“อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้” ดันธุรกิจร้านสะดวกซักบูม

การระบาดของโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบให้กับหลายธุรกิจถ้วนหน้า โดยมีทั้งด้านบวกและด้านลบขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจนั้นๆเป็นรูปแบบไหน ซึ่งหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและเติบโตสวนกระแสคือธุรกิจร้านสะดวกซัก

ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องความสะอาดมากกว่าเดิม จากเมื่อก่อนที่ซักผ้าภายในบ้านตามปกติ ก็เลือกนำผ้าออกมาซักที่ร้านสะดวกซัก ซึ่งใช้เครื่องซักและอบผ้าอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ ทำให้ใช้เวลาไม่นานในการซัก พร้อมมีฟังก์ชันการใช้งานเลือกน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนที่ช่วยฆ่าเชื้อโรค และต่อด้วยเครื่องอบผ้าที่ช่วยให้ประหยัดเวลาในการตากอีกด้วย

นอกจากนั้น ปัจจัยหนุนที่ทำให้ร้านสะดวกซักเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นเพราะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้คนที่มีเวลาจำกัด โดยเลือกใช้เวลากับการพักผ่อนในวันหยุดมากกว่ามาวุ่นวายกับการซักผ้าและตากผ้าที่ต้องใช้เวลานาน ในส่วนของคนที่อาศัยในอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมซึ่งมีพื้นที่จำกัดก็อาจเป็นเรื่องยากในการหาที่วางให้กับเครื่องซักผ้า และไม่จำเป็นต้องใช้เงินไปกับการซื้อเครื่องซักผ้าที่มีราคาสูงเพื่อซักผ้าเพียงสัปดาห์ละไม่กี่ครั้ง

ข้อมูลจากบริษัท อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ ซิสเต็มส์ แอลแอลซี (Alliance Laundry Systems LLC) ผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายเครื่องซักผ้าอบผ้าอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระบุว่า ธุรกิจร้านสะดวกซักของไทยในปี 2565 จะมีจำนวนถึง 3,500 ช็อป เพิ่มจากปี 2564 ที่มี 2,400 ช็อป ขณะที่มูลค่าตลาดรวมของร้านสะดวกซักในปีนี้คาดว่าจะแตะ 10,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านบาท โดยคาดว่าในอีก 6-7 ปีข้างหน้าไทยจะมีร้านสะดวกซักกว่า 9,000 ช็อป

การเติบโตของธุรกิจร้านสะดวกซักนั้น อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ ถือเป็นเจ้าตลาด ด้วยปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดถึง 70% และคาดว่าจะเติบโตเป็น 80% ในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยได้ตั้งเป้ายอดขายของปี 2565 อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท เรียกได้ว่าเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากการเข้ามาทำตลาดในไทยเมื่อปี 2560 ซึ่งตอนนั้นมีร้านที่ใช้สินค้าของอัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ เพียง 6 ช็อปเท่านั้น แต่เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา ตัวเลขพุ่งมาอยู่ที่ 1,565 ช็อป และคาดว่าปี 2565 จะเพิ่มจำนวนอีก 1,000 ช็อป

นายสุกรี กีไร ผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโสประจำภูมิภาคอินโดไชน่าของอัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ กล่าวว่า อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ เป็นบริษัทจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการซักผ้าอบผ้ามาตั้งแต่ปี 2451 หรือ 114 ปีแล้ว ปัจจุบันมีฐานการผลิตหลักอยู่ในสหรัฐอเมริกา, สาธารณรัฐเช็ก, สาธารณรัฐ ประชาชนจีน และไทย โดยได้จำหน่ายเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 1,000 ราย ใน 140 กว่าประเทศทั่วโลก ซึ่งแบรนด์ในเครือที่นำเข้ามาทำการตลาดในไทยมี 4 แบรนด์ ได้แก่ Speed Queen, Huebsch, Primus และ IPSO

“ความสำเร็จของเรามาจากความเชี่ยวชาญและจุดแข็งด้านสินค้าที่มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์การซักและอบผ้าอย่างแท้จริง รวมถึงกลยุทธ์ด้านการตลาดที่เจาะกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะด้วยการจัดงาน Alliance Wealth Investment ที่เปิดให้ตัวแทนจำหน่ายได้รู้ถึงเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ และการเติบโตของธุรกิจ พร้อมทั้งมีข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้สนใจลงทุนเปิดร้านสะดวกซัก โดยได้ต่อยอดไปสู่การจัดกิจกรรมการตลาดในต่างจังหวัดเพื่อเข้าถึงลูกค้ารายใหม่มากขึ้น”

สำหรับปีนี้ อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ เดินหน้าต่อเนื่องในการบุกตลาดต่างจังหวัดผ่านการขยายศูนย์บริการไปตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อเสริมจุดแข็งด้านการบริการลูกค้าอย่างครอบคลุม

นายสุกรีได้มองเทรนด์ร้านสะดวกซักในอนาคตว่าจะมีรูปแบบที่อัปเกรดขึ้น โดยในด้านบริการก็จะมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินที่จะเป็น Contactless Payment หรือการชำระเงินแบบไร้สัมผัสในรูปแบบต่างๆ และภายในร้านก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกระหว่างการใช้บริการ ทั้งทีวี, ไว-ไฟและจุดปลั๊กไฟให้ลูกค้าได้เชื่อมต่ออุปกรณ์เพื่อความบันเทิง รวมถึงมีพื้นที่เด็กเล่นรองรับกลุ่มครอบครัว พร้อมทั้งอาจมีบริการซักอบเสื้อผ้าแบบครบวงจรผ่านระบบออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้มากขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้น ร้านสะดวกซักจะกลายเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ขนาดย่อม โดยจะเห็นภาพของร้านสะดวกซักที่มีคาเฟ่หรือร้านอาหารภายในตัว
หรือการนำร้านสะดวกซักเข้าไปผนวกกับศูนย์บริการต่างๆ เช่น ปั๊มน้ำมัน หรือสถานีชาร์จรถไฟฟ้า

เรียกได้ว่าร้านสะดวกซักในอนาคตจะมีการพลิกโฉมที่จะไม่หยุดอยู่ที่การเป็นเพียงร้านสะดวกซักธรรมดาๆเหมือนเดิมอีกต่อไป.

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th