“อินเด็กซ์” ผุดโมเดลใหม่ต่อยอดผู้นำโฮมเฟอร์นิเจอร์

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

“อินเด็กซ์” ผุดโมเดลใหม่ต่อยอดผู้นำโฮมเฟอร์นิเจอร์

Date Time: 19 มี.ค. 2565 05:06 น.

Summary

  • อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ผู้นำในตลาดค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และของตกแต่งบ้านได้เปิดเผยวิสัยทัศน์ Index Nextperience 2022 เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภค

Latest

รอบรั้วการตลาด : Mega Clinic ทำ all-time high เปิดกลยุทธ์ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย

อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ผู้นำในตลาดค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และของตกแต่งบ้านได้เปิดเผยวิสัยทัศน์ Index Nextperience 2022 เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภคในทุกมิติและขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายเติบโตของยอดขาย 8,200 ล้านบาทในปีนี้

ท่ามกลางความ ท้าทายกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังคงอยู่ในปีนี้ แม้จะไม่รุนแรงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา แต่ในยุค Next Normal ที่พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปมากจึงต้องปรับตัวครั้งใหญ่

นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจของอินเด็กซ์ในปีนี้ได้กำหนดวิสัยทัศน์ 4 กลยุทธ์หลัก พร้อมกับตั้งงบลงทุนจำนวน 480 ล้านบาท ประกอบไปด้วย

1.Collaboration Marketing เป็นการร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ๆให้กับลูกค้า โดยที่ผ่านมาได้เริ่มจับมือกับคอมเซเว่น (Com 7) บริหารพื้นที่ศูนย์เครื่องไฟฟ้า Power One ในอินเด็ก ลิฟวิ่งมอลล์ จำนวน 31 สาขาและเปลี่ยนเป็น ร้าน BaNANA เพื่อจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและไอที

ล่าสุดจับมือ “วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา” ร่วมกันสร้างแบรนด์ “DREAMIA” หมอนไฮบริดเพื่อรองรับตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่มีปัญหาจากการนอน อาทิ ภาวะออฟฟิศซินโดรม ปัญหาระบบภายในร่างกายไม่สมดุล ด้วยการนำ 7 นวัตกรรมจากประเทศสหรัฐฯมาใช้ในกระบวนการผลิต

หมอน “DREAMIA” รุ่น Recovery พร้อม “ปลอกหมอนกันเปื้อน รุ่น Omniguard ช่วงเปิดตัวและเพื่อต้อนรับ “วันนอนหลับโลก” ได้มอบสิทธิพิเศษด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 2,990 บาท จากราคาปกติ 4,980 บาท จำหน่ายที่อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ 31 สาขาทั่วประเทศ หรือช็อปออนไลน์

นอกจากนี้ได้เพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าที่นอนและเครื่องนอนของอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ที่มีสัดส่วนการขาย 10% โดยในปี 2563 เติบโต 16% และการเปิดตัวล่าสุดคาดว่าจะกระตุ้นยอดขายให้เติบโตขึ้น 20% และใช้งบการตลาด 20 ล้านบาท

2.Customer Ex perience การเปิดประ สบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภคทั้งช่องทางออฟไลน์&ออนไลน์ นำ AI และบิ๊กดาต้ามารวบรวม วิเคราะห์ตัวตน ความชอบ พฤติกรรมการช็อปของลูกค้า เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และการสร้างฟอร์แมตในสาขาต่างๆใหม่ทั้งการจัดดิสเพลย์สินค้าแต่ละประเภทให้แตกต่างและโดดเด่น

3.Business Diversification การหาธุรกิจใหม่ๆไปในธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ในธุรกิจหลัก เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับธุรกิจ หรือขยายธุรกิจที่มองว่ายังมีช่องทางการทำตลาด ซึ่งล่าสุดได้เปิดซุปเปอร์มาร์เกตเกาหลี SEOUL U MART 2 สาขา รวมทั้งการขยายสาขาอินเด็กซ์ 1 แห่งย่านลาดกระบัง ในรูปแบบมิกซ์ยูสเตรียมเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ขณะที่ต่างประเทศเตรียมขยายสาขารูปแบบเฟรนไชส์ในกลุ่มอาเซียน 5 สาขา

4.Sustainable Development การดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนด้วยการดำเนินโครงการต่างๆ เช่น การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้ครบทุกสาขาภายในปี 2570 ผลิตสินค้าด้วยเทคโนโลยีคำนวณการใช้วัสดุไม้เพื่อการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า เพิ่มสัดส่วนการดีไซน์สินค้าและเลือกใช้บรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุรีไซเคิล รวมทั้งการจัดการขยะและของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ

การกำหนดกลยุทธ์พร้อมโมเดลธุรกิจใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ตรงเป้า ทำให้มีความมั่นใจว่าจะสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมกับการเป็นผู้นำอันดับหนึ่ง ในธุรกิจโฮมเฟอร์นิเจอร์ครบวงจร!!!

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ