"ดองกิ" ค้าปลีกญี่ปุ่นรุกหนัก

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

"ดองกิ" ค้าปลีกญี่ปุ่นรุกหนัก

Date Time: 3 ก.ย. 2565 05:05 น.

Summary

  • “ดองกิ” หรือดองกิโฮเต้ (Don Quijote) ร้านค้าปลีกประเภทดิสเคาน์สโตร์ของญี่ปุ่น หนึ่งในร้านยอดนิยมของชาวไทยแทบทุกคนจะต้องรู้จัก ต้องแวะไปอุดหนุนเมื่อไปเยือนเพราะถูกใจกับความหลากหลายของสินค้า

Latest

รอบรั้วการตลาด : Mega Clinic ทำ all-time high เปิดกลยุทธ์ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย

“ดองกิ” หรือดองกิโฮเต้ (Don Quijote) ร้านค้าปลีกประเภทดิสเคาน์สโตร์ของญี่ปุ่น หนึ่งในร้านยอดนิยมของชาวไทยแทบทุกคนจะต้องรู้จัก ต้องแวะไปอุดหนุนเมื่อไปเยือนเพราะถูกใจกับความหลากหลายของสินค้า ของกิน ของใช้ครบครันตามสไตล์ญี่ปุ่น เข้ากับรสนิยมคนไทยและมีราคาถูกจับต้องได้

ที่สำคัญสามารถช็อปได้ทุกเวลาเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ค่อนข้างสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่มีเวลาช็อปในช่วงเวลาทำการเพราะต้องใช้เวลาทั้งวันออกไปท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจ

จากกระแสดังกล่าวจึงทำให้เกิดการลงทุนธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย เป็นความร่วมมือจากญี่ปุ่นและกลุ่มผู้ร่วมทุนคนไทยคือบริษัทสหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และบริษัททีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด บริษัท แพน แปซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนลโฮลดิงส์ จำกัด (PPIH) กลุ่มญี่ปุ่นถือหุ้นสัดส่วน 60% สหพัฒน์ 22% และทีโอเอ 18% ภายใต้บริษัทดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด โดยฝ่ายญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นผู้บริหาร

ร้านดองกิ ในไทยและในภูมิภาคนี้จะใช้ชื่อ “ดอง ดอง ดองกิ” (DON DON DONKI) ต่างจากร้านดองกิโฮเต้ในประเทศญี่ปุ่น เพราะต้องการการเน้นการจดจำแบรนด์ โดยโมเดลธุรกิจของร้านเป็นผู้เชี่ยวชาญแบรนด์ญี่ปุ่น Japan Brand Specialty Store ดอง ดอง ดองกิ ทองหล่อ เป็นสาขาแรกเปิดให้บริการในปี 2562 ที่ผ่านมา

คอนเซปต์ของดอง ดอง ดองกิ คือ ความอร่อย สุขภาพ สิ่งแวดล้อม เป็นร้านค้าเฉพาะแบรนด์ญี่ปุ่นที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ ซึ่งผลิตในประเทศญี่ปุ่นหรือสำหรับตลาดญี่ปุ่น หลังจากเข้ามาลงทุนในภูมิภาคนี้ ลูกค้าให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

โดยมีโลโก้ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Origami แสดงถึงวัฏจักรของ “การผลิต-การกระจายสินค้า-ผู้บริโภค” และ “การพับกระดาษ Origami ซ้อนกัน” ซึ่งมีความหมายว่า “สามารถรับประกันคุณค่าได้” และจะทำหน้าที่เผยแพร่เสน่ห์ของอาหารและวัฒนธรรมญี่ปุ่นต่อไป

การเข้ามาลงทุนเปิดสาขาในไทยของดองกิเป็นอีกกรณีศึกษา หลังจากเปิดให้บริการสาขาแรก แต่สาขาที่ 2-5 คือสาขาเดอะมาร์เก็ต ราชประสงค์, ซีคอนสแควร์, ซีคอน บางแค และเอ็มบีเค เปิดให้บริการในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 นับเป็นฉกฉวยโอกาสที่การเดินทางระหว่างประเทศถูกปิดกั้นลง คนไทยไม่สามารถเดินทางไปญี่ปุ่นได้ หลายๆคนนึกถึงบรรยากาศที่เคยสัมผัส คิดถึงการท่องเที่ยว

อย่างน้อยๆ การไปช็อปปิ้งที่ดองกิจะช่วยให้หายคิดถึงกันได้ สินค้าอาหาร ของรับประทาน ของใช้ครบครัน เดินเลือกสินค้าที่เรียงรายไปด้วยสินค้าแน่นขนัด จนแทบจะหาทางออกร้านไม่เจอบรรยากาศคล้ายกับร้านในญี่ปุ่น แม้ราคาจำหน่ายร้านดองกิในไทย ราคาจะค่อนข้างสูงก็ตาม

ยังผลให้ดองกิในไทยเดิมที่วางแผนขยายเป็น 10 สาขา เพิ่มเป้าหมายเป็น 20 สาขาในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด อาทิ ภูเก็ต เชียงใหม่ และระยอง เป็นต้นในศูนย์การค้าที่ตอบโจทย์โมเดลธุรกิจของดองกิ

ล่าสุดเตรียมเปิดให้บริการสาขาใหม่ ที่ศูนย์การค้าเจพาร์ค ศรีราชา สาขาที่ 6 และเป็นสาขาแรกนอกกรุงเทพฯ พร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 9 ก.ย.ที่จะถึงนี้ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง บนอาคาร 6 ชั้น พื้นที่ขนาด 2,050 ตารางเมตร ซึ่งเจพาร์คเป็นศูนย์การค้าตกแต่งพื้นที่ภายในสไตล์ญี่ปุ่นยุคสมัยเอโดะ โดยศรีราชาเป็นย่านที่มีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่มากเป็นอันดับสองรองจากกรุงเทพฯ

จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหาร อาหารสด ผักผลไม้ อาหารทะเล เนื้อสัตว์ อาหารพร้อมทาน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องสำอาง สินค้าเบ็ดเตล็ดอุปกรณ์กีฬา ของเล่นและนันทนาการ อุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง และอื่นๆ

รวมทั้งการเปิดร้านซูชิ “SEN SEN SUSHI” ที่ดำเนินการโดย ดอง ดอง ดองกิ สาขาแรกในประเทศไทย จะให้ประสบการณ์อิ่มอร่อยกับซูชิยอดนิยมในแบบต้นตำรับ พบกับวัตถุดิบอย่างปลาแซลมอนยอดนิยม กว่า 10 ชนิดแล้ว ลูกค้ายังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารไปพร้อมๆกับการดูพ่อครัวปั้นซูชิได้อีกด้วย

ภายในร้านแบ่งเป็นหลายโซน อาทิ อาหารพร้อมทานและอาหารสด ขนมปัง KIWAMI และมันหวานญี่ปุ่นที่เป็นสินค้ายอดนิยม อาหารทาน “วากิวเสียบไม้” ไก่ทอดสูตรดั้งเดิม “อิมะกะระ” และอีกมากมายที่สามารถถือทานได้ รวมถึงสินค้าผัก ผลไม้ เนื้อปลา และเนื้อสัตว์ที่มักทานในชีวิตประจำวัน เป็นต้น

ทางด้านของหวานและของใช้ในชีวิตประจำวัน วาฟเฟิล ชูครีม เค้กคาสเทลล่าสดใหม่ และอื่นๆอีกมากมายจากผู้ผลิตขนมสไตล์ตะวันตก “MONTEUR” ซึ่งขึ้นชื่อในประเทศญี่ปุ่น พร้อมจัดหาขนมหายากหรือขนมที่ทำจากข้าวและอื่นๆมาจำหน่าย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ขายซึ่งกลุ่มลูกค้าที่มาแบบครอบครัวสามารถเพลิดเพลินได้ อาทิ เครื่องสำอางที่ผลิตในญี่ปุ่น และของเล่นที่มีลวดลายการ์ตูนอนิเมะที่กำลังโด่งดังในญี่ปุ่นอีกด้วย

นอกจากนี้ยังเร่งดำเนินการในสาขา 7 ซึ่งเป็นสาขาที่จะเปิดต่อไปในต้นปีหน้าที่ศูนย์การค้าธนิยะพลาซ่า ในย่านช็อปปิ้งและแฮงเอาต์ของชาวญี่ปุ่น ที่ลงทุนรีโนเวตปรับโฉมใหม่เข้าหากลุ่มคนรุ่นใหม่และเตรียมพร้อมกับการแข่งขันในย่านสีลมที่มีโครงการยักษ์กำลังก่อสร้างอยู่

ยุคของโควิดที่สร้างผลกระทบไปวงกว้างกลับกลายเป็นโอกาสทองของดองกิในไทย แต่ยังมีปัจจัยความเสี่ยงที่ทางการญี่ปุ่นได้ทยอยยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางเข้าประเทศ และเริ่มมีนักท่องเที่ยวกลับเข้าไปเที่ยวให้หายคิดถึงกัน และเก็บเงินไปใช้จ่ายช็อปปิ้งเพราะราคาที่ญี่ปุ่นถูกกว่าเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับในไทย.

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ