ธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด–19 จวบจนเป็นที่ทราบกันว่าความรุนแรงการแพร่ระบาดได้ลดลงมากจนรัฐบาลได้ยกเลิกการเป็นโรคติดต่อร้ายแรงและกำหนดให้เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังเท่านั้น
สัญญาณกลับตัวเริ่มตั้งแต่การเริ่มเปิดประเทศตั้งแต่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างประเทศเริ่มเดินทางเข้ามา ซึ่งล้วนแต่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ธุรกิจโรงแรมเริ่มดีขึ้นซึ่งส่งผลโดยตรงกับอุตสาหกรรมไมซ์ซึ่งธุรกิจจัดการประชุม งานแสดงสินค้าเองก็ได้รับอานิสงส์มีผู้ร่วมแสดงสินค้าและผู้เข้าชมงานจากต่างประเทศเข้ามาร่วมงาน
นายกวิน กิตติบุญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท กวิน อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าในประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียนมานับ 10 ปี ซึ่งในยุคก่อนหากใครจะไปงานแสดงสินค้าระดับภูมิภาคต้องเดินทางไปที่สิงคโปร์ แต่ผู้จัดงานแสดงสินค้าระดับโลกได้ย้ายฐานมาจัดในประเทศไทย เพราะไทยเป็นฐานการผลิตและมีหลายอุตสาหกรรมที่มีความแข็งแกร่ง เช่น อุตสาหกรรมอาหาร, รถยนต์ และท่องเที่ยว เป็นต้น ทำให้ช่วงที่ผ่านมาธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าได้เข้ามาจัดงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“ธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าเริ่มฟื้นตัว และคาดหมายว่าจะมีผู้ร่วมงานแสดงและผู้ชมจากต่างประเทศเข้ามามากขึ้น หากจะดูตัวเลขเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาบริษัทได้จัดงานแสดงสินค้าเบเกอรี กาแฟและไอศกรีมมีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 30 ประเทศ”
นายกวิน กล่าวว่า แนวโน้มดังกล่าวทำให้บริษัทมีความมั่นใจในงานแสดงสินค้าที่จะเตรียมจัดขึ้น 3 งานแสดงสินค้านานาติ ประกอบด้วย งานแสดงแฟรนไชส์ หรือ TFBO งานแสดงอาหารและเครื่องดื่ม TRAFS และงานแสดงสินค้าและบริการเกี่ยวกับธุรกิจค้าปลีก ASEAN Retail ระหว่างวันที่ 20-23 ต.ค.65 ที่ศูนย์ไบเทค บางนา ซึ่งเป็นงานใหญ่ส่งท้ายปี
ทั้ง 3 งานจัดพร้อมกันภายใต้แนวคิด “One Stop Hotel, Food Service, Retail, Franchise Solution” เปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายผู้เข้าชมงานผู้ซื้อจากไทยและต่างประเทศมาชมสินค้านวัตกรรมใหม่ล่าสุด นับพันรายการจากทั่วโลก รวมถึงผู้แสดงจากต่างประเทศ อาทิ สหรัฐฯ เกาหลี ไต้หวัน จีน ฮ่องกง และอินเดีย เป็นต้น เข้ามาเลือกสั่งซื้อสินค้าไฮซีซันในปลายปี สามารถเดินชม 3 งานใหญ่ในที่เดียวกัน นับว่าได้ผลและคุ้มค่าต่อการเดินทาง
เริ่มจากงาน TFBO 2022 มีธุรกิจเกือบ 10 ประเภท กว่า 100 แบรนด์ของไทยและเทศ ให้นักลงทุนที่สนใจมองหาธุรกิจใหม่หรืออยากเป็นเจ้าของธุรกิจได้พบปะกับเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์แบบตัวต่อตัว ประเภทสินค้าประกอบด้วย อาหาร เบเกอรี กาแฟ เครื่องดื่ม เครื่องเขียน คาร์แคร์ เครื่องซักผ้าและตู้หยอดเหรียญบริการ ฯลฯ โดยมีงบลงทุนตั้งแต่หลักหมื่นหรือหลักล้าน
สำหรับงาน TRAFS 2022 ขณะนี้ธุรกิจฟู้ดเซอร์วิส ประกอบด้วย ธุรกิจไฟน์ไดนิ่ง ภัตตาคาร เชนร้านอาหาร, เบเกอรี, ไอศกรีมและกาแฟ กลับมาเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย อีกทั้งยอดจองห้องพักโรงแรม และนักท่องเที่ยวต่างประเทศทยอยเดินทางมาเที่ยวไทยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยคาดว่าจะแตะ 10 ล้านคนในปีนี้และจะขึ้นไปถึง 20 ล้านคนในปีหน้า จึงมีความจำเป็นต้องมองหาอุปกรณ์ ของใช้ วัตถุดิบอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อรองรับเทศกาลปลายปี และการขยายสาขาในปีหน้า
ส่วนงาน ASEAN Retail 2022 ผู้แสดงจะนำเสนอนวัตกรรมสินค้าใหม่ล่าสุดสำหรับธุรกิจค้าปลีกตั้งแต่ขนาดใหญ่ ลงมาถึงขนาดเล็ก คือโมเดิร์นเทรด ศูนย์การค้า ซุปเปอร์มาร์เกต ร้านค้าปลีกตั้งแต่แฟชั่น สินค้าความงาม สุขภาพ แว่นตา สินค้าเบ็ดเตล็ด ฯลฯ ทั้งที่เป็นเชน และร้านค้าเดี่ยว เป็นต้น
นอกจากงานแสดงสินค้าแล้วทางบริษัทได้เตรียมกว่า 25 กิจกรรมอาทิ การสาธิตทำอาหาร เบเกอรี เครื่องดื่ม กาแฟ ชา โดยเชฟชาวไทยและอิตาลี การแข่งขันคั่วกาแฟชิงแชมป์ประเทศไทยเพื่อเป็นตัวแทนไปชิงแชมป์โลก สัมมนาวิชาชีพเสริมทักษะและให้ความรู้สำหรับคนโรงแรม การให้ความรู้ในการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์โดยเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์และนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ โดยคาดหมายว่าในงานดังกล่าวจะมีผู้เข้าชมงานประมาณ 20,000 คน จาก 40 ประเทศ และมีเงินสะพัดกว่า 500 ล้านบาท
นายกวิน กล่าวว่า จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการคาดหมายตรงกันว่าในปีนี้ธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าจะฟื้นตัวในระดับ 80% เมื่อเทียบกับช่วงปกติก่อนเกิดการแพร่ระบาด และจะฟื้นตัว 100% ในปี 2567 ซึ่งอาจจะเร็วกว่านี้หากทิศทางเศรษฐกิจของโลกฟื้นตัวเร็วขึ้นหากสงครามรัสเซีย-ยูเครนไม่ยืดเยื้อ
สำหรับในปีหน้าคาดหมายว่าจะมีต่างชาติเข้ามาจัดงานแสดงสินค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีกหลายงานที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้ไทยเป็นศูนย์กลาง โดยศูนย์ประชุมมีมาตรฐานระดับโลกรองรับการจัดงานใหญ่ได้หลายแห่ง ยิ่งศูนย์ประชุมสิริกิติ์ที่เพิ่งเปิดใหม่ใหญ่อลังการและสวยงามมากจะช่วยเร่งฟื้นเศรษฐกิจของประเทศได้รวดเร็วยิ่งขึ้น.
วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th