ฟ้อง “กขค.” ไฟเขียวรวมซีพี-โลตัส

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ฟ้อง “กขค.” ไฟเขียวรวมซีพี-โลตัส

Date Time: 16 มี.ค. 2564 05:45 น.

Summary

  • เมื่อวันที่ 15 มี.ค.64 มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้ร่วมกับ 37 องค์กรผู้บริโภคยื่นฟ้องคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอเพิกถอนมติ กขค.ที่อนุญาตให้รวมธุรกิจ

Latest

เศรษฐกิจคอนเทนต์อาเซียนโตพุ่ง 4.85 แสนล้าน สวนทางรายได้ “ครีเอเตอร์” ไม่ได้เยอะอย่างที่ฝัน

น.ส.กชนุช แสงแถลง ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค.64 มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้ร่วมกับ 37 องค์กรผู้บริโภคยื่นฟ้องคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอเพิกถอนมติ กขค.ที่อนุญาตให้รวมธุรกิจระหว่างบริษัท ซีพี รีเทล ดีเวอร์ลอปเม้นท์ จำกัด กับบริษัท เทสโก้ สโตร์ (ประเทศไทย) จำกัด แม้จะเป็นมติเสียงข้างมาก 4 ต่อ 3 เพราะมติดังกล่าวส่งผลให้เครือบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) มีอำนาจเหนือตลาดอย่างสมบูรณ์ในธุรกิจค้าส่งค้าปลีก โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงขึ้นถึง 83.97% ซึ่งซีพีผลิตสินค้าอาหาร และอุปโภคบริโภคตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ อาจนำไปสู่การผูกขาดทางการค้า กลไกตลาดไม่เป็นอิสระ ส่งผลเสียต่อผู้บริโภค ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงระบบเศรษฐกิจของไทย

นอกจากนี้ ก่อนที่ กขค.จะอนุญาตให้รวมธุรกิจ ไม่ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียตามที่ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 กำหนดส่วนขั้นตอนการลงมติก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่ให้กรรมการเสียงข้างน้อยได้ลงมติเพื่อกำหนดเงื่อนไขป้องกันไม่ให้ 2 บริษัทเมื่อรวมธุรกิจแล้วมีอำนาจเหนือตลาดกว่า 80% และผูกขาดตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น

น.ส.กชนุช กล่าวว่า มติเสียงข้างมากของ กขค.ขัดต่อเจตนารมณ์กฎหมายแข่งขันที่มุ่งป้องกันการผูกขาด การทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม และยังขัดกับประกาศ กขค.ที่กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจที่มีส่วนแบ่งในตลาดเกิน 50% เป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด ดังนั้น มติ กขค.จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย “มติกขค.นอกจากทำให้เกิดผลเสียกับประเทศอย่างร้ายแรง ยังเป็นช่องทางให้ผู้ประกอบธุรกิจอื่น เช่น ธุรกิจพลังงาน โทรคมนาคม ภาพยนตร์ ขอรวมธุรกิจจนมีอำนาจเหนือตลาด และผูกขาดสินค้า บริการ จนเกิดการกินรวบประเทศ ส่งผลเสียต่อผู้บริโภคและเศรษฐกิจอย่างมาก”

ด้านนายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการแข่งขันทางการค้า หนึ่งในกรรมการเสียงข้างน้อย กล่าวว่า ทราบเพียงว่ามีผู้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง แต่ยังไม่ทราบว่าศาลรับฟ้องหรือไม่ ถ้ารับศาลจะต้องแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงรายละเอียด อย่างไรก็ตาม มติของ กขค.เป็นการพิจารณาอย่างละเอียด รอบคอบ และคำนึงถึงผลกระทบของทุกภาคส่วนแล้ว อีกทั้งยังมีเงื่อนไข 7 ข้อให้บริษัทที่ควบรวมต้องดำเนินการตามอย่างเข้มงวด โดยต้องส่งรายงานมาให้ กขค.พิจารณาเป็นระยะๆด้วย.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ