั้งในเรื่องของการทำงาน ธุรกิจ การศึกษา การสื่อสาร และเพื่อความบันเทิงพักผ่อนหย่อนใจ เครือข่ายสัญญาณ “อินเตอร์เน็ต” จึงเป็นโครงสร้างพื้นฐานหรือหัวใจที่สำคัญ ทั้งอินเตอร์เน็ตบ้านและอินเตอร์เน็ตมือถือ

ในช่วงนี้มีเรื่องวุ่นๆเกิดขึ้นกับผู้ให้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ที่น่าสนใจติดตาม นอกจาก “บิ๊กดีล” การประกาศควบรวมกิจการระหว่าง 2 ผู้ให้บริการโอเปอเรเตอร์ทรูกับดีแทคแล้ว

ยังมีการประกาศเข้าซื้อ บมจ.ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTTBB) ผู้ให้บริการบรอดแบนด์หรืออินเตอร์เน็ตบ้าน ยี่ห้อ 3BB (ที่มีผู้ใช้บริการอยู่ราว 2.4 ล้านราย) และการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ของ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) เจ้าของเครือข่าย เอไอเอส จาก บมจ. จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ที่มีมูลค่ารวมสูงถึง 32,420 ล้านบาท แบ่งเป็นเข้าซื้อหุ้นใน TTTBB สัดส่วน 99.87% มูลค่ารวม 19,500 ล้านบาท และซื้อหน่วยลงทุน JASIF สัดส่วน 19% มูลค่า 12,920 ล้านบาท (ปัจจุบันกองทุน JASIF ให้ TTTBB เช่าสายไฟเบอร์ใยแก้วนำแสง (OFCs) ดำเนินธุรกิจ)

แต่ความเคลื่อนไหวล่าสุดเอไอเอสได้ประกาศทบทวนดีลการซื้อขายครั้งนี้ หลังจากเมื่อวันที่ 18 ต.ค.65 ที่ผ่านมา ที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุน JASIF มีมติไม่อนุมัติเงื่อนไขสำคัญที่ฝั่งผู้เสนอซื้อคือ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ตเวอร์ค จำกัด หรือ AWN (บริษัทลูก เอไอเอส) ต้องการให้มีการแก้ไขและต้องขอมติส่วนใหญ่จากผู้ถือหน่วย

โดยผู้ถือหน่วย JASIF อนุมัติให้ JAS ขายหน่วยลงทุน JASIF และขายหุ้นของ TTTBB ที่ถืออยู่ให้เอไอเอสได้ แต่ไม่อนุมัติให้ผ่อนผันและแก้ไขรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับสัญญาเช่าและค่าเช่าสายไฟเบอร์ใยแก้วนำแสง รวมถึงห้ามยกเลิกสัญญาประกันรายได้ค่าเช่า และค่าเช่าล่วงหน้าที่ TTTBB ตกลงชำระให้กับกองทุนรวม ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขสำคัญของดีล การซื้อขายในครั้งนี้!!

โดยเอไอเอสมีเหตุผลว่า การแก้ไขสัญญาเช่าถือเป็นประเด็นสำคัญต่อ TTTBB ในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้แข่งขันได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ไปหาดูข้อเท็จจริง พบว่าปัจจุบันค่าเช่าที่ TTTBB ที่ทำสัญญาไว้กับ JASIF นั้น สูงกว่าอุตสาหกรรม ทำให้ต้นทุน TTTBB สูงกว่าคู่แข่งและส่งผลให้ปัจจุบันค่าบริการเฉลี่ยของ TTTBB แพงกว่า ทั้งเอไอเอสและทรูที่เป็นเจ้าตลาดเบอร์หนึ่ง ที่กำลังเร่งรุกตลาดขยายพื้นที่บริการครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมชูโปรโมชันแข่งขันด้านราคาเพื่อช่วงชิงลูกค้า

ท่ามกลางการแข่งขันในธุรกิจอินเตอร์เน็ตบ้าน ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆมีข้อมูลว่าสัดส่วนจำนวนผู้ใช้บริการ TTTBB ในปี 61 ซึ่งอยู่ที่ 30% ลดลงมาเหลือ 27% ในช่วงกลางปี 65 ขณะที่ทั้งเอไอเอสและทรูมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่ผลประกอบการ TTTBB เริ่มไม่เติบโตและชะลอตัวลง จากทั้งจำนวนผู้ใช้บริการและรายได้ที่ลดลง ซึ่งมองในระยะยาวหากธุรกิจแข่งขันไม่ได้ก็อาจกระทบต่อการจ่ายค่าเช่าให้กับกองทุน JASIF ได้ ซึ่งก็จะกระทบไปถึงเงินปันผลที่ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุน JASIF ที่จะได้รับก็อาจลดน้อยลงไปด้วย

อย่างไรก็ตาม เอไอเอสเสนอเงื่อนไขทดแทนการลดค่าเช่าที่จะทำให้ผู้ถือหน่วยได้ผลตอบแทนลดลงจาก 9% เหลือ 7% โดยจะมีการยืดหรือขยายสัญญาเช่าต่อไปอีก 5 ปี เพื่อทำให้จ่ายเงินปันผลนานขึ้น เรียกว่าได้ผลตอบแทนใกล้เคียงเดิมแต่ใช้เวลานานขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นเป็นเอไอเอส ในฐานะ sponsor ใหม่ ที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งน่าจะสร้างความมั่นใจในการเติบโตในระยะยาวข้างหน้ามากกว่า

แต่สุดท้ายผู้ถือหน่วยก็โหวตไม่อนุมัติเงื่อนไขเหล่านี้ไปแล้ว เพราะหากคำนึงถึงผลระยะสั้นหรือเฉพาะหน้าก็ต้องยอมรับว่าทำให้ผู้ถือหน่วยได้รับผลตอบแทนที่ลดลงจากการปรับลดค่าเช่า

มาดูมุมมองความเห็นของนักวิเคราะห์สำนักต่างๆ บล.กรุงศรีมองการเข้าซื้อ 3BB ไม่เพิ่มมูลค่าให้ ADVANC หากไม่มีการแก้ไขสัญญาเช่าหรือยกเลิกเงื่อนไขการันตีค่าเช่าได้ จึงมีแนวโน้มที่จะยกเลิกการเข้าซื้อทั้ง 3BB และหน่วยลงทุน JASIF เนื่องจากโครงสร้างต้นทุนของ 3BB จะไม่สามารถแข่งขันได้ แต่เอไอเอสอาจยังทำดีลนี้ต่อเพื่อให้ได้ฐานลูกค้า 2.4 ล้านรายของ 3BB และขยายฐานลูกค้าไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด ต้นทุนการเข้าซื้อควรต่ำกว่า 3.24 หมื่นล้านบาท

ด้าน บล.เอเซียพลัสมองว่า ข่าวนี้เป็นลบกับเอไอเอส เพราะทำให้การเข้าซื้อ TTTBB และ JASIF ซึ่งเป็นทางลัดในการขยายธุรกิจบรอดแบนด์ต้องล่าช้าออกไป แม้เอไอเอสยังสามารถซื้อ TTTBB และ JASIF ได้ แต่เมื่อไม่ได้รับการอนุมัติให้แก้ไขสัญญาเช่า เชื่อว่าเอไอเอสจะไม่ยอมจ่ายค่าเช่าตามสัญญาเดิมที่สูงกว่าราคาตลาด และน่าจะทำให้ดีลนี้ต้องพับไปก่อน แต่หากยังยืนยันที่จะซื้อ น่าจะต้องมีการทำข้อเสนอใหม่ที่จูงใจกว่าเดิม เพื่อขอมติอนุมัติจากผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF อีกครั้ง

ขณะที่ บล.บัวหลวงวิเคราะห์ว่าโอกาสที่ ADVANC จะปิดดีล TTTBB และ JASIF ลดน้อยลงหลังการไม่อนุมัติลดค่าเช่า จะทำให้ ADVANC ต้องจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วย JASIF ถึง 10-11% เทียบกับดอกเบี้ยจ่ายปัจจุบันที่เพียง 4-5% จะทำให้อธิบายผู้ถือหุ้นได้ยาก จึงเป็นที่มาของโอกาสยกเลิก ซึ่งไม่ได้ทำให้พื้นฐานธุรกิจเอไอเอส เปลี่ยน แต่เสียโอกาสที่จะเติบโตแบบ inorganic สำหรับธุรกิจอินเตอร์เน็ตบ้านเท่านั้น!!

ข้อมูลทั้งหมดข้างต้นนั้น ล้วนเป็นการวิเคราะห์ในมุมมองความได้เปรียบ-เสียเปรียบของธุรกิจและผลตอบแทนของนักลงทุนผู้ถือหน่วย JASIF ซึ่งไม่ว่าดีลนี้จะเกิดขึ้นได้สำเร็จหรือไม่ ไม่ว่าใครจะซื้อหรือควบรวมกับใคร สุดท้ายอย่าลืมคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าประชาชนผู้ใช้บริการ ที่ควรจะได้รับการบริการที่ดีขึ้น เข้าถึงง่าย ในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรมด้วย!!

วณิชยา แสงทอง


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ