“7UP” ลุยประปาใต้เต็มตัว ยึด “ภูเก็ต” หัวหาดธุรกิจน้ำอุปโภค-บริโภค

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“7UP” ลุยประปาใต้เต็มตัว ยึด “ภูเก็ต” หัวหาดธุรกิจน้ำอุปโภค-บริโภค

Date Time: 30 มี.ค. 2564 08:13 น.

Summary

  • 7UP เดินหน้าลุยธุรกิจน้ำ ดันเป็นเรือธงสร้างรายได้หลักมาร์จิ้นสูง ลุ้นขายน้ำประปาภูเก็ตเพิ่ม! หวังผงาดเป็น SOUTH WATER ขณะที่ธุรกิจบำบัดน้ำเพื่อใช้เลี้ยงกุ้งให้ซีพีเอฟโตก้าวกระโดด

Latest

อัปเดต 5 กลยุทธ์ขายของ พิชิตใจคน Gen Z อยากรักษ์โลก แต่ของมันต้องมี แบรนด์รับมืออย่างไร?

7UP เดินหน้าลุยธุรกิจน้ำ ดันเป็นเรือธงสร้างรายได้หลักมาร์จิ้นสูง ลุ้นขายน้ำประปาภูเก็ตเพิ่ม! หวังผงาดเป็น SOUTH WATER ขณะที่ธุรกิจบำบัดน้ำเพื่อใช้เลี้ยงกุ้งให้ซีพีเอฟโตก้าวกระโดด พร้อมตัดใจขายกลุ่มธุรกิจที่ไม่เชี่ยวชาญ นำเงินขยายธุรกิจน้ำ มั่นใจปี 64 รายได้โต 50% ปี 65 โตต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นขนาดเล็กหลายตัวปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น โดยมีปัจจัยกระตุ้นจากพื้นฐานธุรกิจมีแนวโน้มเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น รวมทั้งมีกระแสข่าวว่ามีกลุ่มทุนใหญ่สนใจเข้ามาร่วมทุนหรือซื้อกิจการ ขณะที่ บล.เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ประเมินเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนโยกเงินมาลงทุนในหุ้นเล็ก เนื่องจากเกิดจากการ Search For Yield หาผลตอบแทนของนักลงทุน หลังดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์มานาน ประกอบกับหุ้นไทยปรับขึ้นโดดเด่นเป็นอันดับต้นๆในภูมิภาค โดยเฉพาะราคาหุ้นเล็กปรับขึ้นได้ดีกว่าหุ้นใหญ่ โดยหุ้นที่ราคาถูกเพียงไม่กี่บาทได้รับความสนใจมาก แถมยัง Outperform ได้ดีในปีนี้

เอเซียพลัส จึงได้คัดกรองหุ้นเล็กที่มีคุณสมบัติเด่นคือ ราคาหุ้นต่ำกว่า 1.5 บาท และผลประกอบการระยะสั้นและระยะกลางมีกำไรทั้ง 4Q 63 และทั้งปี 63 แถมกำไรปี 63 ยังขยายตัวได้ เพิ่มโอกาสในการปรับตัวขึ้นของราคา หุ้น นอกจากนี้ ราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชี (PBV) ยังต่ำกว่า 1 เท่า ในเชิงพื้นฐานถือว่าไม่แพงและมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยมากกว่า 5 ล้านบาทต่อวัน ถือว่ามีสภาพคล่องพอที่จะเข้าเก็งกำไรได้ โดยได้หุ้นที่มีคุณสมบัติข้างต้นคือ 7UP, AKR, CCP, ESTAR, KIAT, OCEAN, PRIME และ SKE

คาดปี 64 7UP โตด้วยกำไร 50%

นายมนต์เทพ มะเปี่ยม รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ยูทิลิตี้ส์ แอนด์พาวเวอร์ (7UP) เปิดเผยว่า ปี 64 บริษัทจะเติบโต turnaround อย่างเต็มตัว และโตต่อเนื่องในปี 65 จากปี 63 ที่มีกำไรสุทธิ 122.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 62 ถึง 162.74% ขณะที่มีรายได้ 1,301.43 ล้านบาท และคาดว่าปี 64 จะมีรายได้ 2,000-2,200 ล้านบาท โต 50% จากปี 63 โดยธุรกิจน้ำประปาที่บริษัทชนะประกวดราคา ขายน้ำให้การประปาส่วน– ภูมิภาค(กปภ.)สาขาภูเก็ตเฟส 2 จำนวน 7,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้เร็วๆนี้ หลังจากที่ขายน้ำให้การประปาภูเก็ต เฟส 1 แล้ว 3,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน

นอกจากนี้ ตามแผนที่การประปาภูเก็ต จะเปิดรับซื้อน้ำอีก 26,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวันนั้น บริษัทพร้อมเต็มที่ที่จะเข้าร่วมประกวดราคา โดยมี แหล่งน้ำดิบรองรับได้เพียงพอ หลังเข้าไปลงทุนพัฒนาแหล่งน้ำดิบที่จังหวัดพังงา ในพื้นที่เหมืองเก่าขนาด 340 ไร่ ผลิตน้ำได้ 48,000 ลูกบาศก์เมตร ต่อวัน และสร้างท่อขนส่งรองรับไว้แล้ว ที่สำคัญบริษัทเป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวในจังหวัดภูเก็ต ที่มีใบอนุญาตหรือได้รับสัมปทานการขายน้ำให้ กปภ.ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของเอกชนที่จะขายน้ำให้ กปภ.ได้ หลังจากต้นปีที่ผ่านมา กปภ.ได้ยกเลิกสัญญาการรับซื้อน้ำจากผู้ประ– กอบการ 7 รายในภูเก็ต ทำให้บริษัทมีโอกาสเข้าไปขายน้ำในส่วนนี้ได้

ทั้งนี้ บริษัทดำเนินธุรกิจน้ำประปาภายใต้บริษัทโกลด์ ชอร์ส จำกัด ซึ่ง 7UP ถือหุ้นอยู่ 41% และอยู่ระหว่างถือหุ้นเพิ่มเป็น 80% โดยโกลด์ชอร์สฯ เป็นบริษัทเดียวในภูเก็ตที่ได้รับสัมปทาน ตาม ปว.58 จากกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม อายุ 20 ปี และขอขยายเพิ่มอีก 10 ปี รวมเป็น 30 ปี นอกจากขายน้ำให้กับ กฟภ.ภูเก็ตแล้ว ยังขายให้กับโรงแรมและธุรกิจอื่นๆในเกาะภูเก็ตอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะผลิตน้ำอาร์โอ (RO) คือ นำน้ำทะเลมาผลิตเป็นน้ำจืดขายในเกาะพีพี เกาะยาวน้อย และเกาะท่องเที่ยวต่างๆ เป็นต้น ซึ่งมีความ ต้องการน้ำจืดปริมาณมาก และขายได้ในราคาสูง โดย เราตั้งเป้าเป็น SOUTH WATER ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำประปาร่วมให้บริการประชาชนและภาคธุรกิจท่องเที่ยวครอบคลุมภาคใต้ทั้งหมดร่วมกับ กปภ.

พร้อมยึดหัวหาดภูเก็ตเพิ่มหลังโควิด

“หลังโควิดคลี่คลายและไทยเปิดรับนักท่องเที่ยว จะหนุนความต้องการใช้น้ำในเกาะภูเก็ตเพิ่มขึ้น ซึ่งเฟส 2 คาดว่ารายได้จะเริ่มเข้ามาครึ่งปีหลัง สอดรับกับความต้องการน้ำและการท่องเที่ยวที่จะกลับมา ทำให้รายได้ครึ่งปีหลังต่อเนื่องถึงปีหน้าเพิ่มขึ้น โดยการลงทุนหนักๆได้ผ่านไปแล้ว จากนี้จะเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลจากการลงทุน โดยเฉพาะปี 65 จะเป็นปีที่จะมีการเติบโตอย่างมาก”

นายมนต์เทพกล่าวต่อว่า สำหรับธุรกิจบริหารจัดการงานวิศวกรรมทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมภายใต้บริษัท แซม วอเตอร์ ซัพพลาย จำกัด (SAM) ที่ 7UP ถือหุ้นอยู่ 53% ปัจจุบันได้สัญญาบำบัดน้ำด้วยระบบ Ultrafiltration และผ่านการกำจัดเชื้อด้วยระบบโอโซน (Ozone Generator) ให้กับฟาร์มเลี้ยงกุ้งของเครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ได้ทำมาแล้ว 3 เฟส รวม 124,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และกำลังขยายเฟส 4 เพิ่มอีก 60,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยขยายได้เต็มกำลังผลิตที่ 1 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และซีพีเอฟสนใจร่วมทุนขยายและพัฒนาธุรกิจกับบริษัทเพิ่ม

“ธุรกิจขายน้ำประปาและธุรกิจบำบัดน้ำขายให้ซีพีเอฟเพื่อใช้เลี้ยงกุ้งนี้ ถือเป็นธุรกิจที่มีอนาคตขยายตัวได้อีกมาก ที่สำคัญเป็นธุรกิจที่สร้างกำไรขั้นต้น gross margin สูงถึง 50-60% ส่วนกลุ่มธุรกิจอื่นๆยังคงสร้างรายได้และกำไรต่อเนื่อง แต่บริษัทมีแผนจะขายบางกลุ่มธุรกิจที่ไม่มีความเชี่ยวชาญออก ซึ่งจะสามารถบันทึกเป็นรายได้ และนำเงินที่ได้จากการขายกิจการมาขยายธุรกิจด้านน้ำเพิ่มขึ้นอีก โดยปี 64 ตั้งเป้าล้างขาดทุนสะสมให้หมด เพื่อให้กลับมาจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ