MQDC ยกระดับ WELL-BEING จับมือไอเคคร๊าฟท์ ต่อยอดผลิตภัณฑ์จาก QVIRA นวัตกรรมเส้นใยยับยั้งเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย เพื่อใช้ในสำนักงานขาย และโครงการที่อยู่อาศัยทุกโครงการ
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 64 นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC กล่าวว่า บริษัทในฐานะที่เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม และให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยภายใต้สุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืนของลูกบ้านทุกคน เราจึงจับมือกับ บริษัท ไอเคคร๊าฟท์ จำกัด โดยนำผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ซึ่งใช้เทคโนโลยี QVIRA Antiviral Fabric
ทั้งนี้ ถือเป็นนวัตกรรมเส้นใยแห่งอนาคตที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกัน และยับยั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้สูงสุดถึง 99% มาใช้ในทุกสำนักงานขาย และพื้นที่ส่วนกลางโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อสร้างความรู้สึกปลอดภัย และความอุ่นใจในสุขอนามัยของลูกบ้าน ลูกค้า พนักงาน ประชาชนทั่วไป และชุมชนโดยรอบ เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและปลอดภัยอย่างยั่งยืน
ด้าน รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษาศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน หรือ RISC by MQDC กล่าวว่า เรามุ่งมั่นในการสร้างและพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมโดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้แนวทาง ‘Sustainnovation’ เพื่อสร้างความยั่งยืนในทุกโครงการของ MQDC ควบคู่ไปกับการดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยการดำเนินการที่ผ่านมา
โดยเราได้ร่วมมือกับพันธมิตรในการศึกษาและวิจัยเพื่อสร้าง Well-being ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหนึ่งในนั้นคือการออกแบบและพัฒนานวัตกรรมจากกระบวนการ Upcycling เพื่อนำขยะมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่า สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง และเป็นการผลักดันการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัย 2 ด้านหลักของ RISC by MQDC คือ สุขภาพและสุขภาวะที่ดี (Health & Wellness) และ วัสดุและการใช้ทรัพยากร (Materials & Resources)
ด้าน ดร.กฤษณา สุขบุญญสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไอเคคร๊าฟท์ จำกัด กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวแห่งความสำเร็จในการพัฒนานวัตกรรมสิ่งทอ เพื่อสร้างสรรค์สุขภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับชีวิต QVIRA Antiviral Fabric ถือเป็นนวัตกรรมเส้นใยแห่งอนาคตที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยเทคโนโลยีระดับนาโนที่ถูกออกแบบให้ฝังลึกเข้าไปเป็นเนื้อเดียวกันกับผ้า จึงทำให้มีคุณสมบัติในการยับยั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรียสูงสุดถึง 99%
โดยสามารถขจัดเชื้อไวรัสได้ทันทีตั้งแต่แรกสัมผัส ด้วยหลักการแลกเปลี่ยนประจุไอออน ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้หนามโปรตีนของไวรัสอ่อนแอลง ทำให้ไวรัสไร้สมรรถภาพและไม่สามารถเพิ่มจำนวนต่อไปได้ นอกจากนี้ยังสามารถยับยั้งเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ เชื้อไวรัสอื่น และยังสามารถยับยั้งแบคทีเรีย เชื้อรา รวมถึงกลิ่นอับได้อีกด้วย.