เซ็นทรัลพัฒนา ทุ่ม 6,200 ล้านบาท ปั้นห้าง เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์ เตรียมเปิดตัวไตรมาส 4/2566 ส่วน เซ็นทรัล จันทบุรี เตรียมเปิดให้บริการ วันที่ 26 พ.ค. 65
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 65 นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN กล่าวว่า ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา เราเป็นผู้บุกเบิก Retail Landscape สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศและพัฒนาพื้นที่การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ๆ
พร้อมประสบความสำเร็จในการเป็น Center of Life มาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ต่อยอดสร้าง Sustainable Ecosystem ที่แข็งแกร่งให้ธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า, โครงการที่อยู่อาศัย, โรงแรม และออฟฟิศ ให้เป็นพื้นที่และศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์ผู้คนทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและโครงการของบริษัทฯ เผยว่า เราวางแผนเดินหน้าขยายโปรเจกต์ใหม่และยกระดับโปรเจกต์ที่มีอยู่แล้ว โดยภายใน 2 ปีนี้ วางงบประมาณไว้มากกว่า 20,000 ล้านบาทต่อปี ชูกลยุทธ์ Imagining the future of retail
โดยผสานจุดแข็งของเราใน 3 ส่วนสำคัญ กลยุทธ์ที่ 1 Sustainable Ecosystem การขยายโครงการต่างๆ ในทุกย่าน ทุกเมือง ทุกโลเกชันที่เราเข้าไปร่วมกับคู่ค้า, ผู้ประกอบการท้องถิ่น และชุมชนให้ได้มาอยู่ใน Ecosystem ที่ยั่งยืนของเรา
ล่าสุด เซ็นทรัลพัฒนาเตรียมสร้างปรากฏการณ์พลิกโฉมย่านราชพฤกษ์กับโปรเจกต์ใหม่ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ หรือ Central WestVille มูลค่ารวมกว่า 6,200 ล้านบาท เจาะทำเลราชพฤกษ์เชื่อมตรงสู่ Bangkok CBD บนที่ดิน 40 ไร่ พื้นที่ GFA 93,000 ตร.ม. เตรียมเปิดไตรมาส 4/2566 ปักหมุดย่านใหม่ด้วยการ Reinventing the Neighborhood ซึ่งจะเป็นการยกระดับฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ให้เป็นย่าน Upper-Class Lifestyle
พร้อมบุกเบิกเมืองศักยภาพ เตรียมเปิดเซ็นทรัล จันทบุรี โครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก มูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท ในวันที่ 26 พ.ค. 65 นี้ รองรับความเจริญต่อเนื่องจากเขตเศรษฐกิจ EEC ในอนาคต ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวเมืองรอง
นายเลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารทรัพย์สินของบริษัทฯ กล่าวว่า การเปิดโครงการ เซ็นทรัล ศรีราชา และ เซ็นทรัล อยุธยา ได้รับกระแสตอบรับที่ดี มีทราฟฟิกในช่วงเปิดตัวถึง 50,000 คนต่อวัน
นอกจากนี้เรายังพัฒนาเซ็นทรัลเวิลด์ ด้วยการเปิดโซนใหม่ คือ Zone I รองรับร้านค้า lifestyle brand ทั้ง local & international อีกมากมาย และ โซนฮักไทย ชูจุดขายการตกแต่งในวิถีไทยร่วมสมัย สินค้าและอาหารไทยขึ้นชื่อ เพื่อดึงดูดทั้งลูกค้าชาวไทย ชาวต่างชาติในไทย และพร้อมรับกลุ่มนักท่องเที่ยว
ส่วนเซ็นทรัล วิลเลจ ลักชัวรี่เอาต์เลตแห่งแรกของไทย เปิดตัวเฟสสองมีทราฟฟิกเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบเดือน ม.ค. ในปี 64 และเซ็นทรัล พระราม 2 มีทราฟฟิกเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนรีโนเวต นอกจากนี้ยังมีโครงการพลิกโฉมศูนย์การค้าต่างๆ อีกกว่า 10 โครงการ อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัล พระราม 2, รามอินทรา, พัทยาบีช, แจ้งวัฒนะ, เวสต์เกต, เชียงใหม่ แอร์พอร์ต, และ ขอนแก่น เป็นต้น
ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดของบริษัทฯ กล่าวว่า ส่วนกลยุทธ์ที่ 2 Customer-Centric ที่ทำให้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเป็น Center of Life ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ เป็น Experience Curator คัดสรรอีเวนต์กว่า 1,000 งานต่อปี และการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ในศูนย์การค้า
นายอิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขายของบริษัทฯ กล่าวว่า กลยุทธ์ที่ 3 Partner Champions เราตั้งใจที่จะเป็น Business Partner ที่สร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจของคู่ค้า ช่วยเหลืออย่างครบวงจรแบบ End-to-End Solutions ได้แก่ การช่วยเหลือการเติบโตและขยายสาขาด้วยโมเดล Co-investment, Funding และ Franchise การช่วยเหลือด้าน Business Operation ต่างๆ การใช้ Big Data จาก The 1 และ The 1 Biz และ Retail Omnichannel เพื่อส่งเสริมและผลักดันธุรกิจของคู่ค้า รวมไปถึงการจัดการ Transaction และบริการต่างๆ.