“เอเซียติค” ชู Zero Waste ธุรกิจมะพร้าวสู่ตลาดโลก

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“เอเซียติค” ชู Zero Waste ธุรกิจมะพร้าวสู่ตลาดโลก

Date Time: 11 มิ.ย. 2565 05:45 น.

Summary

  • การเป็น “ผู้ริเริ่ม” หรือ “ผู้บุกเบิกตลาด” สร้างความได้เปรียบจากการเข้าสู่ตลาดเป็นรายแรก ด้วยปรากฏการณ์ความต่างของสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการนำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในกระบวนการผลิต

Latest

อัปเดต 5 กลยุทธ์ขายของ พิชิตใจคน Gen Z อยากรักษ์โลก แต่ของมันต้องมี แบรนด์รับมืออย่างไร?

การเป็น “ผู้ริเริ่ม” หรือ “ผู้บุกเบิกตลาด” สร้างความได้เปรียบจากการเข้าสู่ตลาดเป็นรายแรก ด้วยปรากฏการณ์ความต่างของสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการนำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้สินค้าที่ดีมีคุณภาพ มีความแตกต่างและโดดเด่น สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค ถือเป็น “หัวใจ” สำคัญของความสำเร็จทางธุรกิจ

บริษัท เอเซียติค อุตสาหกรรมเกษตร จำกัด ผู้ผลิต แปรรูป และส่งออกผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวรายใหญ่ของประเทศไทย โดย “ณัฐพล วิสุทธิไกรสีห์” ทายาทรุ่น 2 ในฐานะแม่ทัพใหญ่ผู้กุมบังเหียนในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ เพื่อสานต่อธุรกิจของครอบครัวต่อจากคุณพ่อ

ณัฐพลเล่าให้ฟังว่า เอเซียติคฯ เริ่มทำธุรกิจในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับมะพร้าว ทั้งผลิต ส่งออก และจัดจำหน่ายในประเทศ มาเกือบ 30 ปี โดยก่อตั้งกิจการในปี 2536 เริ่มจากการรับจ้างผลิต (OEM) อาหารกระป๋อง โดยเฉพาะผลไม้กระป๋องส่งออกให้กับผู้ซื้อในต่างประเทศ จนกระทั่งได้ปรับทิศทางของบริษัทให้หันมามุ่งเน้นผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว ทำให้การพัฒนาต่างๆ ต่อยอดไปในทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้นและเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ตัวเขาเริ่มเข้ามาบริหารงานในปี 2546 โดยค่อยๆเรียนรู้งานจากทุกแผนก ทั้งที่ออฟฟิศและโรงงาน เริ่มจากฝ่ายพัฒนาธุรกิจ หลังจากนั้นเข้ามาดูแลการตลาด ซึ่งในช่วงนั้นผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวกำลังเป็นที่นิยม มีการแข่งขันทางการตลาดและราคาสูง บริษัทจึงให้ความสำคัญของการสร้างแบรนด์ เพื่อทำให้ยอดขายสินค้าเติบโตได้อย่างยั่งยืน การมีแบรนด์เป็นของตัวเองทำให้สินค้าโดดเด่น แตกต่าง และเป็นที่รู้จัก และนั่นเป็นที่มาของการสร้างแบรนด์ “โคโค่แม็ก” และ “อัมพวา” ให้เป็นที่รู้จัก ได้การยอมรับทั้งตลาดในประเทศและส่งออกทั่วโลก

ณัฐพลกล่าวว่า เอเซียติคฯ เป็นผู้ริเริ่มและบุกเบิกตลาดเครื่องดื่มจากธรรมชาติเพื่อสุขภาพ ที่ผลิตจากมะพร้าว 100% ภายใต้แบรนด์ “โคโค่แม็ก” และกะทิแท้ 100% “อัมพวา” ในขวด PET รายแรกของประเทศไทย พร้อมการบริหารจัดการเพื่อใช้ทุกส่วนของมะพร้าวให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยนวัตกรรมและกระบวนการผลิตที่ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีบรรจุเย็นภายใต้สภาวะปลอดเชื้อ (Cold Aseptic Filling Technology) ที่ช่วยเก็บรักษาความสดใหม่และคุณภาพใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด เพื่อให้ได้สินค้าเกรดพรีเมียมพร้อมมาตรฐานสากลส่งให้ถึงมือผู้บริโภค รวมถึงหลักคิดการบริหารจัดการของเหลือใช้ให้เท่ากับศูนย์ (Zero Waste Management)

“กุญแจแห่งความสำเร็จของเอเซียติคฯ คือ การยึดถือความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก และต้องรู้จักธุรกิจของตัวเอง แม้เราจะเริ่มจากรับจ้างผลิตเพื่อส่งออก แต่เรายังทำการสำรวจตลาด ศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าที่แตกต่างกันไปในแต่ละตลาด เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค และได้การยอมรับในระดับสากล การันตีได้จากกะทิอัมพวาได้รางวัล Flavor of the Year เป็นปีที่ 2 หลังจากเคยได้รับรางวัลดังกล่าวครั้งแรกในปี 2018 ขณะที่โคโค่แม็ก น้ำมะพร้าวแท้ 100% ได้รับรางวัล Flavor of the Year ปี 2022 จากฝรั่งเศสเป็นปีแรก และมียอดขายอันดับ 1 ในประเทศไทย 4 ปีซ้อนในตลาดน้ำมะพร้าวกลุ่มพรีเมียม”

เพื่อต่อยอดการเป็นผู้นำสินค้านวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัท ได้พัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ภายใต้แบรนด์ “โคโค่มิกซ์” กลุ่มผลิต ภัณฑ์ประกอบอาหารและเครื่องดื่มจากมะพร้าว 100% ตอบโจทย์เทรนด์การบริโภคอาหารที่ทำจากพืช (Plant-based) รายแรก ประกอบด้วย มะพร้าวข้นจืด มะพร้าวข้นหวาน โคโค่นัทครีมเมอร์ โคโค่นัทวิปปิ้งครีม โคโค่นัทซุปเบส และโคโค่นัทบัทเทอร์ ที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้เหมาะกับการใช้เป็นส่วนผสมในการทำเมนูได้หลากหลาย ทั้งอาหาร เบเกอรี และเครื่องดื่ม

สำหรับเป้าหมายและแผนพัฒนาธุรกิจในอนาคต ยังคงให้ความสำคัญกับทิศทางของโลก คือ กระแสความรับผิดชอบต่อภาวะโลกร้อน ยกตัวอย่าง มะพร้าว 1 ลูก นอกจากน้ำและเนื้อมะพร้าวแล้ว ยังมีส่วนประกอบมากมายทั้งเปลือก กะลา และใยมะพร้าว ซึ่งในปัจจุบันมีการบริหารจัดการของเหลือใช้ให้เท่ากับศูนย์ ด้วยการใช้ประโยชน์จากมะพร้าวให้คุ้มค่าและเปิดประโยชน์สูงสุด เป็นหลักคิดในการดำเนินธุรกิจและความท้าทายในการแตกไลน์สินค้าเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับส่วนประกอบต่างๆเหล่านี้ของมะพร้าว

“ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราไม่สามารถเดินทางสำรวจตลาดต่างประเทศจึงต้องศึกษาเทรนด์ต่างๆ แล้วนำมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาสินค้าต่อไปในอนาคต โดยใช้เครื่องมือทางดิจิทัลต่างๆ การบริหารจัดการทั้งความต้องการลูกค้า การขนส่งที่มีข้อจำกัด และปรับกลยุทธ์เพื่อตอบรับกับสถานการณ์ มีการลงทุนด้านการวิจัยและข้อมูลของประเทศเป้าหมายหลักเพื่อทำความเข้าใจตลาดและผู้บริโภค รวมถึงการพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบันและให้ความสำคัญกับเทรนด์ในอนาคต เพื่อพัฒนาธุรกิจให้เติบโตต่อไป” ณัฐพลกล่าวปิดท้าย

การทำธุรกิจต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน นำมาซึ่งความเสี่ยงและโอกาส แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่สามารถตั้งรับ ปรับตัว พัฒนาสินค้า และหาโอกาสใหม่ๆอยู่เสมอ ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงทั้งในปัจจุบันและอนาคต.

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ