นายกฯ ไม่ปลื้มแนวทางแก้การบินไทย ยังไม่ดึงกลับเป็นรัฐวิสาหกิจ ไม่จัดตั้งสายการบินแห่งชาติใหม่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยภายหลังประชุมเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ในการประชุมครั้งนี้ในที่ประชุมยังไม่ได้สรุปเลือกวิธีที่จะแก้ไขปัญหาการบินไทย ครั้งนี้เป็นการหารือว่าแผนการฟื้นฟูนั้นไปถึงไหนแล้ว คงต้องรอวันที่ 12 พ.ค. 64 ก่อนจึงจะสรุปได้ว่าเจ้าหนี้จะตอบรับแผนหรือไม่ ถ้าหากเจ้าหนี้ไม่รับแผนฟื้นฟู ก็สามารถกลับมาปรับแผนฟื้นฟูได้ ไม่ใช่ว่าเจ้าหนี้ไม่รับแล้วแผนการฟื้นฟูจะจบ ตราบใดที่มูลหนี้ยังมีอยู่ขนาดนี้ มันยังมีกระบวนการของมันอยู่ ขณะเดียวกันยังไม่มีแผนตั้งสายการบินแห่งชาติแห่งใหม่ของไทย ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะมีการนำการบินไทยกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจนั้น ในเรื่องนี้ยังไม่ได้หารือกัน จะต้องชั่งน้ำหนักให้ดี

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปใดๆเกี่ยวกับการบินไทย เนื่องจากอยู่ระหว่างพิจารณาแผนฟื้นฟูของเจ้าหนี้ด้วย รวมถึงประเด็นการนำการบินไทยกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีการโหวตแผนฟื้นฟูการบินไทยในวันที่ 12 พ.ค.นี้ และหลังจากนั้นจะส่งแผนฟื้นฟูต่อไปยังศาลล้มละลายกลางตัดสิน เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การนำการบินไทยกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจนั้น ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างศึกษาข้อดีและข้อเสียของการดำเนินการว่าดำเนินการได้หรือไม่ และควรจะเป็นรัฐวิสาหกิจประเภทใด ในเบื้องต้นมีการนำประเด็นเรื่องสิทธิประโยชน์การบินระหว่างประเทศ ที่การบินไทยต้องเป็นตัวแทนการเจรจาสิทธิการบินต่างๆ หากเป็นรัฐวิสาหกิจจะสามารถเจรจาได้สะดวก ขณะที่เอกชนไม่สามารถเจรจาได้ รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ต้องให้การบินไทยเป็นผู้เจรจาในนามตัวแทนของประเทศไทย ธุรกิจการบิน เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ต้องการความคล่องตัวในการบริหารจัดการ

ดังนั้นการกลับเข้ามาเป็นรัฐวิสาหกิจ ก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบและเหมาะสม หากรัฐต้องการให้การบินไทยกลับมาเป็นสายการบินแห่งชาติ รัฐบาลก็ต้องมีคำตอบที่ชัดเจนว่าเมื่อกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว ยังคงมีการบริหารแบบเดิม มีสิทธิประโยชน์แบบเดิม ประสบปัญหาขาดทุนเหมือนเดิม ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ดังนั้นกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องศึกษาให้ละเอียดและรอบคอบ และควรจะมีความชัดเจน ก่อนที่เจ้าหนี้จะโหวตแผนฟื้นฟูการบินไทยในวันที่ 12 พ.ค.นี้.