อคส.สอบวินัยร้ายแรง “รุ่งโรจน์” ส่วน “สุชาติ” ไม่ยอมลาออกดึงดันนั่งประธานบอร์ด

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

อคส.สอบวินัยร้ายแรง “รุ่งโรจน์” ส่วน “สุชาติ” ไม่ยอมลาออกดึงดันนั่งประธานบอร์ด

Date Time: 20 มี.ค. 2564 05:45 น.

Summary

  • อคส.ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง “รุ่งโรจน์” และเจ้าหน้าที่ อคส. 2 รายเกี่ยวทุจริตถุงมือยาง พร้อมตั้งกรรมการรับผิดทางละเมิด ให้ชดใช้ค่าเสียหาย 2,000 ล้านบาท

Latest

รอบรั้วการตลาด : Mega Clinic ทำ all-time high เปิดกลยุทธ์ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย

อคส.ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง “รุ่งโรจน์” และเจ้าหน้าที่ อคส. 2 รายเกี่ยวทุจริตถุงมือยาง พร้อมตั้งกรรมการรับผิดทางละเมิด ให้ชดใช้ค่าเสียหาย 2,000 ล้านบาท ส่วน“สุชาติ”ยังไม่ลาออกประธานบอร์ด อคส. เตรียมนั่งประชุมบอร์ดประจำเดือน 30 มี.ค.นี้ “ดิเรก”รองประธานบอร์ดพลิกเลิกกดดัน รอให้พิสูจน์ความบริสุทธิ์

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้รายงานผลสอบทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่มี พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ อคส. เป็นประธาน ได้สืบสวนเสร็จสิ้นแล้ว และมีมติ 3 ข้อ ได้แก่

1.ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 ราย มีความผิดวินัยร้ายแรง และเห็นควรให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงทั้ง 3 ราย ซึ่งมีโทษคือ ให้ลาออก หรือไล่ออก

2.คณะกรรมการฯพบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ อคส.จากการดำเนินการของทั้ง 3 ราย คือ เงินมัดจำถุงมือยาง 2,000 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย และความเสียหายอื่นๆ จึงเห็นควรให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด เพื่อให้ทั้ง 3 รายชดใช้ความเสียหายให้กับ อคส.

3.เห็นควรให้ส่งผลการสืบสวนข้อเท็จจริงครั้งนี้ไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประกอบการพิจารณาไต่สวนกรณีทุจริตจัดซื้อถุงมือยางต่อไป

“ได้เร่งรัดให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด ผมไม่ปล่อยไว้แน่นอน และสั่งการให้ผู้อำนวยการ อคส.ให้ร่วมมือกับคณะกรรมการทุกชุด สืบสวนสอบสอนเรื่องนี้ ส่วนเรื่องของประธานบอร์ด อคส.จะลาออกหรือไม่ ให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเขา แต่ผมยืนยันว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด จะถูกดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด ไม่มีปกป้องใคร ขอให้สบายใจได้ ซึ่งบุคคลที่นอกเหนือจากทั้ง 3 รายนี้ ป.ป.ช.กำลังไต่สวนข้อเท็จจริงอยู่ และ ป.ป.ช.มีอำนาจสอบสวนไปถึงผู้ที่สูงกว่าเจ้าหน้าที่ อคส.ทั้ง 3 ราย”

ด้านนายเกรียงศักดิ์ ผู้อำนวยการ อคส. กล่าวว่า วันจันทร์ที่ 22 มี.ค.นี้จะออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เจ้าหน้าที่ อคส.ทั้ง 3 ราย มีกรอบเวลาพิจารณา 30 วัน และตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด โดยจะมีตัวแทนจากกระทรวงการคลังร่วมด้วยมีกรอบพิจารณา 60 วัน ส่วนผลสืบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดกว่า 900 หน้าจะจัดส่ง ป.ป.ช.วันที่ 19 มี.ค.นี้ ส่วนสัญญาค้าถุงมือยางที่ทำกับเอกชนถือเป็นโมฆะทั้งหมด

“ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ อคส. 2,000 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ขณะนี้ ยังไม่ทราบว่า จะมียอดเงินทั้งหมดเท่าไร ต้องรอให้ศาลเป็นผู้พิจารณา แต่คร่าวๆคือ ในส่วนของดอกเบี้ย จะเป็นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ที่ อคส.ต้องสูญเสียไปจากการถอนเงิน 2,000 ล้านบาทออกจากบัญชีของ อคส. เพื่อไปจ่ายค่ามัดจำถุงมือยาง ซึ่งอยู่ที่อัตรา 2% ต่อปี”

ส่วน พ.ต.อ.สุรพงศ์ กล่าวว่า หลังจากที่คณะกรรมการฯได้สืบสวนข้อเท็จจริงเสร็จแล้วและได้แจ้งข้อกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่ของ อคส.ทั้ง 3 รายไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า จัดซื้อถุงมือยางโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และให้เวลาทั้ง 3 รายแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน หลังจากครบ 15 วันเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ทั้ง 3 รายได้ทำเอกสารมาแก้ข้อกล่าวหา พร้อมกับปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด แต่คณะกรรมการฯพิจารณาว่า มีพยานหลักฐาน และเอกสารต่างๆที่ชี้ชัดว่าทั้ง 3 ราย มีความผิดวินัยร้ายแรง จึงเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และคณะกรรมการรับผิดทางละเมิด เพื่อให้ชดใช้ความเสียหาย

ขณะที่ พล.ต.ดิเรก ดีประเสริฐ รองประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) อคส. กล่าวว่า หลังจากที่ก่อนหน้านี้บอร์ด อคส.ได้กดดันให้นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานบอร์ด อคส. ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงสปิริต หลังจากที่ถูกนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.พรรคเพื่อไทย พูดพาดพิงในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่านายสุชาติ เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อถุงมือยางนั้น ขณะนี้บอร์ดไม่ได้กดดันอะไรอีกแล้ว ปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนายสุชาติ หลังจากที่นายสุชาติได้ฟ้องร้องนายประเสริฐว่าหมิ่นประมาท ขณะเดียวกัน ป.ป.ช.ก็อยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้

“บอร์ดต้องแยกแยะ คงไม่ตีรวนอะไรอีกแล้ว เรื่องการประชุมบอร์ดก็ต้องมีการประชุมต่อ เพื่อไม่ให้งานสะดุด ก่อนหน้านี้ที่ผมกดดันให้ประธานบอร์ดลาออก เพราะต้องการให้สังคมรู้ว่า บอร์ดคนอื่นไม่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อถุงมือยางเลย”

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่ 3 ราย ที่ถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ได้แก่ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการ ผู้อำนวยการ อคส. และเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร 8 อีก 2 ราย คือ นายเกียรติขจร แซ่ไต่ และนายมูรธาธร คำบุศย์ ขณะเดียวกัน บอร์ด อคส.จะมีการประชุมประจำเดือนวันที่ 30 มี.ค.นี้ โดยนายสุชาติยังนั่งเป็นประธานเหมือนเดิม.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ