กรณีศึกษา “เอพริล” พลิกธุรกิจ

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

กรณีศึกษา “เอพริล” พลิกธุรกิจ

Date Time: 4 มิ.ย. 2565 05:10 น.

Summary

  • กรณีศึกษาธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 แต่ไม่หยุดนิ่งที่จะคิดหาโมเดลธุรกิจพร้อมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มานำเสนอให้ผู้บริโภคจนประสบความสำเร็จ

Latest

รอบรั้วการตลาด : Mega Clinic ทำ all-time high เปิดกลยุทธ์ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย

กรณีศึกษาธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 แต่ไม่หยุดนิ่งที่จะคิดหาโมเดลธุรกิจพร้อมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มานำเสนอให้ผู้บริโภคจนประสบความสำเร็จและช่วยให้ธุรกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ล่าสุดในปีนี้กับเป้าหมายการเติบโตถึง 300% คิดเป็นยอดขายสูงถึง 400 ล้านบาท

แบรนด์ “เอพริล เบเกอรี่” (April’s Bakery) เป็นแบรนด์ที่แจ้งเกิดด้วยพายหมูแดงสูตรฮ่องกง ไม่ใส่สารกันบูด เจ้าแรกของประเทศไทย และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจากการบอกต่อแบบปากต่อปาก จุดเด่นที่การทำพายสดใหม่ทุกวัน มีไส้ให้เลือกหลากหลายกว่า 20 ไส้ ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมดกว่า 40 แห่ง ทั้งในและต่างจังหวัด

ซึ่งสาขาส่วนใหญ่อยู่ในศูนย์การค้า ซึ่งในช่วงโควิดระบาดหนักๆ ได้รับผลกระทบจากการปิดศูนย์การค้า ยอดขายหายไปถึง 60-70% ขณะที่ออเดอร์จากออนไลน์อยู่ในระดับต่ำ แต่ต้องทำเพื่อรักษาพนักงาน พยายามประคับประคอง ไม่ลดเงินเดือน

สิ่งที่พลิกเกมครั้งใหญ่ของแบรนด์ “เอพริล” ก็คือการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “เปี๊ยะโมจิลาวาไข่เค็ม” บรรจุกล่อง 4 ชิ้น ราคา 39 บาท จำหน่ายเฉพาะที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ที่พัฒนาแป้งสูตรพิเศษมีความบางยืด เหนียวนุ่ม หนึบหนับ มาพร้อมกับไส้คัสตาร์ดไข่เค็ม คัดสรรไข่เค็มคุณภาพดีผสมผสานคัสตาร์ดนำเข้าจากประเทศเยอรมนีได้คัสตาร์ดลาวาไข่เค็มให้รสชาติอร่อยกลมกล่อม

นางกนกกัญจน์ มธุรพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิงหาฟู้ด อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นับเป็นมิติใหม่ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างล้นหลาม หลังจากเปิดตลาดมากว่า 3 เดือนที่ผ่านมา เป็นขนมแปลกใหม่ที่ผู้บริโภคชื่นชอบความอร่อย เวลาถ่ายรูปแป้งจะยืดออกมาสวยงาม

“ตอนแรกเราทำเพียงแค่ขนมพายเป็นหลัก ไม่เคยทำอะไรที่เป็นแป้งยืดๆ พอลองผลิตออกมาขายในเซเว่นกลับขายดีที่สุดตั้งแต่ขายมาเลย เราใช้วัตถุดิบคุณภาพทั้งหมด นมผงนำเข้าจากออสเตรเลีย ใช้น้ำมันรำข้าว เนยแท้ ตอนนี้เราผลิตไม่ทันขายแล้ว นอกจากความร่อย ใช้วัตถุดิบคุณภาพแล้ว ราคาจำหน่ายนับว่าถูกกว่าที่ขายกันในตลาดตั้งแต่ 75-100 บาท แต่เราขายเพียง 39 บาท แถมไซส์ใหญ่กว่า รวมถึงโควิดซาลงด้วย”

นางกนกกัญจน์กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ทำราคาได้ดีเพราะการสั่งของวัตถุดิบทีละจำนวนมากๆ จะได้ต้นทุนต่ำกว่า แป้งที่จะต้องใช้วันละ 200-300 กระสอบต้องสั่งเป็นคันๆ รถถูกกว่าซื้อทีละกระสอบ แต่ช่วงนี้ต้นทุนวัตถุดิบขึ้นเยอะมาก ทุกอย่างขึ้นหมดเลย ต้องแบกรับตรงนี้ไว้ อยากให้ลูกค้าซื้อรับประทานในราคาที่จับต้องได้

ปัจจุบันยอดการผลิต “เปี๊ยะโมจิลาวาไข่เค็ม” เต็มที่ได้วันละ 2 แสนชิ้น วางจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ไม่ทั่วถึงเพราะทางร้านเซเว่นต้องการจริงๆ วันละ 4 แสนชิ้น ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ยากมากเพราะก่อนหน้านี้เพิ่งจะเพิ่มกำลังผลิตจากวันละ 8 หมื่นชิ้นเป็น 2 แสนชิ้น พนักงานในโรงงานเพิ่มเป็น 250 คนจาก 80–100 คน

“มีข้อแนะนำสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีที่อยากนำสินค้าเข้าไปขายที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นไม่ใช่เรื่องยากนักแต่โรงงานผลิตจะต้องมีคุณภาพมาตรฐานที่เขากำหนดไว้ ขณะนี้เซเว่นมีนโยบายช่วยเหลือเอสเอ็มอีรายใหม่ มีข้อแนะนำ ปรึกษาสินค้า การขาย แพ็กเกจ ให้คำปรึกษาตลอดเวลาลองติดต่อเข้าไปดู”

สำหรับเป้าหมายต่อไปพยายามพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ ตื่นตัวตลอดเวลา พัฒนาความหลากหลาย ออกสินค้าใหม่ๆต่อเนื่องเพราะผู้บริโภคในยุคโซเชียลแอบเบื่อง่าย ต้องหาสิ่งใหม่ๆกระตุ้นตลอดเวลา.

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ