นาโน อิเลคทริค โปรดักส์ มั่นใจอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์พลาสติกก่อสร้างดีมานด์ล้น รุกโครงการอสังหาฯ ชั้นนำของประเทศ ตั้งเป้ายอดขายปี 65 แตะ 1,500 ล้าน
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 65 นายภัทร บุญญลักษม์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นาโน อิเลคทริค โปรดักส์ จำกัด กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการเปลี่ยนชื่อจากเดิม คือ บางบอน พลาสติค กรุ๊ป เป็น นาโน อิเลคทริค โปรดักส์ เนื่องจากเราต้องการสะท้อนตราสินค้าผ่านชื่อบริษัท
เพื่อให้ผู้บริโภคทั่วไปรวมทั้งลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์เกิดการจดจำแบรนด์ นาโนฯ ได้ง่ายมากขึ้น และปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเซกเมนต์ ด้วยผลิตภัณฑ์และความสามารถในการผลิตของบริษัทเอง
โดยธุรกิจดั่งเดิมของเราเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกที่ใช้ในงานวิศวกรรม มุ่งเน้นการทำธุรกิจผลิตสินค้าสำเร็จรูปและชิ้นส่วนสินค้าตามความต้องการของลูกค้า หรือ OEM ซึ่งผลิตชิ้นส่วนพลาสติกที่มีคุณภาพสูงในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ คอมพิวเตอร์ รวมถึงอุปกรณ์และส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้าให้แก่แบรนด์ชั้นนำทั้งในไทยและต่างประเทศ
กระทั้ง ในปี 2550 บริษัทได้ขยายฐานการผลิตเพิ่มเติมและก่อตั้งแบรนด์ นาโน อิเลคทริค โปรดักส์ เพื่อจัดจำหน่ายสินค้าประเภท ท่อร้อยสายไฟ รางเก็บสายไฟ ตู้กันน้ำ กล่องกันน้ำ แผงไฟฟ้าพลาสติก ตู้คอนซูมเมอร์ สวิตช์-เต้ารับ ฯลฯ โดยได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์มาอย่างยาวนาน
สำหรับช่วง 4 เดือนแรกของปี 2565 ตั้งแต่ ม.ค.-เม.ย บริษัททำยอดขายรวมได้มากถึง 435 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยในปีนี้เราตั้งเป้าหมายทำรายได้ 1,500 ล้านบาท ที่ผ่านมาเราไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดทั้ง Offline และ Online เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น
นอกจากนี้ ยังพัฒนาระบบ IT และระบบ Logistics เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่มากยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทฯ มีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับสถานการณ์ที่สถานประกอบการหลายแห่งต้องปิดการให้บริการและปรับปรุงพื้นที่เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์พลาสติกก่อสร้างมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ 70% จะมาจากกลุ่ม Traditional Trade ซึ่งเป็นร้านค้าชั้นนำในพื้นที่ต่างๆ ภายในประเทศที่เชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าและราคาที่สมเหตุสมผลของแบรนด์นาโนฯ และสัดส่วน 15% จะมาจากผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์จากภาคเอกชนชั้นแนวหน้าที่มีชื่อเสียงอื่นๆ
รวมถึงงานโครงการของภาครัฐอีกด้วย ส่วนรายได้อีก 10% ของบริษัทจะมาจากร้านค้าและผู้ประกอบการในต่างประเทศ และรายได้ส่วนสุดท้ายมาจากช่องทาง Modern Trade และแพลตฟอร์มออนไลน์ ขณะเดียวกันเรายังได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ขององค์กรภาครัฐระดับประเทศอย่างการไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรืด กฟภ ซึ่งได้มีการประกอบธุรกิจระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ หรือ B2G อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
นายภัทร กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษัทได้วางแผนการตลาด เจาะกลุ่มเซกเมนต์ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มที่ในปีนี้ โดยได้เตรียมขยายพื้นที่การผลิตสินค้าและโกดังสินค้าเพิ่มขึ้นกว่า 8,000 ตารางเมตร ทั้งเพิ่มกำลังการผลิต โดยสั่งซื้อเครื่องจักรที่มีคุณภาพจากประเทศญี่ปุ่นและเยอรมนี รวมคิดเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 200 ล้านบาท และเพิ่มทีมเจ้าหน้าที่บริหารงานขายโครงการที่มากด้วยประสบการณ์
นอกจากนี้ ยังรวมถึงเข้าเป็นพาร์ตเนอร์กับสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.), สมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร (BSA), สมาคมช่างเหมาไฟฟ้าและเครื่องกลไทย (TEMCA) และช่องทางการประชาสัมพันธ์ทางออนไลน์อื่นๆ อีกมากมาย เพื่อเพิ่มการโปรโมทและสร้างแบรนด์ดิ้ง ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจระยะยาว