โรงงานเภสัช อุตสาหกรรม เจเอสพี เผยโควิดระบาดทำคนรักสุขภาพ ดันลูกค้า OEM จ้างผลิตยา สมุนไพรรองรับดีมานด์ เตรียมขยายโรงงานสกัดกัญชง รองรับการเติบโตทั่วโลก
นายพิษณุ แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท โรงงานเภสัช อุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP กล่าวว่า ในปี 2565 เทรนด์ของการใส่ใจสุขภาพยังได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการระบาดของโควิด-19 ยังคงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นให้ผู้คนให้ความสนใจในสุขภาพมากยิ่งขึ้น
จากเทรนด์การใส่ใจสุขภาพนี้ส่งผลให้มีกลุ่มผู้ประกอบการหน้าใหม่สนใจเข้ามาทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยเฉพาะสินค้าที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายและการส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งการเติบโตนี้ JP ได้เข้าไปมีส่วนสนับสนุนโดยการจัดอบรมให้ความรู้กับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้า
รวมถึงเปิดบริการรับจ้างผลิตสินค้า หรือ OEM ให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ รวมถึงโรงงานขนาดเล็ก ที่ไม่ต้องการแบกรับต้นทุนในการผลิตด้วยตนเอง เพราะหากคำสั่งซื้อมีปริมาณไม่มากพออาจจะไม่คุ้มทุนกับการผลิตเอง และเสี่ยงต่อการปิดกิจการในที่สุด
สำหรับช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 นั้น พบว่า มีผู้ประกอบการเข้ามาใช้บริการ OEM ปี 2563 - ช่วง 9 เดือนแรกของ 64 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 440 ล้านบาท นอกจากนี้ เรายังได้ปูทางสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของตัวเอง หรือกลุ่มคนที่ต้องการยกระดับสินค้าโอทอป แต่ต้องการผลิตสินค้าด้วยโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานแต่ไม่มีเงินลงทุนในการซื้อเครื่องจักร ก็สามารถเข้ามาปรึกษากับเราเพื่อสร้างสินค้าที่ได้มาตรฐาน
รวมถึงยังให้คำปรึกษาด้านบรรจุภัณฑ์ และการขออนุญาตขึ้นทะเบียน อย. ขณะเดียวกันสำหรับผู้ที่ยังไม่มีสินค้าของตัวเอง แต่มีความสนใจที่ต้องการสร้างสินค้าด้านผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทาง เจเอสพี มีทีมวิจัยและพัฒนาที่สามารถช่วยทำงานวิจัยเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องการ เพื่อพัฒนาไปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณภาพมีงานวิจัยรองรับ ซึ่งส่วนนี้ถือเป็นโอกาสในการสร้างอาชีพใหม่ๆ สำหรับผู้ที่ยังว่างงานหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID – 19 ในการพัฒนาแบรนด์เป็นของตัวเองด้วยให้เกิดขึ้นได้จริงด้วยเงินลงทุนที่ไม่สูงมาก
อย่างไรก็ดี จากการสำรวจความต้องการของลูกค้ากลุ่ม OEM พบว่า ความต้องการในการผลิตสินค้าสุขภาพจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น จากพืชสมุนไพรพื้นบ้าน และสินค้าจากสารสกัดพืชกัญชง-กัญชา มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นล่าสุดเราจึงได้ขยายโรงงานที่ลำพูน
รวมถึงติดตั้งเครื่องจักรเพื่อให้เป็นสถานประกอบการสกัดกัญชง ซึ่งเครื่องจักรชุดแรกที่ได้ติดตั้งนี้จะมีกำลังการผลิต 300 กิโลกรัม ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 1/2565 และมีแผนที่จะติดตั้งเครื่องจักรชุดที่ 2 ภายในไตรมาส 3/2565 ซึ่งเครื่องจักรชุดที่ 2 นี้ สามารถรองรับการผลิตได้ถึง 30,000 กิโลกรัม
ทั้งนี้ การขยายโรงงานเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์กัญชงนั้นส่วนหนึ่งเพื่อรองรับการเติบโตของลูกค้า OEM โดยจะมีสินค้าประเภท ยาสมุนไพร อาหารเสริมและเครื่องสำอาง ซึ่งสินค้าเหล่านี้ปัจจุบันแม้จะเริ่มได้รับความนิยมจากทั่วโลก แต่มองว่าภายในอนาคตจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดตามข้อมูลวิจัยของ MarketsandMarkets ที่คาดการณ์ว่า ในปี 2569 ตลาดกัญชาโลกจะมีมูลค่าพุ่งขึ้นสูงถึง 90,400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือมากถึง 2,831,328 ล้านบาท