แกรนด์ ยูนิตี้ เผยแนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยเป็นเรียลดีมานด์มากขึ้น พร้อมเปิดตัวคอนโดใหม่ 3 โครงการใหม่ จับกลุ่ม New GEN
วันที่ 31 ม.ค. 65 นางสาวทัดดาว จิระสวัสดิ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ในปี 64 ที่ผ่านมา เราได้ดำเนินตามแผนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มองหาคอนโดมิเนียมภายใต้สถานการณ์ที่ต้องใช้ความรอบคอบในการตัดสินใจมากขึ้น
โดยพิสูจน์แล้วว่าลูกค้าได้เล็งเห็นถึงคุณภาพหรือ Product Excellence ที่เรามอบให้ในทุกๆ ขั้นตอน ทั้งการเลือกใช้วัสดุในการก่อสร้าง และ Zero Defect ทำให้สามารถปิดการขายโครงการ เซียล่า ศรีปทุมได้เป็นที่เรียบร้อย
ขณะเดียวกันบริษัทฯ เสริมความแข็งแกร่งด้วยการร่วมมือกับบริษัท เซนเซส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ SENSES ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารพื้นที่อาคารที่พักอาศัย เข้ามาช่วยบริหารจัดการงานนิติบุคคลอาคารชุดแบบครบวงจร รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของเราอย่างต่อเนื่อง
สำหรับปี 2565 ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญในการพลิกเกมการดำเนินธุรกิจของแกรนด์ ยูนิตี้ ต่อเนื่องจากปี 2564 ซึ่งถือเป็นปีแห่งการปรับเปลี่ยนและทบทวนกลยุทธ์องค์กร หรือ The Year of Optimization โดยในปีนี้ บริษัท ชูวิสัยทัศน์ Excellence in Values เพื่อยกระดับ 3 กลยุทธ์สำคัญไปสู่การส่งต่อคุณค่าที่เป็นเลิศให้กับลูกค้า ได้แก่
1.Product Excellence การพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ความเป็นเลิศที่มีเครื่องมือชิ้นสำคัญคือการศึกษาความต้องการและปรับตัวตามโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค 2.Service Excellence การดูแลลูกค้าได้อย่างครบวงจรทั้งกิจกรรมสิทธิพิเศษจาก Grand Unity Family
และ 3.People Excellence การเสริมความรู้และทักษะให้กับพนักงานภายใต้แนวคิด Customer-Centric Mindset ซึ่งถือเป็นทรัพยากรสำคัญที่จะสร้างคุณค่าที่ไม่มีสิ้นสุดโดยกลยุทธ์นี้ยังถือเป็นหนึ่งในแผนงานพัฒนาความยั่งยืนของกลุ่มบริษัทในเครือยูนิเวนเจอร์อีกด้วย
ในปี 65 นี้ แกรนด์ ยูนิตี้ ได้เปิดตัวอีกหนึ่งแบรนด์คอนโดมิเนียมน้องใหม่ล่าสุดภายใต้ BLUE Series อย่างแบรนด์ blue เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ GEN ใหม่ และมีราคาที่จับต้องได้ ประกอบไปด้วย 3 โครงการบน 3 ทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ
โดยประเดิมเปิดตัวโครงการแรก ได้แก่ โครงการ บลู พหลโยธิน 35 หลังจากนั้นจะมีการเปิดตัวโครงการ บลู สุขุมวิท 89 และโครงการ บลู สุขุมวิท 105 ตามลำดับ โดยมีมูลค่าโครงการรวมทั้งหมดกว่า 2,500 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน เรายังมุ่งผลักดันยอดขายโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ มูลค่ารวมกว่า 2,700 ล้านบาท และยอดขายรอรับรู้รายได้ หรือ Backlog เพื่อรองรับการโอนในปี 2565-2566 กว่า 3,500 ล้านบาท
เมื่อสถานการณ์ปรับตัวดีขึ้น เรายังมีโครงการที่รอการพัฒนาในหลายทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้า ประมาณการมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท โดยเชื่อว่าในปีนี้ลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นในการส่งต่อคุณภาพในทุกมิติของ แกรนด์ ยูนิตี้ ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน.