สยามพิวรรธน์ เผยปี 64 ยอดสินค้าลักชัวรี่แบรนด์เติบโตกว่า 2 เท่า

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

สยามพิวรรธน์ เผยปี 64 ยอดสินค้าลักชัวรี่แบรนด์เติบโตกว่า 2 เท่า

Date Time: 16 มี.ค. 2565 18:18 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Summary

  • สยามพิวรรธน์ เผยปี 64 ยอดสินค้าลักชัวรี่แบรนด์เติบโตกว่า 2 เท่า สร้างปรากฏการณ์ยอดขายทะลุเป้าทุกศูนย์การค้า ขณะที่ไอคอนสยาม ทุบสถิติยอดขาย ไตรมาส 4/64 สูงสุด นับตั้งแต่เปิดมา 3 ปี

Latest


สยามพิวรรธน์ เผยปี 64 ยอดสินค้าลักชัวรี่แบรนด์เติบโตกว่า 2 เท่า สร้างปรากฏการณ์ยอดขายทะลุเป้าทุกศูนย์การค้า ขณะที่ไอคอนสยาม ทุบสถิติยอดขาย ไตรมาส 4/64 สูงสุด นับตั้งแต่เปิดมา 3 ปี

เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 65 นางสรัลธร อัศเวศน์ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า สยามพิวรรธน์ประสบความสำเร็จอย่างสูงมากในปี 2564 สามารถสร้างรายได้ทะลุเป้าหมายที่วางไว้ถึง 15% ในไตรมาส 4/64 ซึ่งเป็นผลจากการปรับแผนกลยุทธ์การตลาด และการขายออกสู่ทุกแพลตฟอร์มตลอดทั้งปี

โดยมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง ผ่านการสร้างบริการโซเชียลและอีคอมเมิร์ซ (Social and E-Commerce), Call & Shop, Siam Paragon Luxury Chat & Shop และ Ultimate Chat & Shop ที่บริษัทดำเนินการเองเพื่อช่วยขายสินค้าให้บรรดาร้านค้าและพันธมิตรทั้งหมด

ทั้งนี้ ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าครอบคลุมต่างจังหวัดได้สำเร็จ อีกทั้งได้ร่วมมือกับทางแอปพลิเคชันที่หลากหลายเพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายครบรูปแบบออมนิแชนแนล หรือ Omni-Channel จนถึงการเปิดตัว ONESIAM SuperApp เมื่อปลายปี 64 ผลักดันให้ยอดซื้อในส่วนของกลุ่มลูกค้าสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่า 45% จากปี 63

ส่งผลให้ 4 ศูนย์การค้าของบริษัทฯ เป็นศูนย์กลางการ Earn & Burn สิทธิประโยชน์ และ VIZ Coin โดยเชื่อม 1,000 ร้านค้าและพันธมิตรชั้นนำกว่า 100 รายจาก 13 ประเภทอุตสาหกรรม ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจ เพื่อสร้างยอดขายที่ก้าวกระโดดร่วมกันทุกฝ่ายในปี 2565 อย่างต่อเนื่อง

แม้ในปี 64 ที่ผ่านมา จะมีปัจจัยท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่สินค้ากลุ่มลักชัวรี่แบรนด์ทุกประเภทได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าคนไทยล้วนๆ ที่มีกำลังซื้อสูงในทุกศูนย์การค้า โดยเฉพาะจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบสินค้าแบรนด์เนม และหลายแบรนด์ดังมีสต๊อกสินค้าใหม่ๆ ที่มากกว่าร้านในฮ่องกงและสิงคโปร์อีกด้วย ซึ่งระหว่างวิกฤตการณ์โควิดทั้งสองปี ร้านค้ากลุ่มนี้ ในทั้งสองศูนย์การค้าสามารถสร้างยอดขายและมีอัตราเติบโตที่โดดเด่นสูงเป็นลำดับต้นๆ ของโลก

โดยมีปัจจัยมาจากลักชัวรี่แบรนด์หลายรายได้ขยายพื้นที่ของร้านในสยามพารากอน และแบรนด์ดังๆ ได้ร่วมเปิดพื้นที่เป็น Pop-up Store ในไอคอนสยามด้วย เพื่อขายลิมิเต็ดคอลเลกชันพิเศษ ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้าคนไทยท่วมท้นเกินความคาดหมาย ส่งผลให้ปัจจุบันมียอดจองพื้นที่เพื่อเปิด Pop-up Store ทุกเดือนและเต็มตลอดจนถึงปี 2566 แล้ว

นอกจากนี้สยามพิวรรธน์ได้ร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ และพันธมิตรใน เช่น กลุ่มสายการบิน โรงพยาบาล และบริษัทประกันภัย เพื่อช่วยบริหารจัดการลูกค้ากำลังซื้อสูงของทุกรายให้ได้สิทธิประโยชน์ที่เงินซื้อไม่ได้ และเติมเต็มประสบการณ์เหนือความคาดหมายได้มากขึ้น

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้รายได้ของกลุ่มสยามพิวรรธน์ เติบโตเกินเป้าในไตรมาสสุดท้ายของปี 64 คือ กลุ่มวันสยาม หรือ ONESIAM ที่สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ปรับเปลี่ยนพื้นที่โดยมีผู้เช่ารายใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเข้ามาสร้างสีสัน ซึ่งเป็นแรงดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการมากในไตรมาสสุดท้ายของปี

ด้าน นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า หลังจากเปิดให้บริการมาครบ 3 ปี ไอคอนสยามประสบความสำเร็จอย่างมากในการฟันฝ่าและเอาชนะสถานการณ์การแพร่ระบาดตลอดระยะเวลา 2 ปี สามารถสร้างฐานลูกค้าประจำที่เป็นคนไทยล้วนๆ เห็นได้จากจำนวนลูกค้าในปี 2564 ที่เพิ่มขึ้นมากจากปี 2563 ส่งผลให้ยอดขายไตรมาสสุดท้ายเพิ่มขึ้นถึง 43% ซึ่งเป็นรายได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์นับจากเปิดโครงการมาแล้ว 3 ปี และที่สำคัญคือยอดขายเติบโตในทุกกลุ่มสินค้าและบริการ เพราะมีกำลังซื้อจากสมาชิกลูกค้าประจำที่โดดเด่นมาก ซึ่งคิดเป็น 40% ของยอดขายทั้งหมด

ทั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าแม้ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ไอคอนสยามมีฐานลูกค้าประจำที่เป็นคนไทยจำนวนมาก รวมทั้งมีกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นลูกค้าที่อาศัยในฝั่งธนบุรีและจังหวัดใกล้เคียงอีกหลายจังหวัดที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยเป็นประจำ ซึ่งเป็นบทพิสูจน์วิสัยทัศน์แรกเริ่มของไอคอนสยามที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างเศรษฐกิจฝั่งกรุงเทพตะวันตกให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งวันนี้กระทำได้สำเร็จแล้วท่ามกลาง วิกฤติโควิด-19

ส่วนปัจจัยที่จะส่งผลให้มีความคึกคัก คือศูนย์ประชุมและการแสดงมาตรฐานระดับโลก ทรู ไอคอน ฮอลล์ (True Icon Hall) มียอดจองจัดงานแล้วทั้งปี และการที่รถไฟฟ้าสายสีทอง ที่ได้เปิดบริการแล้วจะช่วยส่งเสริมให้ลูกค้าจากทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล เดินทางเข้ามาใช้บริการได้สะดวกสบายอย่างต่อเนื่อง หากมีการเปิดประเทศในปีนี้ และมีนักท่องเที่ยวเข้ามา ยิ่งจะส่งผลให้กิจการของไอคอนสยามเติบโตอย่างก้าวกระโดดอีกด้วย

สำหรับ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นเช่นกัน และได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าทั่วประเทศ เพราะร้านลักชัวรี่แบรนด์เลือกเปิดร้านกับทางสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต เป็นแห่งแรก และแห่งเดียวในไทย ส่งผลให้ยอดขายทะลุเป้ากว่าที่คาดไว้ มีจำนวนลูกค้าสม่ำเสมอต่อเนื่องและยอดจับจ่ายต่อคนอยู่ในระดับสูงจึงส่งผลให้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาแผนการขยายพื้นที่เฟส 2 เนื่องจากมีลักชัวรี่แบรนด์ประสงค์จะเปิดร้านค้าในสยาม พรีเมียม เอาท์เล็ตอีกเป็นจำนวนมาก.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์