ตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาปรับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ราคาอาหารและพลังงานในประเทศแพงขึ้น ด้านนักเศรษฐศาสตร์คาดตัวเลขเงินเฟ้อจะพุ่งถึงจุดสูงสุดก่อนปรับลดลงในปีนี้
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ ซีพีไอ ในสหรัฐฯ ในรอบหนึ่งปีปรับขึ้น 7.5 เปอร์เซ็นต์ นับว่าสูงที่สุดในรอบ 40 ปี โดยปัญหาภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาขาดแคลนสินค้าซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะที่กำลังซื้อของประชาชนที่เพิ่มขึ้น โดยราคาอาหารปรับสูงขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ราคาพลังงานปรับขึ้นมากถึง 27 เปอร์เซ็นต์ เฉพาะในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ราคาผู้บริโภคปรับสูงขึ้น 0.6 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์เอาไว้
ด้านนายจาเร็ด เบิร์นสไตน์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจศาสตร์ของทำเนียบขาว ระบุว่า การที่อัตราเงินเฟ้อในประเทศสูงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ จะส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือนอเมริกัน และคาดการณ์ว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะค่อยๆ ปรับลงในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับนักเศรษฐศาสตร์ที่ชี้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุด ก่อนที่จะปรับตัวลดลง
นอกเหนือจากราคาอาหารและพลังงานแล้ว ราคาที่อยู่อาศัย เฟอร์นิเจอร์ รถยนต์มือสอง และสาธารณสุข ยังปรับตัวสูงขึ้นทั้งหมด มีเพียงราคาห้องพักโรงแรมที่ถูกลง เนื่องจากนักเดินทางได้ยกเลิกการจองที่พัก
ขณะเดียวกันธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ทยอยปรับลดโครงการเงินช่วยเหลือในช่วงวิกฤติโรคระบาด พร้อมทั้งส่งสัญญาณเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในต้นปีนี้.
ที่มา: CNN