ตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์รอวันฟื้นตัว

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์รอวันฟื้นตัว

Date Time: 16 ต.ค. 2564 05:09 น.

Summary

  • โคคา-โคล่าระบุว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการต่อยอดความสำเร็จของเครื่องดื่มสูตรไม่มีน้ำตาล นับเป็นนวัตกรรมเครื่องดื่มล่าสุด ที่ไม่เพียงสร้างความคึกคักให้กับตลาดน้ำอัดลม

Latest

รอบรั้วการตลาด : Mega Clinic ทำ all-time high เปิดกลยุทธ์ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย

กลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่าในประเทศไทย ได้เปิดตัวไลน์เครื่องดื่มน้ำ อัดลมใหม่ “โค้ก ไม่มีน้ำตาล กลิ่นเชอร์รี” ซึ่งระบุว่าเป็นกลิ่นที่ได้รับความนิยมครองใจแฟน “โค้ก” ในสหรัฐฯ มาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ลิ้มลองรสชาติที่ผสมผสานความซ่าและกลิ่นเชอร์รีได้ลงตัว

ทางโคคา-โคล่าระบุว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการต่อยอดความสำเร็จของเครื่องดื่มสูตรไม่มีน้ำตาล นับเป็นนวัตกรรมเครื่องดื่มล่าสุด ที่ไม่เพียงสร้างความคึกคักให้กับตลาดน้ำอัดลมในประเทศไทยเท่านั้น

แต่ยังเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลองโค้กรสชาติใหม่ๆที่โคคา-โคล่าได้เดินหน้าพัฒนาสู่การเป็นบริษัทเครื่องดื่มแบบครบวงจร ที่ยึดความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก

การเปิดตัวแนะนำ ‘โค้ก ไม่มีน้ำตาล กลิ่นเชอร์รี’ แบบกระป๋องขนาด 325 มิลลิลิตร และขวดพลาสติก PET ขนาด 500 มิลลิลิตร มาพร้อมกิจกรรมการตลาดเต็มรูปแบบ ทั้งโฆษณาทางสื่อโทรทัศน์ สื่อดิจิทัล สื่อนอกบ้าน รวมถึงการสื่อสาร ณ จุดขายและในร้านค้า และสื่อดิจิทัลรูปแบบอื่นๆ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภค

ตลาดน้ำอัดลมเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาด ในเขตพื้นที่คุมเข้ม ร้านอาหาร สถานบันเทิง โรงภาพยนตร์ โรงเรียนต่างๆ ล้วนแต่ปิดตัวลงนานหลายเดือน

ขณะที่กระแสของการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคเป็นเทรนด์มาต่อเนื่อง ยังผลให้เครื่องดื่มที่ผสมวิตามินและสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายออกสู่ตลาดอย่างมากมาย และนโยบายภาครัฐที่จัดเก็บภาษีความหวานทำให้ผู้ประกอบการและแบรนด์ต่างๆต้องปรับตัวกันมาก

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ประเมินตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในปีนี้จะใกล้เคียงระดับ 2 แสนล้าน เติบโตจากปีก่อนหน้าราว 0.5-1.5% ซึ่งนับว่าได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาเป็นปีที่สอง

ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลง ส่วนหนึ่งหันไปดื่มเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงสู่ยุคชีวิตวิถีใหม่

ทั้งนี้เครื่องดื่มน้ำอัดลมและโซดายังมีส่วนแบ่งสูงสุดที่ 31% ตามด้วยน้ำดื่ม 22% เครื่องดื่มชูกำลัง 13% น้ำผักผลไม้ 9% กาแฟพร้อมดื่ม 7% ชาพร้อมดื่ม 7% เครื่องดื่มเกลือแร่ 4% และเครื่องดื่มอื่นๆ 4%

โดยสินค้ากลุ่มกาแฟพร้อมดื่มแบบ Specialty ที่เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าคอกาแฟ น้ำผสมวิตามิน เครื่องดื่มวิตามิน และฟังก์ชันนอลดริงก์อื่นๆ จะเติบโตได้ดีกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยของตลาด เนื่องจากยังสามารถดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคที่ยังมีกำลังซื้อและมองหาเครื่องดื่มใหม่ๆที่ตอบโจทย์เฉพาะได้

ขณะที่สถานการณ์การแข่งขันจะมีความเข้มข้นมากขึ้น และอาจได้เห็นกลยุทธ์ธุรกิจในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อเติมช่องว่างในตลาดเครื่องดื่มแบบดั้งเดิมหรือตอบโจทย์ตลาดเฉพาะกลุ่ม การมุ่งเน้นเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากเดิม ให้คนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังต้องเผชิญปัจจัยท้าทาย ที่อาจกระทบต่อการปรับตัวของธุรกิจ นอกเหนือจากภาวะกำลังซื้อที่เปราะบาง ได้แก่ การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มตามปริมาณน้ำตาลครั้งที่ 3 และแนวโน้มการใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตาม เป็นการคาดการณ์ก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดคลื่นที่ 3 ซึ่งเป็นการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและขยายไปวงกว้างจนถึงปัจจุบัน ซึ่งน่าจะส่งให้ตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในปีนี้น่าจะมีอัตราขยายตัวติดลบ

แต่นโยบายการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา รวมถึงการผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวโดยไม่ต้องตรวจโควิด หรือการกักตัว การเปิดร้านอาหาร สถานบันเทิงและโรงเรียนที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้

ล้วนแต่เป็นผลบวกที่จะทำให้ตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์รอวันฟื้นตัว.

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ